“ซูซูกิ” กระตุ้นตลาดอีโคคาร์เมืองไทย เตรียมแนะนำ SWIFT GL MAX EDITION

อัพเกรดความสปอร์ตเร้าใจ ! เติมเต็มทุกความแตกต่างเหนือใคร ด้วยชุดแต่งพิเศษรอบคัน ราคาเริ่มต้นเพียง 541,000 บาท

นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซูซูกิ นับเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์อีโคคาร์มาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความใส่ใจและตั้งมั่นในการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพออกมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่มองหาความแตกต่างได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ในช่วงที่ผ่านมาซูซูกิมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดมามากมายหลายรุ่น แต่ SUZUKI SWIFT ยังคงเป็นรถยนต์สปอร์ตแฮทช์แบ็กอีโคคาร์ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์อันแตกต่างไม่ซ้ำใคร

ด้วยความโดดเด่นทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ภายนอกดีไซน์เป็นเอกลักษณ์มีความสปอร์ตและดูปราดเปรียวภายในห้องโดยสารมาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย มาตรวัดสไตล์สปอร์ต พร้อมจอแสดงข้อมูลขับขี่แบบ LCD รวมถึงพวงมาลัยทรงรูปตัว D เพื่อเพิ่มพื้นที่วางเท้าระหว่างเบาะและพวงมาลัย ทั้งยังเหนือชั้นกว่าใคร ด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยเสริมให้รถมีน้ำหนักน้อยลงแต่คงความแข็งแกร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบกันการสั่นสะเทือน ระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง พร้อมระบบเบรก ABS และ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถ ESP ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันและยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control  ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า

ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วย เครื่องยนต์รหัส K12M แบบเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่หรือ DUALJET ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงประหยัดน้ำมันกว่าเดิม  ด้วยกำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E20 ประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยกว่า 23 กิโลเมตร/ลิตร

โดยนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2561 สามารถสร้างยอดขายรวมไปได้แล้วทั้งสิ้น 30,387 คัน (ถึงเดือนกรกฎาคม 2563) ล่าสุด เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีต่อลูกค้า ซูซูกิเตรียมแนะนำ SUZUKI SWIFT GL MAX EDITION ออกสู่ตลาดประเทศไทย โดยยังคงนำเสนอรูปลักษณ์อันแสนสปอร์ตเร้าใจ มอบทุกความแตกต่างที่ไม่ซ้ำใคร เดินหน้าเพื่อสานต่อความสำเร็จของรถยนต์สปอร์ตแฮทช์แบ็ก อีโคคาร์ รุ่นยอดนิยมของคนไทย และจะเป็นตัวที่มาช่วยเสริมทัพอีโคคาร์ของซูซูกิให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปี 2563 นี้

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับ SUZUKI SWIFT GL MAX EDITION รุ่นตกแต่งพิเศษ มาภายใต้แนวคิด เต็มที่กับสไตล์ เร้าใจทุกมุมมอง  พร้อมที่จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น โดยถูกพัฒนามาจากรุ่น SWIFT GL ด้วยการยกระดับความสปอร์ตเร้าใจให้เหนือขึ้นไปอีกขั้นกับชุดแต่งที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษรอบคันเพื่อลูกค้าซูซูกิทุกท่าน

SUZUKI SWIFT GL MAX EDITION ตกแต่งด้วยชุดแต่งดีไซน์ใหม่ กับชุดสเกิร์ตรอบคันพร้อมด้วยสปอยเลอร์หลังเติมเต็มความสปอร์ตให้มากขึ้นไปอีกขั้น เสาอากาศครีบฉลาม ซุ้มล้อสีดำ ตกแต่งท่อไอเสียคู่เสริมความดุดันเร้าใจ บ่งบอกถึงความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ด้วย ชุดสติกเกอร์ Max Edition พร้อมจะมาอวดโฉมอย่างเป็นทางการให้ลูกค้าที่ชื่นชอบในความโดดเด่นและแตกต่างไม่ซ้ำใคร ภายในงาน Big Motor Sale 2020 ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 21-30 สิงหาคม 2563 ณ ศูนย์การแสดงสินค้า ไบเทคบางนา
SUZUKI SWIFT GL MAX EDITION มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl, สีเทาอ่อน Star Silver Metallic, Mineral สีเทาเข้ม Gray Metallic, สีดำ Super Black Pearl สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic จำหน่ายในราคาเพียง 541,000 บาท และ สีขาว Pure White Pearl จำหน่ายในราคาเพียง 546,000 บาท

ทั้งนี้ ยังมาพร้อมแคมเปญสุดพิเศษเพื่อให้คุณสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์สปอร์ตแฮทช์แบ็กอีโคคาร์รุ่นนี้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่จอง SUZUKI SWIFT GL MAX EDITION ขับฟรี 90 วัน พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งสำหรับปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด เป็นต้น”

ช่องทางติดต่อทางออนไลน์ www.suzuki.co.th   หรือ   www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand

ช่องทางติดต่อทาง Call Center โทรศัพท์พื้นฐาน     โทร 1800-600-900    หรือ    โทรศัพท์เคลื่อนที่        โทร 1401-600-900