ไอโอซี ลงมติทางการ รับ “มวยไทย” เป็นสหพันธ์กีฬานานาชาติ

ปูทางใหญ่หวังขยับเข้าบรรจุเกมโอลิมปิก

เป็นทางการแล้ว คณะกรรมการโอลิมปิกสากลนานาชาติ หรือ ไอโอซี ลงมติโหวตรับ”มวยไทย” และ สหพันธ์กีฬามวยไทยสมัครเล่น หรือ “อิฟม่า” อย่างเต็มรูปแบบ ในการประชุมไอโอซี ครั้งที่ 138 หลังคณะกรรมการพิจาณาผ่านร่างทุกเกณฑ์  คาดนอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มชาติสมาชิกทั่วโลกได้เล่นกันอย่างแพร่หลายไปแล้ว ยังเปรียบเสมือนการปูทางลุ้นบรรจุเข้าชิงชัยในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง โอลิมปิกเกมส์

 

เมื่อวันที่ 20 ก.ค.64 มร.โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เป็นประธานในการประชุมสมัชชาใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ครั้งที่ 138 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว โดยงานนี้ คุณหญิง ปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) ซึ่งเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมๆกับคณะกรรมการบริหารคนอื่นๆด้วย

สำหรับวาระสำคัญของงานประชุมสมัชชาใหญ่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ครั้งที่138 อยู่ที่การโหวตลงมติอย่างเป็นทางการให้ สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ(IFMA) ได้รับรองอย่างเป็นทางการให้เป็นสหพันธ์กีฬานานาชาติอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งก็ถือเป็นการปูทางไปสู่การบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในอนาคตข้างหน้า ร่วมกับสหพันธ์เชียร์นานาชาติ, สหพันธ์แซมโบ้นานาชาติ, สหพันธ์ไอซ์สต็อคสปอร์ต,  สมาคมองค์กรบ็อกซิ่งโลก และ เวิลด์ ลาครอส

สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ หรือ “อิฟม่า” ก่อตั้งขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ก้าวไกลของสุภาพบุรุษกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอีกไม่นานก็จะมีกลุ่มสุภาพสตรีเข้าร่วมด้วย โดยมีเป้าหมายรวมมวยไทยที่มีอยู่ทั่วโลกนั้นให้มาอยู่ภายใต้กฏกติกาอันเดียวกัน โดยปี 2549 มวยไทยกลายเป็นกีฬาอย่างเป็นทางการ หลังได้รับการเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นโดยขยับอยู่ในฐานะเดียวเทียบเท่ากับฟีฟ่า (FIFA) ของวงการฟุตบอล, ฟีบ้า (FIBA) ของบาสเกตบอล และ ฟีน่า (FINA) ของกีฬาว่ายน้ำ โดยการรับรองจากสมาคมสหพันธ์กีฬานานาชาติ (General Association of International Sports Federations : GAISF) ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “มวยไทย” และอยู่ภายใต้การดูแลของ “อิฟม่า”

ในปี 2555 อิฟม่า ประกาศตัวให้สังคมโลกและโอลิมปิกได้รับทราบถึงความตั้งใจ ก่อนจะยื่นขอการรับรองชั่วคราวจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) และได้รับการรับรองในปี 2559  หลังผ่านเกณฑ์สำคัญทั้งหมด 54 ข้อใน 8 หมวด ก่อนล่าสุดจะได้รับการรับรองอย่างเต็มรูปแบบในที่ประชุมสมัชชาใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ครั้งที่ 138 ซึ่งก็ถือเป็นการปูทางไปสู่การผลักดันให้กีฬามวยไทยให้ยิ่งเป็นที่รู้จัก ให้บรรจุเป้าหมายมีจัดชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมอำนวยการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิกและคณะอนุกรรมการดำเนินการการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยสู่โอลิมปิก เผยว่า ในฐานะที่ไอโอซีได้รับรองมวยไทยและอิฟม่าให้เข้าเป็นสมาชิกถาวร ตน ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการ คณะรัฐบาล และประชาชนชาวไทย รู้สึกภาคภูมิใจ และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่

