แอ่วเชียงใหม่กับ Nissan Navara VL ท้าทายทุกขีดจำกัด ไม่ว่าปลายทางอยู่ที่ไหน
นิสสัน นาวารา ใหม่ ที่จะพาคุณก้าวข้ามไปอีกขั้นของทุกข้อจำกัด
สำหรับการเดินทางกับระยะทางไป-กลับ กรุงเทพ-เชียงใหม่เกือบ 1,700 กิโลเมตรในครั้งนี้นะครับเราได้รับความอนุเคราะห์จาก นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ที่ได้ให้ นิสสัน นาวาร่า รุ่น VL ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.3L เทอร์โบคู่ อินเตอร์คูลเลอร์ ปริมาตรกระบอกสูบ 2,298 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาทีทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติพร้อมระบบแมนวล 7 สปีด
พร้อมเทคโนโลยีการขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่จะท้าทายและผ่านอุปสรรคไปได้ในทุกท้องถนน และคันนี้เป็นสีทองแดง ฟอร์จ คอปเปอร์ ราคาอยู่ที่ 1,129,000 บาท
การเดินทางเราเริ่มต้นออกจากกรุงเทพมหานคร ซอยพหลโยธิน 34 ในเวลาประมาณ 21.30 น. กับน้ำมันเต็มความจุถัง 80 ลิตร และใช้ความเร็วโดยเฉลี่ยที่ 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากถนนวิภาวดีรังสิตตัดเข้าถนนพหลโยธิน และวื่งเข้าถนนสายเอเชีย ผ่านจังหวัดปทุมธานี อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท และแวะพักที่จังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นเราก็เดินทางกันต่อเข้าสู่จังหวัดกำแพงเพชร และแวะพักที่จังหวัดตาก หลังจากนั้นก็เดินทางยาวๆสู่จังหวัดลำปาง ที่เราแวะพักเหนื่อยและเติมน้ำมันก่อนเดินทางสู่จุดหมายจังหวัดเชียงใหม่กันต่อ เราถึงตลาดต้นพยอมประมาณ 7.00 โมงนิดๆ ใช้เวลาเดินทาง เกือบ 10 ชั่วโมง
และในการขับรถในระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตรนั้นความเหนื่อยล้าในการขับขี่ต้องเกิดขึ้น แต่เราก็ได้ นิสสัน นาวาร่า VL คันนี้ ที่สามารถวิเคราะห์ความเมื่อยล้าของเราในขณะขับขี่และเตือนโดยมีแก้วกาแฟ ขึ้นโชว์ที่บนหน้าจอแสดงผลให้เราได้รับรู้ และด้วยที่เบาะนั่งโอบกระชับและนั่งสบายกว้างขวางจึงทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเมื่อยล้ามากนักในการขับขี่ และนิสสัน นาวารา VL คันนี้ก็ทำให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งอุ่นใจได้ด้วย 360° Safety Shield ที่ผสานฟังก์ชั่นความปลอดภัยขั้นสุด ปกป้องทุกองศารอบคันจาก ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ที่ทำให้การเดินทางมุ่งสู่ความสำเร็จได้อย่างมั่นใจเต็มร้อย
เราได้ออกมาหาของเด็ดประจำเมืองเชียงใหม่ร้านแรกที่เราไปนั่นคือ ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม ร้านข้าวซอยเจ้าดังประจำเมืองเชียงใหม่ เปิดขายมานานกว่า 70 ปี น้ำซุปเข้มข้นหอม โดยขายทั้งข้าวซอยและอาหารพื้นเมือง ที่อยู่ในซอยฟ้าฮ่ามเมืองเชียงใหม่ การจอดรถอาจจะยากไปสักหน่อยเพราะถนนเล็กเราต้องจอดชิดกำแพงแต่ด้วย นาวาร่า มีกล้องรอบคันทำให้การจอดเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และไม่ผิดหวังกับรสชาติข้าวซอยที่กลมกล่อม
หลังจากอิ่มลงพุงกันแล้วกับข้าวซอยและขนมจีนน้ำเงี้ยวอร่อยๆ ได้ข่าวว่าที่นี่มีคาเฟ่สุนัขและแมวแถวๆถนนบายพาสใกล้ๆกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เราจึงเปิดการเชื่อมต่อระบบแอนดรอยของโทรศัพท์กับตัวรถและความสะดวกสบายเราก็เดินทางมาถึงที่ Joint.S โดยไม่ยากเลย มีพีอาร์สุนัขพันธ์ุซามอยโจจิ และเหล่าน้องแมวหน้ามึนแต่รับแขกเอาใจทาสๆทั้งหลาย แต่วันที่ไปอากาศเริ่มร้อนทำให้เจ้าแมวน้อยหาที่ร่มหลบแดดกันจนไม่เห็นตัว ที่ร้านมีทั้งโซนห้องแอร์แบบกลาสเฮ้าส์แสงสวย และโซนในสวนนั่งแบบห่างๆกำลังสบาย ส่วนเมนูก็มีทั้งเครื่องดื่มชา กาแฟ และขนมเบเกอรี่รสชาติดี ราคาไม่แพง
