เชลล์ บริษัทน้ำมันรายแรกในไทย ฉลองครบรอบ 130 ปี
ยกระดับกลยุทธ์ Powering Progress สนับสนุนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัท น้ำมันแห่งแรกของประเทศไทย ฉลองครบรอบการดำเนินงาน 130 ปี มุ่งมั่นยกระดับกลยุทธ์ Powering Progress พร้อมเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (Trusted Partner for a Better Life) ส่งมอบพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมนำความเชี่ยวชาญทางด้านพลังงานระดับโลกของเชลล์มาร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพเพื่อความยั่งยืนต่อไป
นายปนันท์ ประจวบเหมาะ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 130 ปีที่ดำเนินกิจการในไทย เชลล์มีความภูมิใจที่อยู่เคียงข้างและเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งภาครัฐได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันประเทศให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2608 เชลล์พร้อมให้ความร่วมมือในฐานะที่เป็น Trusted Partner หรือพันธมิตรที่ไว้ใจได้ ตามกลยุทธ์ Powering Progress ที่มีเป้าหมายสอดคล้องกันในการขับเคลื่อนสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และบริการ ผลักดันการเจริญเติบโตของธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เคียงข้างสังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพร้อมไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านพลังงานระดับโลกของเชลล์ รวมถึงเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจด้วยความใส่ใจผู้คนและสิ่งแวดล้อม ตลอดเส้นทางการเปลี่ยนผ่านพลังงานนั้น เชลล์มีวิธีการที่หลากหลายเพื่อเร่งไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเริ่มจาก 1. ทุกขั้นตอนของการปฏิบัติงานภายในของเราเอง 2. จากผลิตภัณฑ์ที่เราซื้อจากหน่วยงานอื่น และ 3. การช่วยลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราชดเชยการปล่อยคาร์บอน นอกจากนั้น เชลล์ทั่วโลกยังเดินหน้าปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสถานีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สถานีเติมไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง รวมถึงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์และพลังงานลม โดยเชลล์ยังพร้อมทำงานร่วมกับลูกค้าที่มีเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความท้าทายในการลดการปล่อยคาร์บอน เช่น ธุรกิจการบิน การขนส่งทางเรือ การขนส่งทางถนน และภาคอุตสาหกรรม พร้อมขยายการลงทุนไปยังธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจพลังงานที่มีก๊าซเรือนกระจกต่ำ เช่น การลงทุนในบริษัท Ubitricity ผู้ให้บริการสถานีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอังกฤษ
สำหรับประเทศไทยนั้น ความมุ่งมั่นในการเดินหน้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเชลล์ได้รับการสานต่อผ่านกระบวนการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ เริ่มตั้งแต่อาคารสำนักงานใหญ่ ไปจนถึงสถานีบริการน้ำมันเชลล์ที่ได้มีการติดตั้งแผงโซลาร์ตามจุดต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยใช้พลังงานหมุนเวียน ทำให้เชลล์ได้รับรางวัลดีเด่น Thailand Energy Awards 2020 และ 2021 ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทอาคารควบคุม ในส่วนของสำนักงานใหญ่ ถึงสองปีซ้อน และรางวัลด้านพลังงานทดแทน ประเภทโครงการที่ไม่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า สำหรับโครงการเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาและโรงจอดรถของอาคารสำนักงานใหญ่ นอกจากนี้ที่สถานีบริการเชลล์ยังใช้นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในสถานีบริการ ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง Green Banding ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการจัดการดูแสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยระบบการจัดการน้ำและของเสียเพื่อการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
ในด้านผลิตภัณฑ์ เชลล์ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมจากวัสดุทางชีวภาพที่เพิ่มสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งเรื่องไบโอดีเซล และเอทานอล ที่เหมาะสมกับศักยภาพของประเทศไทย และยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดี การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (HPC) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในเทรนด์ปัจจุบัน รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นเพื่อความยั่งยืนสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมโรงงานและการขนส่ง นอกจากนี้เชลล์ยังช่วยให้ลูกค้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เช่น น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดพรีเมี่ยม เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า 0W สูตรใหม่ คาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral) หนึ่งในนวัตกรรมน้ำมันเครื่องชนิดแรกของเชลล์ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ และ Bitumen FreshAir นวัตกรรมยางมะตอยที่ใช้ความร้อนต่ำและมีกลิ่นหอม ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานและลดการระเหยของก๊าซและฝุ่นละออง ซึ่งนำไปสู่การลดผลกระทบทางคุณภาพอากาศ
เชลล์สนับสนุนเครือข่ายพันธมิตรสังคมคาร์บอนต่ำและเป็นส่วนหนึ่งของ “องค์กรผู้ริเริ่มด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก” (Climate Action Initiator) รวมถึงการจับมือกับภาครัฐ เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ตลอดจนหน่วยงานภาคเอกชนอื่นๆ ในการร่วมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำต่อไป
เชลล์มุ่งมั่นสร้างการตระหนักรู้ให้กับผู้คนในสังคมเกี่ยวกับพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกผ่านโครงการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Imagine the Future Scenarios Competition ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำเสนอแบบจำลองสถานการณ์อนาคตในอีก 30 ปีข้างหน้าซึ่งมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัด Shell Forum ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่างๆ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อช่วยกันหาทางออกและเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายด้านพลังงานของประเทศไทยในอนาคตและขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เหมาะสมให้กับประเทศ
ตลอดระยะเวลา 130 ปีที่ผ่านมา เชลล์สนับสนุนการขับเคลื่อนทิศทางพลังงานของประเทศไทยมาโดยตลอด เป็นผู้นำในการจัดหาพลังงานสะอาดที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน เคียงข้างการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการเติบโตของประเทศ การเปลี่ยนผ่านพลังงานนับต่อจากนี้ไปมีความสำคัญอย่างยิ่ง เชลล์ในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจน้ำมันรายแรกของประเทศ ยึดมั่นในเจตนารมณ์ที่จะสรรหาพลังงานสะอาดและยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ “Powering Progress” สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์