VF Wild รถต้นแบบจากวินฟาสต์
ที่พร้อมปฏิวัติวงการรถกระบะไฟฟ้าของโลก
VF Wild กระบะไฟฟ้าต้นแบบจากวินฟาสต์ สัญลักษณ์แห่งการสร้างสรรค์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 (BIMS 2024) หลังจากสร้างกระแสความสนใจให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์มาแล้วทั่วโลก
VF Wild สะท้อนวิสัยทัศน์ของวินฟาสต์ในการพัฒนายานยนต์แห่งอนาคตที่ยั่งยืน ลุยได้ทุกสภาพภูมิประเทศการออกแบบที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมแสดงถึงความมุ่งมั่นของการสร้างยานยนต์ที่มีสมรรถนะอันโดดเด่น ตอบโจทย์ผู้ใช้รถยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และทนทาน
หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวที่งาน CES 2024 รถกระบะต้นแบบ VF Wild ได้รับกระแสความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับคัดเลือกให้ติดอยู่ในการจัดอันดับต่างๆ ของสื่อ และหนังสือพิมพ์หลายฉบับ อาทิ Inverse นิตยสารด้านเทคโนโลยีของอเมริกาที่ยกให้ VinFast VF Wild และ VF 3 ติด 8 อันดับแรกของรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่ดีที่สุดในงาน CES 2024 ด้วยเหตุผลที่ว่า รถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้ “อาจกลายเป็น ‘ทางเลือก’ ของชาวอเมริกัน ที่ต้องการหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า EV แต่ไม่สามารถหรือไม่พร้อมจ่ายเงิน 60,000 ดอลลาร์สำหรับความฝันของตนได้”
การปฏิวัติรถกระบะไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงการทำให้รถรุ่นที่มีอยู่กลายเป็นรถไฟฟ้า สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดนั้นนี่คือการสร้างสุนทรียศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งสะท้อนไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว และผู้ผลิตรถยนต์จากเวียดนามอย่างวินฟาสต์มุ่งมั่นที่จะสร้างพื้นที่เฉพาะของตนในตลาดอันน่าตื่นเต้นนี้
VinFast มุ่งเป้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยที่กำลังเติบโต
อุตสาหกรรมยานยนต์ที่เฟื่องฟูของประเทศไทยนั้นขับเคลื่อนโดยรถกระบะเป็นส่วนใหญ่ และคาดว่าแนวโน้มนี้จะยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดย Statista Market Insights คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรถกระบะจะอยู่ที่ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 และยอดขายจะสูงถึง 303,400 คันในปี 2028
ผู้ใช้รถชาวไทยชื่นชอบรถกระบะมาอย่างยาวนานด้วยสมรรถนะ ความทนทาน และความอเนกประสงค์ VF Wild มุ่งหวังปฏิวัติตลาดด้วยการนำเสนอประสบการณ์ใหม่หมดจด การออกแบบที่โดดเด่น ดูแข็งแกร่ง และคุณสมบัติต่างๆ ที่ล้ำสมัย วินฟาสต์กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับไลฟ์สไตล์การใช้รถกระบะสำหรับผู้ขับขี่ชาวไทย รถกระบะต้นแบบรุ่นนี้จึงไม่เพียงสะท้อนวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบของวินฟาสต์ แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพการผลิตและความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีของผู้ผลิตรถไฟฟ้าจากเวียดนามรายนี้
มิติของ VF Wild จัดอยู่ในประเภทรถกระบะขนาดกลางมีความยาวโดยรวม 209 นิ้ว (5,324 มม.) และความกว้าง 79 นิ้ว (1,997 มม.) พัฒนาให้ใช้งานได้หลากหลาย เพิ่มความสะดวกด้วยประตูกลางไฟฟ้าแบบพับได้ ทำให้ขยายความยาวกระบะจาก 5 ฟุตเป็น 8 ฟุต เมื่อเบาะหลังที่พับลงอัตโนมัติ ทำให้ได้กระบะที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน ด้วยฟังก์ชันการทำงานของกระบะที่ขยายได้ จึงสามารถใช้งานในกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีสไตล์และสะดวกสบาย การออกแบบยังผสานหลังคากระจกแบบพาโนรามา และกระจกมองข้างแบบดิจิทัลเพื่อให้สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์ยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในงาน BIMS 2024 วินฟาสต์จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าครบไลน์เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง VF 3 รถยนต์ SUV ขนาดเล็ก VF 5, VF e34, VF 6, VF 7, VF 8 และ VF 9 ครอบคลุมกลุ่ม A-SUV ถึง E-SUV โดยเฉพาะอย่างยิ่ง VF 5, VF e34, VF 6, VF 7, VF 8 และ VF 9 ที่จัดแสดงจะเป็นรุ่นพวงมาลัยขวาที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตลาดประเทศไทย
ปรัชญาหลักที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
วินฟาสต์ไม่เพียงนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของที่ไร้ความกังวลให้กับลูกค้า ด้วยปรัชญาธุรกิจที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งดำเนินการอย่างจริงจังทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
ในการเดินหน้าครั้งสำคัญเพื่อส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ Pham Nhat Vuong ผู้ก่อตั้งวินฟาสต์ได้เปิดตัว V-Green บริษัทที่ทุ่มเทให้กับการพัฒนาเครือข่ายการชาร์จไฟ โดย V-Green แยกตัวออกมาจากแผนกพัฒนาสถานีชาร์จของวินฟาสต์
V-Green มุ่งเน้นการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในขณะที่วินฟาสต์ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดและการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเป็นผู้นำในการสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จครบวงจร V-Green จึงวางตำแหน่งเป็นพันธมิตรระดับโลกในการปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้า ในระยะเริ่มต้น V-Green จะสรรหาพื้นที่และพันธมิตรเพื่อสร้างและขยายเครือข่ายสถานีชาร์จในตลาดหลักทั่วโลก นอกจากนี้ ยังจะร่วมมือกับบริษัทชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าวินฟาสต์จะสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟฟ้าที่กว้างขวางขึ้น
ด้วยความมุ่งมั่นของวินฟาสต์ที่จะขยายธุรกิจทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและนโยบายหลังการขายที่โดดเด่น การพิชิตตลาดประเทศไทยให้สำเร็จจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตำแหน่งผู้นำของบริษัทในภูมิภาคและทั่วโลก