เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ พา “Tom Luthi” และทีมแข่ง “Dynavolt Intact GP” คว้าชัยชนะครั้งแรก

ในการแข่ง Moto2 สุดร้อนระอุ ณ เมืองออสติน สหรัฐอเมริกา

เครื่องยนต์ไทรอัมพ์ที่ใช้ในการแข่งขัน Moto2 พา Thomas Luthi จากสวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นผู้ชนะคนที่สองของการแข่งรถมอเตอร์ไซค์รายการ Moto2 ที่จัดขึ้น ณ Circuit of Americas เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก Marcel Schrotter เพื่อนร่วมทีม “Dynavolt Intact GP” ครองตำแหน่งในการแข่งขัน Moto2 ที่แสนยากลำบากและท้าทายอย่างเหลือเชื่อ นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของ Jorge Navarro ที่ได้ขึ้นแท่นรับรางวัลในการแข่งขัน Moto2 อีกด้วย

สำหรับการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์รายการ Moto2  ในสัปดาห์ที่สาม พบว่า Marcel Schrotter ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ได้ขึ้นเป็นผู้นำในการแข่งขันสองรอบในวันศุกร์ที่ผ่านมา แซงหน้า Thomas Luthi และขึ้นนำในรอบที่ 2 ตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขัน โดยมี Lorenzo Baldassarri ผู้ชนะทั้งสองครั้งแรกรวมทั้งเป็นผู้นำเข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 15 ในรอบคัดเลือก ท่ามกลางสภาพการแข่งขันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งสภาพอากาศดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อนักแข่งหลายคน และการแข่งขันรอบซ้อม FP3 ได้ถูกยกเลิก เนื่องจากมีฝนตกจนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงตารางการแข่งรอบคัดเลือกในวันศุกร์แบบข้ามคืน

จุดเริ่มต้นของการแข่งขันอันแสนดุเดือดครั้งนี้ มี Alex Marquez ที่ขี่ให้ทีม Marc VDS เป็นผู้ขึ้นนำ โดยได้กระโดดจากลำดับที่สองขึ้นเป็นลำดับแรกในจำนวนเจ็ดรอบ และในรอบที่แปด Thomas Luthi จากทีม Dynavolt ผู้ซึ่งกระโดดขึ้นมาอยู่ลำดับที่สองในรอบเปิดการแข่งขันสามารถทำความเร็วได้ดีกว่าและขึ้นนำทิ้งห่างแบบไม่เหลียวหลัง โดยชัยชนะของ Thomas Luthi ทำให้ก้าวขึ้นเป็นอันดับที่สามในการแข่งขัน ในขณะที่ Marcel Schrotter ก้าวขึ้นอันดับสองโดยรวม ซึ่งมีสามคะแนนตามหลัง Lorenzo Baldassarri ผู้นำแชมป์ที่ไม่ได้ทำคะแนน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุรถชนในรอบเปิด  ซึ่งนักแข่งทั้งสามคนมีคะแนนห่างกันเพียงแค่ห้าคะแนนเท่านั้น

ด้าน สมเกียรติ จันทรา จากทีม Idemitsu ได้บันทึกความเร็วสูงสุดในการแข่งขันรายการ Moto2 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยทำความเร็วที่ 181.3 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งถือเป็นที่น่าประทับใจเมื่อเทียบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไทรอัมพ์สามสูบ 765 ซีซี กับเครื่องยนต์ระดับการแข่งขัน MotoGP 1,000 ซีซี แบบสี่สูบที่สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 215.5 ไมล์ต่อชั่วโมง

ทั้งนี้นักแข่งรถชั้นนำของ MotoGP อย่าง Marc Marquez ได้แสดงความคิดเห็นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “นักแข่งสามารถทำความเร็วอยู่ที่ประมาณ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในตอนท้าย และคิดว่าดีกว่าเครื่องยนต์ปีที่แล้ว เพราะมีความเร็วใกล้เคียงกับรถมอเตอร์ไซค์ในรายการ MotoGP รวมถึง Valentino Rossi ยังได้กล่าวว่า “เครื่องยนต์ Moto2 นี้มีแรงบิดมากกว่าเดิมพร้อมช่วงล่างที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย สำหรับผมถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก”

มร.สตีฟ ซาร์เจนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ กล่าว “ถือเป็นอีกวันหยุดสุดสัปดาห์การแข่งขันที่น่าเหลือเชื่อ และรู้สึกยินดีมากกับฝีมือในสนามที่เต็มไปด้วยความท้าทายที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเส้นทางของการแข่งขันที่ตรงและยาวที่สุด รวมถึงยังมีหลายจุดที่มีการเบรกอย่างหนัก ตามด้วยการเร่งความเร็วอย่างหนักด้วยเกียร์หนึ่ง อีกทั้งสภาพอากาศถือเป็นปัญหาต่อการเตรียมการจนทำให้บางทีมต้องพลาดรอบซ้อม FP3 แต่สิ่งที่ได้เห็นคือการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นและได้เห็นผู้ชนะการแข่งขันหน้าใหม่ภายใต้พลังของไทรอัมพ์ โดยขอแสดงความยินดีกับทอมและทีม Dynavolt Intact

นอกจากนี้ ผมยังรู้สึกดีใจที่ได้ยินว่านักแข่ง MotoGP แนวหน้าให้การสนับสนุนเครื่องยนต์ของไทรอัมพ์ และมีส่วนร่วมในการแข่ง Moto2 มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังจากเครื่องยนต์ไทรอัมพ์สามสูบ 765 ซีซี ที่ช่วยให้การแข่งขัน Moto2 กลายเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น”

อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ไทรอัมพ์ Moto2 แบบ 3 สูบ ขนาด 765 ซีซี พัฒนามาจากเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่ในไทรอัมพ์ สตรีท ทริปเปิล อาร์เอส (Street Triple RS) สามารถแสดงให้เห็นถึงพละกำลังมากกว่า 140 แรงม้า รวมทั้งเสียงของเครื่องยนต์อันทรงพลังได้อย่างน่าทึ่ง และหลังจากการแข่งขันในต่างประเทศทั้งสามครั้งจบลง การแข่งขันรายการ Moto2 ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในยุโรปภายใต้ชื่องาน Red Bull Gran Premio de Espana ณ สนาม Jerez ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์  www.triumphmotorcycles.co.th  ตลอดจนติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand