มิชลินเปิดตัว “มิชลิน โรด 5”

สุดยอดยางบิ๊กไบค์ สปอร์ตทัวริ่งโฉมใหม่ รุกสร้างมาตรฐานใหม่ด้านสมรรถนะการขับขี่ทั้งบนถนนแห้งและเปียก

มิชลินแถลงข่าวเปิดตัว ‘มิชลิน โรด 5’ (MICHELIN® Road 5) ยางรถจักรยานยนต์รุ่นล่าสุดที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์ประเภทสปอร์ตทัวริ่ง (Sport Touring) โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ สิทธิบัตรเฉพาะของมิชลินที่ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ ทั้งด้านการยึดเกาะถนน เสถียรภาพ และความสบายขณะขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนเปียก  วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

‘มิชลิน โรด 5’ มาพร้อมเทคโนโลยี MICHELIN XST Evo และโครงสร้างยาง ACT+ (Adaptive Casing Technology) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะของมิชลินที่ให้ความมั่นใจเหนือระดับขณะขับขี่บนถนนแห้งและถนนเปียกตลอดอายุการใช้งานยาง  นอกจากนี้ แม้เมื่อผ่านการใช้งานเป็นระยะทางมากกว่า 5,000 กิโลเมตร ยาง ‘มิชลิน โรด 5’ ยังคงมีระยะเบรกบนถนนเปียกสั้นพอๆ กับยาง ‘มิชลิน ไพล็อต โรด 4’ (MICHELIN Pilot Road 4) เส้นใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานเลยทีเดียว

มร.รอสส์ ชีลส์ (Ross Shields) ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ 2 ล้อ ประจำภูมิภาคเอเชียของมิชลิน

เปิดเผยว่า “ยาง มิชลิน โรด 5 ถือเป็นนวัตกรรมล้ำหน้าล่าสุดทางเทคโนโลยียางรถจักรยานยนต์  การออกแบบและเทคโนโลยีที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวจากทีมวิจัยและพัฒนาชั้นนำของมิชลินก่อให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ด้านผลกระทบจากการสึกหรอของยางและสมรรถนะในระยะยาว

การออกแบบยาง ‘มิชลิน โรด 5’ ต่อยอดมาจากนวัตกรรมผลงานการออกแบบยางรุ่นก่อนหน้า 2 รุ่น ได้แก่ ยางรถจักรยานยนต์ ‘มิชลิน ไพล็อต โรด 4’ และยางรถยนต์ระดับแนวหน้าของมิชลินอย่าง ‘มิชลิน พรีเมียร์ เอ/เอส’ (MICHELIN Premier® A/S)

สมรรถนะการยึดเกาะถนนเปียกที่เหนือกว่า

สมรรถนะการยึดเกาะถนนเปียกของยาง ‘มิชลิน โรด 5’ ขณะใกล้หมดดอก ให้ประสิทธิภาพดีเทียบเท่ากับยาง ‘มิชลิน ไพล็อต โรด 4’ เส้นใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีสิทธิบัตรเฉพาะของมิชลิน เทคโนโลยี MICHELIN XST Evo นวัตกรรมร่องยางทรงหยดน้ำที่ยิ่งผ่านการใช้งานเป็นระยะทางมากขึ้น ร่องยางก็จะยิ่งมีขนาดกว้างขึ้น

เมื่อปี 2554 มิชลินได้ปฏิวัติวงการยางรถจักรยานยนต์ด้วยการออกแบบ MICHELIN XST นวัตกรรมร่องยางขนาดเล็กบนหน้ายางสิทธิบัตรเฉพาะของมิชลิน ซึ่งต่อมาในปี 2557 ได้รับการพัฒนาต่อยอดเป็น XST+ ซึ่งพบได้ในยาง ‘มิชลิน ไพล็อต โรด 4’  เทคโนโลยีร่องยางขนาดเล็กบนหน้ายางนี้ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำให้กับยาง จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่บนถนนเปียก โดยปัจจุบันครองความเป็นหนึ่งด้านเทคโนโลยียางรถจักรยานยนต์เพื่อสมรรถนะการยึดเกาะบนถนนเปียก

สำหรับเทคโนโลยี MICHELIN XST Evo นวัตกรรมร่องยางพัฒนาการล่าสุดที่มากับยาง ‘มิชลิน โรด 5’  เป็นเทคโนโลยีที่มาจากการออกแบบดอกยางแบบ Evergrip™ ของมิชลินซึ่งเผยโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2557 ในผลิตภัณฑ์ยางสำหรับรถยนต์นั่ง ‘มิชลิน พรีเมียร์ เอ/เอส’ ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดล้ำหน้าในการคงสมรรถนะการเบรกบนถนนเปียกอย่างมีประสิทธิภาพเอาไว้แม้ยางจะผ่านการใช้งานจนดอกยางใกล้หมดดอกก็ตาม

สมรรถนะการยึดเกาะถนนแห้ง เสถียรภาพและความคล่องตัวขณะขับขี่ที่เป็นเลิศ

นอกจากสมรรถนะการยึดเกาะถนนเปียกที่เป็นเยี่ยมแล้ว  ยาง ‘มิชลิน โรด 5’ ยังได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพโดดเด่นในการยึดเกาะถนนแห้งและเสถียรภาพที่เหนือกว่ายางรุ่นก่อนหน้า ด้วยการผสานสูตรเนื้อยางใหม่หลายรูปแบบเข้าด้วยกันและการใช้เทคโนโลยีโครงสร้างยางที่เรียกว่า MICHELIN ACT+

รูปแบบชั้นโครงสร้างยางดังกล่าว ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในยาง ‘มิชลิน เพาเวอร์ อาร์เอส’ (MICHELIN Power RS) ประกอบด้วยโครงสร้างยางที่ใช้ผ้าใบมุมกว้างขึ้นและชั้นโครงสร้างยางที่ซ้อนทับกัน (Overlapping Cross Plies) ช่วยให้มีเสถียรภาพเหนือระดับขณะเข้าโค้ง ขณะเดียวกันยังคงคุณสมบัติความยึดหยุ่นสูงของหน้ายางเอาไว้ได้ จึงให้เสถียรภาพที่ดีขณะขับขี่ทางตรงด้วย

มร.ชีลส์ ยังเผยว่า “ในปีนี้ เราจะมุ่งรุกตลาดยางรถจักรยานยนต์ในไทย ซึ่งเราได้แต่งตั้งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกไพบูลย์ยางยนต์ ซึ่งคร่ำหวอดในธุรกิจนี้มานานกว่า 40 ปี เป็นผู้จัดจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ภายใต้แบรนด์มิชลินในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการกระจายสินค้า ตลอดจนการให้บริการก่อนและหลังการขายแก่นักบิดทั่วประเทศ โดยเชื่อว่าความเชี่ยวชาญในการให้บริการและเครือข่ายร้านค้าที่ครอบคลุมจะสามารถสร้างความพึงพอใจและความประทับใจให้กับลูกค้าได้

ยาง ‘มิชลิน โรด 5’ รุ่นล่าสุดนี้มีวางจำหน่ายที่ราคา 12,000-14,000 บาท สำหรับใช้เป็นยางล้อหน้า 2 ขนาด และยางล้อหลัง 5 ขนาด โดยสามารถใช้งานร่วมกับรถจักรยานยนต์ได้หลากหลายรุ่น ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th  หรือ MICHELIN Hotline 02-700-3993 และเลือกซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป