TAJA Thailand Car of The Year 2019 รอบแรก 14 คัน จาก 9 ยี่ห้อ
สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย ประกาศรายชื่อรถยนต์ผ่านเข้ารอบ Thailand Car of The Year 2019 มีทั้งสิ้น 14 คัน จาก 9 ยี่ห้อ
สรยท. จัดประชุมเข้มพิจารณารถยนต์คัดเลือกรถยนต์ที่เข้าหลักเกณฑ์เข้ารอบ Thailand Car of The Year 2019 ประจำปี 2562 ของสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) โดยเชิญสื่อข่าวอาวุโสและผู้ทรงคุณวุฒิที่คร่ำหวอดในสายข่าวยานยนต์ร่วมพิจารณาคุณสมบัติรถยนต์แต่ละรุ่นที่จะผ่านเข้ารอบตามเงือนไขที่กำหนดอย่างครบถ้วน โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้รถยนต์ผ่านเข้ารอบรวมทั้งสิ้น 14 คัน จาก 9 ยี่ห้อที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทย
นายภูวนาถ เผ่าจินดา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) หรือ Thailand Automotive Journalists : TAJA เปิดเผยว่า ในปีนี้สมาคมฯ ได้จัดงานรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2562 หรือ Thailand Car of The Year 2019 เป็นปีที่ 5 โดยได้เรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมเป็นคณะอนุกรรมการคัดเลือก และตัดสิน ซึ่งทางสมาคมฯมั่นใจว่าทุกกระบวนการคัดเลือกจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมตามเงื่อนไขที่สมาคมฯกำหนด และสอดคล้องกับหลักสากลที่ถือปฏิบัติกันในการคัดเลือกรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี
“การคัดเลือกรถยนต์ที่จะเข้ารอบจะต้องเป็นรถยนต์ที่เปิดตัวระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 นอกจากนี้ยังจะต้องมีคุณสมบัติที่เข้ากับหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้อีกด้วย อาทิ เป็นรถยนต์ที่ประกอบในประเทศ, เป็นรถยนต์ที่ประกอบในอาเซียน, เป็นรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทย และเป็นรถยนต์รุ่นใหม่ที่พิจารณาจากรหัสเครื่องยนต์หรือแชสซีส์ เป็นต้น หลังจากนี้ทางสมาคมฯ จะจัดส่งรายละเอียดรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่ผ่านการคัดเลือกดังกล่าวให้สมาชิกสามัญของสมาคมฯ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะอนุกรรมการ และกรรมการสมาคมฯ ลงคะแนนในรอบต่อไป” นายภูวนาถ กล่าว
นายภูวนาถ กล่าวต่อไปว่า จากการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ และกรรมการสมาคมฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้รถยนต์เข้าเกณฑ์การคัดเลือก 14 คัน จาก 9 ยี่ห้อ ได้แก่
1. BMW X3 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 27 พฤศจิกายน 2561
BMW X3 xDrive20d รถอเนกประสงค์ที่มีรูปลักษณ์แข็งแกร่งแบบออฟโรดผสานความสปอร์ต ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล BMW TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ที่มอบพละกำลัง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร มาพร้อมสองรูปแบบ BMW Individual และ xLine
พร้อมยกระดับความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 3 โซน ชุดไฟเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสาร 6 สี ม่านบังแดดด้านข้างผู้โดยสารตอนหลังแบบอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นมาตรฐานในส่วนเก็บสัมภาระด้วยพนักพิงเบาะหลังแบ่งพับแบบ 40:20:40 และหลังคากระจกแบบพาโนรามาที่เสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d โดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อม BMW Display Key ที่ไม่เพียงล็อคและปลดล็อคยังให้ข้อมูลอีกมากมาย
ราคาจำหน่าย: BMW X3 (บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3) รุ่นสูงสุด – BMW X3 xDrive20d M Sport 3,659,000 บาท
2. Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) – ประกอบอินโดนีเซีย : เปิดตัว 9 กันยายน 2562
Chevrolet Captiva ใหม่ กลับมาอีกครั้งจากฐานการผลิต อินโดนิเซีย เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท สำหรับรุ่น LS จะมี 5 ที่นั่ง ส่วนรุ่น LT และ Premier มี 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวสองสามารถพับแบนราบแยกส่วนแบบ 60:40 และเบาะที่นั่งแถวสามพับแบนราบแยกส่วนแบบ 50:50 จัดเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้สูงสุดถึง 587 ลิตร