“ผมต้องขอขอบคุณท่านประธานไอโอซี โทมัส บาค รวมถึงคณะกรรมการทุกท่าน ที่ได้ให้การยอมรับกีฬามวยไทยในครั้งนี้ ผมอยากจะขอชื่นชมอิฟม่า และสมาชิกทั้ง 146 ประเทศ ที่ได้ร่วมมือกัน ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ของโอลิมปิก จนได้รับความไว้วางใจอย่างดีจากไอโอซี ผมขอยืนยันว่า รัฐบาลไทยจะส่งเสริมมวยไทย และสนับสนุนการดำเนินงานของอิฟม่าอย่างเต็มที่ เพราะพวกเรามีเป้าหมายร่วมกัน คือ การผลักดันให้กีฬามวยไทยได้บรรจุเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ภายในอนาคตอันใกล้” พลเอกประวิตร กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานอิฟม่า เปิดเผยว่า ตนต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษสำนักงานระหว่างประเทศของอิฟม่า ซึ่งนำโดยผู้อำนวยการ ชาริสซ่า ไทนัน ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ได้จริงและมีการจัดทำเอกสารในแอพพลิเคชั่นที่มีความหนากว่า 1,000 หน้า เพื่อแสดงให้ไอโอซีได้เห็นถึงความสอดคล้องของเรากับวาระโอลิมปิก 2020+5”

พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รองประธานอิฟม่า เผยว่า ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารอิฟม่าที่ทำงานอย่างหนักและคณะกรรมการจัดการพิเศษที่ช่วยกันเสนอแนวคิดและทบทวนกระบวนการในการสมัครเพื่อให้ได้รับการรับรอง รวมถึงให้การสนับสนุนเพื่อรวบรวมเอกสารต่างๆ ในการสมัคร  ทั้งนี้ ผู้มีส่วนร่วมกับอิฟม่าทุกฝ่ายและนักกีฬาจากประเทศสมาชิกจำนวน 146 ประเทศ ที่ได้แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อไอโอซีซึ่งนำโดย โธมัส บาค ประธานไอโอซี ที่ให้ความเชื่อมั่นในอิฟม่า และขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับหน่วยงานต่างๆ ของไอโอซีที่ให้ความร่วมมือและคำแนะนำตลอดระยะเวลาที่ทำการยื่นขอคำรับรอง

รองประธานอิฟม่า ยังกล่าวขอบคุณประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการมวยไทย, สเตฟาน ฟ็อกซ์เลขาธิการของอิฟม่าในฐานะประธานของ AIMS (Alliance of Independent Recognised Members of Sport) โดยที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการช่วยผลักดันให้กีฬาที่อยู่ภายใต้การดูแลของ AIMS ให้ได้การรับรองมากเป็นสถิติถึง 6 ประเภท ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดที่ได้รับการรับรองในการประชุมคราวเดียวกันของคณะกรรมการบริหารไอโอซี

ไทม์ไลน์ “อิฟม่า” สู่การรับรองของไอโอซี

2535- ก่อตั้งสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟม่า)

2555 – เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการขอการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(ไอโอซี)

2559 – ได้รับการรับรองขั้นแรก

2560 – มวยไทยได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันเวิลด์เกมส์

2564  – วันที่ 10 มิถุนายน คณะกรรมการบริหารไอโอซีมีมติเสนอให้มีการรับรองอิฟม่าอย่างเต็มรูปแบบในการประชุมสมัชชาใหญ่ไอโอซีครั้งที่ 138 ที่กรุงโตเกียว

2564 – วันที่ 20 กรกฎาคม ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ไอโอซีมีมติให้กับการรับรองสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (อิฟม่า) และมวยไทย อย่างเต็มรูปแบบ