อุตสาหกรรมรถยนต์มือสองไทยปี 2566 ส่งสัญญาณเติบโตต่อเนื่อง
CARSOME เผยผู้บริโภคหันมาซื้อรถยนต์มือสองผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยลูกค้า 1 ใน 3 โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ทำการซื้อรถผ่านช่องทางออนไลน์โดยไม่ได้มาดูหรือทดลองขับเลยด้วยซ้ำ
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซื้อขายรถยนต์มือสองครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์มือสองออนไลน์จะยังคงเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า เห็นได้ชัดจากยอดการทำธุรกรรมซื้อรถยนต์มือสองผ่านช่องทางออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดย 1 ใน 3 ของลูกค้า CARSOME โดยเฉพาะลูกค้าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เลือกทำธุรกรรมซื้อรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์แบบ 100%
นายศิวภูมิ เลิศสรรค์ศรัญย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์ซัม (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ในปีนี้ CARSOME มองเห็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์มือสองอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะได้เห็นแนวโน้มเดียวกันนี้ในปีถัด ๆ ไป ยิ่งไปกว่านั้น เราพบว่า กว่า 70% ของรถยนต์มือสองของ CARSOME ถูกจองหลังจากโพสต์ขายบนเว็บไซต์ทันที โดยลูกค้าตัดสินใจจองจากการดูเพียงรูปถ่ายรถยนต์แบบ 360 องศา และรายงานการประเมินสภาพรถยนต์เท่านั้น และพบว่า 1 ใน 3 ของลูกค้า CARSOME โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อรถยนต์มือสองมาเป็น
การทำธุรกรรมทางออนไลน์ โดยไม่ต้องการมาทดลองขับหรือตรวจสอบสภาพรถยนต์จริงก่อนซื้อ ข้อมูลเหล่านี้จึงผลักดันให้ CARSOME สานต่อความตั้งใจในการส่งมอบความไว้วางใจและความโปร่งใสให้แก่ลูกค้าต่อไป”
ในปัจจุบัน CARSOME มีรถยนต์มือสองคุณภาพสูงหลากหลายรุ่นจากแบรนด์ต่าง ๆ โดยลูกค้าสามารถชมภาพรถยนต์ได้แบบ 360 องศา และสามารถนัดหมายทดลองขับหรือจองซื้อรถได้บนเว็บไซต์ โดยรถยนต์ทุกคันที่ได้รับการรับรองคุณภาพจาก CARSOME (CARSOME Certified) ได้ผ่านการตรวจเช็กสภาพอย่างละเอียดถึง 175 จุด พร้อมทั้งได้รับการปรับสภาพซ่อมบำรุงที่ครอบคลุมการบริการและการซ่อมแซมทั่วไปรวมถึงเครื่องปรับอากาศภายในรถยนต์ ตัวถังและการทำสี ยางรถยนต์ ตลอดจนถึงการทำความสะอาดและการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์มือสองว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ตลาดรถยนต์มือสองกลับเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น แต่แบรนด์รถยนต์ทั่วโลกกำลังประสบปัญหาการผลิตรถยนต์ใหม่จากการขาดแคลนชิปเซตและชิ้นส่วนสำคัญ ซึ่งคาดว่าตลาดรถยนต์มือสองในปี 2565 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 3-5% หรือราว
600,000 – 700,000 คัน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและรายได้ครัวเรือนโดยรวมฟื้นตัว เช่นเดียวกับปัจจัยของอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ลูกค้าหันมาพิจารณาเลือกซื้อรถยนต์มือสองมากกว่ารถใหม่
ถึงแม้ตลาดในประเทศไทยจะมีแพลตฟอร์มและดีลเลอร์รถยนต์มือสองมากมายนับไม่ถ้วน แต่จากการสำรวจล่าสุดของ NielsenIQ [1] CARSOME ถือเป็นแพลตฟอร์ อีคอมเมิร์ซซื้อขายรถยนต์มือสองที่มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยมีส่วนแบ่งแบรนด์ที่ผู้บริโภคนึกถึงเป็นอันดับแรก (Top-of-Mind Brand) อยู่ที่ 17% นำหน้าคู่แข่งทั้งหมดในตลาด สะท้อนให้เห็นว่า CARSOME เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้บริโภครถยนต์มือสอง นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์มือสองโดยรวม CARSOME ยังครองส่วนแบ่งด้านความเชื่อมโยงของแบรนด์ (Brand linkage) สูงถึง 29% จากโฆษณา “จบทุกปัญหาซื้อ-ขายรถมือสองไม่ได้มาตรฐาน” ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่พร้อมที่จะหันไปซื้อรถยนต์มือสองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นเพื่อประสบการณ์ความสะดวกสบายขั้นสุด ยิ่งไปกว่านั้น การจับมือกับนักฟุตบอลระดับตำนานอย่าง เอริค คันโตนา (Eric Cantona) ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่มาเซอร์ไพรส์ในงานเปิดศูนย์ปรับสภาพและซ่อมบำรุงรถยนต์มือสอง (CARSOME Certified Lab) ที่แรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซื้อ-ขายรถยนต์มือสองให้มากยิ่งขึ้น
“บริษัทฯ รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่าตลาดรถยนต์มือสองจะยังคงเติบโตมากยิ่งขึ้นในปีต่อ ๆ ไป โดยเราจะยังคงยึดมั่นในหลักการสำคัญของแบรนด์ในการส่งต่อความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และทางเลือกที่หลากหลายในการซื้อรถยนต์มือสองให้กับลูกค้าต่อไป” นายศิวภูมิ กล่าวเสริม
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่เว็บไซต์ www.carsome.co.th หรือที่หน้าสาขาต่าง ๆ ของเราทั้งหมด 5 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
[1] CARSOME ได้มอบหมายให้นีลเส็นไอคิว (NielsenIQ) จัดทำรายงานการสำรวจออนไลน์ในกลุ่มผู้ใช้และผู้ที่มีความประสงค์จะใช้รถยนต์มือสอง โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ด้านช่องทางซื้อ-ขายรถยนต์มือสองแบบครบวงจร รวมถึงเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสองในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทยในปัจจุบัน โดยสุ่มตัวอย่างสำรวจตลาดละ 300 ราย ระหว่างวันที่ 15 กันยายน – 10 ตุลาคม 2565