PTG แย้มไตรมาส2/62 ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันโตต่อเนื่อง รับผลบวกค่าการตลาดเข้าสู่ภาวะเหมาะสม
“พีทีจี เอ็นเนอยี” ส่งซิกไตรมาส2/62 ปริมาณการจำหน่ายน้ำมันโตต่อเนื่อง แย้มค่าการตลาดกลับสู่ภาวะที่เหมาะสม ตั้งเป้าขยายการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมัน หนุนปริมาณการจำหน่ายน้ำมัน-รายได้พุ่ง 16-20%
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันในช่วงไตรมาส2/62 จะเติบโตต่อเนื่องจากในช่วงไตรมาส1/62 หลังจากในช่วงไตรมาส2/62 เป็นช่วงมีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าการตลาดยังมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย
ดังนั้นบริษัทจึงคาดว่าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันและรายได้ จะเติบโต 16-20% และคาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม (EBITDA) จะเติบโต 40-50% จากปี 2561 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายของสถานีบริการเดิม และค่าการตลาดที่ยังอยู่ในแนวโน้มที่เหมาะสม
อีกทั้งบริษัทยังวางแผนการขยายสถานีบริการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 สาขา จากปี 2561 ที่มีสถานีบริการอยู่ที่ 1,883 สาขา และบริษัทได้มีการปรับรูปแบบสถานีบริการในรูปโฉมใหม่ให้มากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์สำหรับลูกค้าให้มากขึ้น รวมทั้งยังจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่นๆ
ขณะเดียวกันการขยายการให้บริการน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมัน สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถขนส่งเชิงพาณิชย์ ที่สถานีบริการน้ำมัน พีที ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 บริษัทมีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 1 สาขา แต่ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 บริษัทคาดว่าจะมีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 200 สาขา
ทั้งนี้การขยายสาขาการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในสถานีบริการน้ำมัน ยังจะเป็นทางเลือกให้เลือกให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้น้ำมันที่มีราคาถูกลง และเป็นการตอบสนองนโยบายของทางภาครัฐที่ต้องการสนับสนุนการใช้ B20 เพื่อใช้เป็นกลไกในการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซลให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าบริการขนส่ง และค่าโดยสารสาธารณะ ประกอบกับยังเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอีกด้วย
นอกจากนี้บริษัทยังคงตั้งเป้างบลงทุนรวมอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท, ธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่อยู่ที่ 500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต
“ในช่วงไตรมาส2/62 บริษัทยังมองว่ายอดการจำหน่ายน้ำมันจะเติบโตดีกว่าช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เพราะว่าเข้าสู่ช่วงฤดูกาลใช้น้ำมันที่มากขึ้น และการจำหน่าย B20 ในสถานีบริการน้ำมันก็มีการเติบโตสูงขึ้นทำให้เราวางแผนจะขยายเป็นมากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ เพื่อรองรับความต้องการใช้ B20 ที่เพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของลูกค้า” นายพิทักษ์ กล่าว