และก็ถึงเวลาพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้จะได้เดินทางลุยกันต่อกับนิสสัน นาวาร่า คันนี้ที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
เช้าเราเตรียมตัวเดินทางก่อนขึ้นดอยสุเทพเราแวะไหว้อนุเสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ตีนดอยก่อน ซึ่งผู้ที่จะขึ้นไปเที่ยวสักการะวัดพระธาตุดอยสุเทพ จะต้องผ่าน และมักจะจอดแวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยเพื่อความเป็นสวัสดิมงคงแก่ชีวิต และปลอดภัยจากการเดินทาง ทางขึ้นดอยสุเทพเป็นเขาคดเคี้ยวกับทางโค้งแต่ด้วยสมรรถนะของ นิสสัน นาวาร่า VL คันนี้ ทำให้การขับขี่ขึ้นลงเขาเป็นไปอย่างง่ายดายด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่มีพละกำลัง 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติพร้อมระบบแมนวล 7 สปีด การควบคุมอัตราเร่งการส่งกำลังขึ้นเขาลงเขาเป็นไปได้แบบสบายๆ ถึงที่หมายอย่างตั้งใจพร้อมได้แวะสักการะพระธาตุดอยสุเทพ และใครที่เกิดปีมะแมควรมาสักการะนะครับเพราะเป็นพระธาตุประจำปีมะแม พระธาตุดอยสุเทพตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย วัดมีความสูงจากระดับที่ราบเชียงใหม่ราว 689 เมตร และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,046 เมตร เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่
ด้วยสมรรถนะของนาวาร่าคันนี้เราเลยจะเดินทางขึ้นไปชมซากุระเมืองไทยที่บ้านขุนช้างเคี่ยนกันต่อ ระหว่างทางขึ้นนั้นผ่านพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งสถานที่นี้ภายในมีไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแวะชมความสวยงามพร้อมกับเก็บภาพประทับใจกันอย่างมากมายหลายต่อหลายมุมกันเลยทีเดียว แต่เนื่องจากเวลาน้อยเราจึงได้แค่ผ่านและเก็บภาพ นิสสัน นาวาร่า คันนี้กันหน่อยครับ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,373.197 เมตร ในเนื้อที่โดยรอบประมาณ 284 ไร่ คำว่า “ดอยบวกห้า” เป็นชื่อเรียกตามคำพื้นเมือง “ดอย” หมายถึงภูเขา “บวก” หมายถึงหนองน้ำ “ห้า” หมายถึงต้นหว้า รวมหมายความว่า ที่ยอดดอยแห่งนี้มีหนองน้ำอุดมไปด้วยต้นหว้าขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณหนองน้ำ
จากตีนดอยสู่พระตำหนักภูพิงค์การเดินทางบนเขาคดเคี้ยวกับโค้งที่หลากหลายแต่ตัวถนนยังคงกว้างทำให้ง่ายต่อการเดินทาง แต่จากจุดนี้ขึ้นไปดอยปุยถนนจะแคบและคดเคี้ยวเป็นอย่างมากการเดินทางต้องใช้ทักษะในการขับขี่เพื่อความปลอดภัย ขุมพลังที่แรงเต็มประสิทธิภาพ พร้อมระบบช่วยเหลือในการขับขี่ของนิสสัน นาวาร่ายังช่วยทำหน้าที่ได้ดีตลอดเส้นทาง ผสานด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ และโครงสร้างแชสซีส์สุดแกร่งด้วยเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน ให้การเดินทางที่ท้าทายเกิดขึ้นจริง ดอยปุย เป็นที่อยู่ของหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งอยู่เลยขึ้นไปจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ 4 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่ ที่ตั้งของดอยปุยอยู่ในแนวของเทือกเขาถนนธงชัย สูงจากระดับน้ำทะเล 1,658 เมตร เราแวะเข้าไปชมสวนดอกไม้ดอยปุย ที่จัดเป็นสวนเล็กค่าเข้าชมคนละ 10 บาท รอบๆหมู่บ้านก็จะเปิดร้านขายของที่ระลึกกันเต็มไปหมด เวลาที่น้อยนิดเราต้องเดินทางกันต่อแล้วจ้า