เครื่องยนต์ เบนซิน ขนาด 1,451 ซีซี เทอร์โบชาร์จเจอร์ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 รอบต่อนาที มีประสิทธิภาพและพละกำลังในการขับขี่ ทำงานร่วมกับระบบเกียร์แปรผัน แบบซีวีที 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า ระบบรองรับด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลัง มัลทิลิงค์
ราคาจำหน่าย: Chevrolet Captiva (เชฟโรเลต แคปติวา) รุ่นสูงสุด – Premier 1,199,000 บาท
3. Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 19 มีนาคม 2562
HONDA Accord ใหม่ เป็นเจเนอเรชันที่ 10 มาพร้อมทั้งเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและเพื่อความปลอดภัยห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบโดยผสมผสานเอกลักษณ์ความสปอร์ต พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าด้วยฟังก์ชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกล้ำสมัย
มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลัง 190 แรงม้า กำลังบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย
ส่วนระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING
ราคาจำหน่าย: Honda Accord (ฮอนด้า แอคคอร์ด) รุ่นสูงสุด – HYBRID TECH 1,799,000 บาท
4. Mazda 3 (มาสด้า 3) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 18 กันยายน 2562
Mazda 3 นำหน้าเป็นรุ่นแรกของ KODO Design ยุคใหม่มาเสนอพร้อม เทคโนโลยี่ Skyactiv Generation ใหม่ เป็นรถยนต์ในกลุ่ม
C-Segment มีให้เลือกทั้งฟาสท์แบค และซีดาน
เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันได้สูงสุดถึง แกสโซฮอล์ ออกเทน อี85 ระบบรองรับหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชั่นบีม
ราคาจำหน่าย: Mazda 3 (มาสด้า 3) รุ่นสูงสุด -2.0 SP 1,198,000 บาท
5. MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 7 สิงหาคม 2562
MG EXTENDER รถปิกอัพรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ MG มาพร้อมการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT Dynamic มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ ระบบ i-SMART รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย
เครื่องยนต์ ดีเซล คอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น 2.0 ลิตร เทอร์โบ แปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ และแบบธรรมดา 6 จังหวะ ที่สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน
โดยในรุ่น Double Cab จะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L ระบบกันสะเทือนด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ดับเบิลวิชโบน ด้านหลังแหนบแบบซ้อนแผ่น
ราคาจำหน่าย: MG Extender (เอ็มจี เอ็กซ์เทนเดอร์) รุ่นสูงสุด – GC 2.0 GRAND X 6MT ราคา 729,000 บาท
6. MG HS (เอ็มจี เอชเอส) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 25 กันยายน 2562
MG HS ใหม่ ภายใต้แนวคิด “ELEGANCE” พร้อม ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน รถยนต์เอสยูวีในกลุ่ม C-SEGMENT
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตัน-เมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบต่อนาที โดยสามารถทำความเร็ว 0 ถึง 100 ได้ในเวลาไม่ถึง 10 วินาที พร้อมรองรับน้ำมัน ช่วงล่างด้านหน้าแบบ แมคเฟอร์สัน สตรัท ช่วงล่างด้านหลังแบบ มัลทิลิงค์
ราคาจำหน่าย: MG HS (เอ็มจี เอชเอส) รุ่นสูงสุด – รุ่น X 1,119,000 บาท
7. Peugeot 3008 (เปอโยต์ 3008) – ประกอบมาเลเซีย : เปิดตัว 16 สิงหาคม 2562
PEUGEOT 3008 เอสยูวี รุ่นแรกของเปอโยต์ในประเทศไทย เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของดีไซน์แบบยุโรป, และวิศวกรรมมาตรฐานสากล พร้อมไลฟ์สไตล์แบบฝรั่งเศส ขุมพลังของ เปอโยต์ 3008 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร Twin Scroll Turbo 1.6 ลิตรให้กำลัง 167 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,400 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบ Advanced Grip Control
รูปลักษณ์โดดเด่นด้วยเส้นสายตัวถังพลิ้วไหว ผสานไฟท้ายกรงเล็บสิงโต ‘lion claws’ ทุกรุ่นมาพร้อมห้องโดยสารล้ำยุค
‘i-Cockpit’ เฮด-อัพดิสเพลย์อเนกประสงค์ 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลหลากหลาย ติดตั้งเหนือพวงมาลัยขนาดกะทัดรัด เน้นประสิทธิภาพการขับขี่ รวมถึงบรรดาสวิตช์ควบคุมทรงก้านเปียโนสวยงาม มาพร้อม พาโนรามิกซันรูฟ ฝาท้ายแบบไฟฟ้า
ราคาจำหน่าย: Peugeot 3008 (เปอโยต์ 3008) รุ่นสูงสุด – 3008 Allure 1,699,000 บาท
8. Peugeot 5008 (เปอโยต์ 5008) – ประกอบมาเลเซีย : เปิดตัว 16 สิงหาคม 2562
PEUGEOT 5008 เอสยูวี 7 ที่นั่ง ดีไซน์ยุโรปสไตล์ฝรั่งเศส วิศวกรรมที่มาพร้อมความหรูหรา คันเกียร์แบบ Electric Impulse พร้อมแพดเดิลชิฟต์ เบาะนั่งแถวที่ 3 พับปรับแบบราบด้วยการกดเพียงครั้งเดียว
ชุดขับเคลื่อนแบบเดียวกับ 3008 เครื่องยนต์เบนซิน Twin Scroll Turbo 1.6 ลิตร 167 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงถึง 240 นิวตันเมตร ที่ 1,400 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ผสานระบบ Advanced Grip Control และ Hill Assist Descent Control พร้อมโหมดการขับขี่ตามสภาพเส้นทาง ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้า ห้องโดยสารล้ำสมัย พร้อมเฮด-อัพดิสเพลย์แสดงข้อมูลหลากหลาย เหนือพวงมาลัยขนาดกะทัดรัด เน้นประสิทธิภาพการขับขี่
ราคาจำหน่าย: Peugeot 5008 (เปอโยต์ 5008) รุ่นสูงสุด – 5008 Allure 1,899,000 บาท
9. Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 28 พฤศจิกายน 2561
Subaru Forester ใหม่ เป็นรถรุ่นแรกของSubaru ที่กลับมาประกอบในประเทศไทยอีกครั้งโดย บริษัท ตันจงซูบารุ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย จำกัด Forester ใหม่ปรับโครงสร้าง ภาพลักษณ์ ดีไซน์ ภายในรถกว้างขึ้น
เครื่องยนต์ BOXER สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร 156 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 196 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
มีระบบควบคุมวาล์วแปรผันแบบแอคทีฟ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ระบบส่งกำลังแบบแปรผันต่อเนื่อง LINEARTRONIC CVT ระบบขับเคลื่อน Active Torque Split AWD Systemรองรับน้ำมันเบนซิน แกสโซฮอลล์ อี 20
มีฟังก์ชั่น X-MODE ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนภูมิประเทศแบบต่างๆ พร้อมระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลัง ปีนกคู่ดับเบิลวิชโบน
ราคาจำหน่าย: Subaru Forester (ซูบารุ ฟอเรสเตอร์) รุ่นสูงสุด – 2.0 i-S Eyesight AWD 1,450,000 บาท
10. Suzuki Carry (ซูซูกิ แครี่) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 16 สิงหาคม 2562
SUZUKI CARRY มาพร้อมดีไซน์ใหม่ เน้นเส้นตรง และเหลี่ยมมุม ทันสมัย กระจังหน้า และไฟแข็งแสดงความแกร่งทนทานกระบะบรรทุกผลิตจากแผ่นเหล็กป้องกันสนิมและการสึกกร่อน อีกทั้งเพิ่มความกว้างและความยาวของพื้นที่บรรทุก และเปิดได้ทั้ง 3 ด้านช่วยให้ขนถ่ายสัมภาระได้สะดวก รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
ห้องโดยสารใหญ่ขึ้นพร้อมเพิ่มพื้นที่และช่องเก็บของ เบาะที่นั่งคนขับสามารถปรับเลื่อนได้ พวงมาลัยไฟฟ้าช่วยลดการใช้กำลัง เครื่องยนต์บล็อคใหม่ รหัส K15B เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลัง 71 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
ระบบเบรกด้านหน้าแบบจานเบรก ด้านหลังดรัมเบรก พร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS ติดตั้งระบบ Engine Drag Control เพื่อสร้างความสมดุลช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคงในสถานการณ์เมื่อขับขี่บนพื้นเปียกหรือพื้นถนนลื่น
ราคาจำหน่าย: Suzuki Carry (ซูซูกิ แครี่) รุ่นสูงสุด – 385,000 บาท
11. Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออติกา) – ประกอบอินโดนีเซีย : เปิดตัว 6 กุมภาพันธ์ 2562
SUZUKI ERTIGA ดีไซน์และฟังก์ชั่นมุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนาดคอมแพ็ค ที่ออกแบบภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ เรียบหรู ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ ส่วนไฟท้ายเป็นเส้นนำแสง LED Tube พร้อมด้วยความทันสมัย พวงมาลัยทรง D-shape ตกแต่งคอนโซลด้วยลาย
เครื่องยนต์ใหม่ รหัส K15B เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1,462 ซี.ซี. ให้กำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ระบบรองรับหรือช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมคอยล์สปริง ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรก ด้านหลังเป็นดรัมเบรก มีระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว ESP ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้า ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว
ราคาจำหน่าย: Suzuki Ertiga (ซูซูกิ เออติกา) รุ่นสูงสุด – GX ราคา 695,000 บาท
12. Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 3 กันยายน 2562
Toyota Corolla Altis ใหม่ ใช้โครงสร้างแบบ (TNGA Platform) มีมิติตัวเทียบกับโฉมที่แล้วจะพบว่าอัลติส ใหม่ มีมิติตัวรถที่ยาวขึ้น 10 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 5 มิลลิเมตร เตี้ยลง 5 มิลลิเมตร
เครื่องยนต์ในรุ่นสูงสุดจะเป็น ระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 (4th Generation Hybrid) เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด แบบ 4 สูบ ขนาด 1,798 ซีซี. VVT-i ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah ส่งผลให้เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 122 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ระบบรองรับด้านหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท ด้านหลังปีกนกคู่ ดับเบิลวิชโบน
ราคาจำหน่าย: Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) รุ่นสูงสุด – Hybrid High เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,099,000 บาท
13. Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 29 ตุลาคม 2561
Toyota Camry ภาพลักษณ์ใหม่ดีไซน์สปอร์ต หรูหรา ปราดเปรียว ภายในกว้างขวาง พร้อมด้วยโครงสร้างใหม่ TNGA ติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย มีระบบตรวจวัดแรงดันลมยางอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe
เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า เบาะนั่งด้านหลังปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า เครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Atkinson Cycle ชุดเกียร์ E-CVT พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า ติดตั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นมากมาย
ราคาจำหน่าย: Toyota Camry (โตโยต้า คัมรี่) รุ่นสูงสุด – รุ่น 2.5 HV Premium เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,799,000 บาท
14. Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) – ประกอบในประเทศไทย : เปิดตัว 11 มิถุนายน 2562
Toyota Commuter ใหม่ รถตู้ยอดนิยม ได้รับการเปลี่ยนตำแหน่งเครื่องยนต์มาไว้ด้านหน้า เพิ่มความเงียบในห้องโดยสาร ควบคู่ไปกับระบบช่วงล่างใหม่ที่ให้ความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขนาด 2.8 ลิตร GD Efficient Boost 1GD-FTV (High) 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC VN Turbo Intercooler ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 3,400 รตน. และแรงบิดสูงสุด 36.7 กก.-ม. ที่ 1,200-3,400 รตน. รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20 ระบบถ่ายทอดกำลังมีทั้ง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบแหนบใหม่
ราคาจำหน่าย: Toyota Commuter (โตโยต้า คอมมิวเตอร์) รุ่นสูงสุด – 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ 1,299,000 บาท
อนึ่ง คณะอนุกรรมการตัดสินและคัดเลือกรถยนต์ยอดเยี่ยมประจำปี 2562 หรือ Thailand Car of The Year 2019 ที่สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) แต่งตั้งประกอบด้วย
- นายพินิต ทองสุข ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ
- นายวัชระ ธรรมศรี ประธานคณะกรรมการ
- นายยุทธพงษ์ ภาษี กรรมการ
- นายองอาจ จรุงศรี กรรมการ
- นายขจรศักดิ์ ลอย กรรมการ
- นายวรพล สิงห์เขียวพงษ์ กรรมการ
- นายกรกิต กสิคุณ กรรมการ
- นายสมศักดิ์ มีลือการ กรรมการ
- นายเจษฎา วงศ์พานิช กรรมการ
- นายลิขิต น้าประเสริฐ กรรมการ
- นายอัฐฒา นายเรือ กรรมการ
- นายภูวนาถ เผ่าจินดา กรรมการและเลขานุการ