ROLLS-ROYCE MOTOR CARS เฉลิมฉลองยนตรกรรมบีสโป๊ก ในงาน SALON PRIVE
จัดแสดงยนตรกรรมบีสโป๊ก Wraith และ Black Badge Cullinan ในงาน Concours d’Elegance การเปิดตัวยนตรกรรม Ghost และ Phantom สู่สาธารชนครั้งแรกของโลก ที่แนวคิดสร้างสรรค์ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นตัวตนของสหราชอาณาจักร
ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 กลุ่มคนผู้ชื่นชอบความหรูหราสามารถร่วมงาน Salon Prive ซึ่งเป็นงาน Concours d’Elegance ที่จัดขึ้นพิเศษในบริวณพระราชวังเบลนึม (Blenheim Palace) ในอ๊อกชฟอร์ดเชอร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่การรวมตัวครั้งนี้ Rolls-Royce Motor Cars จะจัดแสดงยนตรกรรมบีสโป๊กสั่งผลิตพิเศษ
สองคัน คือ Black Badge Wraith และ Black Badge Cullinan ซึ่งแต่ละคันบ่งบอกถึงความคิดที่เฉียบคมของลูกค้าในทางสุนทรียศาสตร์และแสดงออกถึงความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานบีสโป๊กของแบรนด์
ROLLS-ROYCE BLACK BADGE เปิดตัวครั้งแรกในปีพ ศ.2559 Black Badge คือตัวแทนของการลบล้างอีกบุคลิกภาพที่เป็นตัวตนของแบรนด์ โรลส์-รอยซ์ นอกจากนี้ ยังนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่การสร้างสรรค์ผลงานบีสโป๊กได้ถูกขยายขอบเขตจากสตูดิโอออกแบบไปสู่ศูนย์วิศวกรรมของแบรนด์ ยนตรกรรมบีสโปกซีรีส์ที่ยังคงยืนหยัดอยู่นี้สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับ Wraith, Dawn แล: Cullinan ผสานความงามของสีดำและวัสดุตกแต่งภายในที่มีความร่วมสมัยสูงเข้ากับบุคลิกที่คล่องแคล่วปราดเปรียว สำหรับงาน Salon Prive 2021 Rolls-Royce Motor Cars นำเสนอสองยนตรกรรมที่บ่งบอกความเป็น Black Badge Cullinan และ Black Badge Wraith ได้อย่างทรงพลัง โดยยนตรกรรมทั้งสองคันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาของลูกค้า
สำหรับ Black Badge Cullinan สีเขียวบีสโป๊ก Verde Ermes ที่มีความร่วมสมัยได้รับเลือกให้เป็นสีตัวถังภายนอก สัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy โครเมียมสีเข้ม สแตนเลสรมดำตกแต่งภายนอก และล้อกึ่งเงากึ่งด้านพิเศษของ Black Badge ขนาด 22 นิ้วเสริมความงดงามให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ส่วนเบาะที่นั่งภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีน้ำตาล Havana ตัดกับหนังสีน้ำตาลไหม้ และขลิบเบาะสีเทา Cashmere Grey
Black Badge Wraith ที่จัดแสดงภายในงานโชว์ความสามารถด้านการทำสีตัวถังรถยนต์ของแบรนด์ด้วยตัวถังสีเงิน Iced Premiere Silver ที่โดดเด่นส่งผลให้เป็นสีเดียวเกือบทั้งคันเข้ากับสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy โครเมียมเข้มและล้อ Black Badge ขนาด 21 นิ้วที่บางส่วนทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ในทางกลับกันภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีแดงสด Mugello Red ของแบรนด์
เช่นเดียวกับปีก่อน ๆ Rolls-Royce Motor Cars จะขับนำขบวน Tour Prive และสำหรับปีนี้ Rolls-Royce Ghost ยนตรกรรมที่ทันสมัยที่สุดในขณะนี้จะเป็นผู้นำทัวร์ขับไปบนเนินเขาของ Cotswolds ในระยะทาง 120 ไมล์
Rolls-Royce Ghost คือ การกล่าวย้ำครั้งล่าสุดถึงยนตรกรรมที่ประสบความสาเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ 117 ปีของแบรนด์ มาในสีน้ำเงินเข้ม Salamanca Blue ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังสีเทา Cashmere Grey สร้างสุนทรียภาพที่เรียบง่ายสะอาดตา สะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบ ‘Post Opulent’ ของ Ghost
ขณะที่สีกรมท่าถูกใช้ตกแต่งบริเวณแผ่นรองของเบาะที่นั่ง พนักพิง พวงมาลัย และใช้สีน้ำเงิน Cobalto Blue ขลิบเบาะสะท้อนถึงเฉดสีตัวถังภายนอก บริเวณส่วนแผงหน้ารถและด้านบนคอนโซลกลางระหว่างที่นั่งด้านหน้าตกแต่งด้วยไม้ Circassian Walnut ที่ให้พื้นผิวสับผัสแบบรูพรุนเปิด ซึ่งเป็นการนำเสนอกลิ่นอายธรรมชาติสู่ภายในห้องโดยสารที่ร่วมสมัยของ Ghost
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงาน Salon Prive ที่พระราชวังเบลนึมจะได้สัมผัสประสบการณ์การเปิดตัวของทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในโชว์รูมในสหราชอาณาจักรสู่สาธารณชนครั้งแรกของโลก ซึ่งแต่ละท่านเป็นผู้สร้างสรรค์แนวคิดของยนตรกรรม Ghost และ Phantom ผลงานการออกแบบทั้ง 7 ชิ้นได้รับอิทธิพลที่หลากหลายทั้งจากสถานที่สำคัญในประเทศไปจนถึงวัฒนธรรมของชาวอังกฤษ ทำให้ผลงานเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานบีสโป๊กของโรสส์-รอยซ์ที่ไม่มีใครเทียมเท่าได้ และแสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่กว้างไกลของขีดความสามารถในงานหัตถศิลป์ งานออกแบบและวิศวกรรม ผู้ร่วมงาน Salon Prive ในบริเวณพื้นที่วีไอพีจะได้พบกับงานออกแบบ ตลอดจนตัวอย่างหนังและสีที่ใช้ในสุดยอดยนตรกรรมบีสโป๊กเป็นครั้งแรก
ยนตรกรรมคันอื่นที่ร่วมงาน Salon Prive รวม Black Badge Wraith, Black Badge Dawn และ Ghost ซึ่งพร้อมให้ผู้สนใจทดลองขับ