หลังจากสอบถามว่าชาวม้งในหมู่บ้านกับดอกซากุระเมืองไทยจึงไม่รอช้าขับนิสสสสัน นาวาร่า มุ่งสู่ขุนช้างเคี่ยนกันเลย แต่ต้องพบกับความผิดหวังเมื่อทางปิดซ่อมจึงไปได้แค่ลานกางเต๊นท์ดอยปุย เลยอดชมความสวยงามของดอกซากุระเมืองไทยหรือดอกพญาเสือโคร่งนั่นเอง สำหรับใครอยากนอนเต๊นท์รับวิวสวยๆ บนยอดดอยปุย ก่อนถึงขุนช่างเคี่ยนจะมีจุดกางเต๊นท์ของอุทยานแห่งชาติไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ในยามค่ำคืน คุณจะได้ชมดาวบนดิน เพราะจุดนี้จะมองเห็นวิวและแสงไฟจากตัวเมืองเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี สามารถจองพื้นที่กางเต๊นท์ ในรูปแบบออนไลน์ล่วงหน้า ได้ที่ http://www.dnp.go.th/parkreserve/ หรือ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ. เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์ 0 5321 0244
เมื่อไม่ได้เดินทางต่อเราก็เดินทางกลับไปหาอะไรทานกัน วันนี้ยังคงติดใจกับข้าวซอยและขนมจีนน้ำเงี้ยวอยู่ เราเดินทางไปที่ซอยฟ้าฮ่ามเช่นเดิมแต่เปลี่ยนร้านเป็นข้าวซอยเสมอใจฟ้าฮ่ามกันวันนี้ ร้านนี้ดูกว้างขวางจัดที่นั่งแบบสบายๆเหมือนโรงอาหารโรงเรียน มีซุ้มร้านนั้น ร้านนี้เยอะแยะอาหารหลากหลาย ก็จัดกันเต็มอิ่มอร่อยกันไป ซึ่งรสชาติของ 2 ร้านนี้แตกต่างกันครับแล้วแต่ใครจะชอบแบบรสจัดหน่อยก็ร้านข้าวซอยเสมอใจฟ้าฮ่าม รสชาติเบาหน่อยก็ร้านข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม แต่สำหรับผมได้ทั้ง 2 ร้านเลยครับ
มาเชียงใหม่แล้วทั้ทีก็เดินทางไปไหว้พระกันอีกซักที่ หลังจากอิ่มหนำสำราญท้องกันแล้วที่วัดพระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการะบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะลงจอดที่สนามบิน อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี และวัดนี้ผู้คนเดินทางมากราบไหว้ขอพรองค์หลวงพ่อทันใจอย่างไม่ขาดสาย หลังมีการเล่าขานถึงพระหลวงพ่อทันใจที่บูชาไปแล้วเกิดประกายแสงสร้างบารมีปาฏิหารย์ให้เห็น เราไม่พลาดทุกการเดินทางจริงๆ 5555
หมดวันกับนิสสัน นาวาร่าไปอีกแล้วที่เชียงใหม่ พรุ่งนี้เตรียมตัวเดินทางกลับ เช้ามาเราเดินทางออกจากที่พักริมคลองชลขับมาเส้นวงแหวนเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 1006 พบหมายใหม่ให้อิ่มท้อง อยู่ตรง เอ็ม สปอร์ต คอมเพล็กซ์ ชื่อร้านเตี๋ยวตุ๋นบ้านสวน มีทั้งเนื้อทั้งหมูรสชาติถูกปากใครผ่านก็แวะมาชิมกันได้นะครับใส่ท้องก่อนเดินทางกลับกรุงเทพเมืองฟ้าอมร
นิสสัน นาวารา จะพาคุณก้าวข้ามไปอีกขั้นของทุกข้อจำกัด เปลี่ยนทุกวันเดินทางเป็นการผจญภัย ไปได้ทุกที่ที่ต้องการ เปิดโลกใหม่ให้กับการเดินทาง เราขับกลับในเส้นทางเดิมผ่านจังหวัดลำพูน ลำปาง และตาก มาถึงที่จังหวัดนี้แล้วไม่เข้ามาชมเขื่อนภูมิพลมันยังไงๆอยู่ เลยกลับรถเลี้ยวซ้ายเข้าไปชมความงามกันซักหน่อยจบทริปอย่างสวยงามกันไปเลยทีเดียว
สำหรับทริปหน้าจะเดินทางด้วยรถอะไร ค่ายไหนอย่าลืมติดตามกันนะครับสำหรับทริปนี้ขอตัวไปพักผ่อนเตรียมลุยงานกันต่อ บ๊ายบาย สวัสดีครับทุกๆท่าน