“PTG” ร่วมมือ “ท่าอากาศยานไทย” และพันธมิตร
เปิดตัว AOT DIGITAL PLATFORM 4.0
“พีทีจี เอ็นเนอยี” จับมือ “ท่าอากาศยานไทย” พร้อมพันธมิตร เปิดตัว AOT DIGITAL PLATFORM 4.0 ครอบคลุมสนามบิน 6 แห่งของ AOT เล็งนำร่องสนามบินสุวรรณภูมิ เดินหน้าเชื่อมโยงสนามบินพันธมิตร 16 สนามบินทั่วโลก
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ในการเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “AOT AIRPORTS : Turn Busy to Easy ผ่าน AOT AIRPORTS APPLICATION เพื่อเข้ามาปรับเปลี่ยนการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและการซื้อหรือใช้บริการ โดยการเข้าถึงลูกค้าในจำนวนมากขึ้น และเป็นการสร้างความสะดวกสบาย เพราะว่าบริษัทมีสินค้าหรือการบริการเป็นของตัวเอง
อีกทั้ง ยังมีเครื่องมือที่ใช้เป็นตัวชี้วัดโดยสร้างเป็นแพลตฟอร์ม ได้แก่ บัตรสมาชิก “PT Max Card” เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และบัตรสมาชิกยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อสินค้า-บริการต่าง ๆ ในเครือ PTG กับพันธมิตรคู่ค้า และลูกค้าเข้าด้วยกัน เพื่อการนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงความต้องการของลูกค้าในแต่ละหมวดหมู่
ขณะเดียวกัน ดิจิตอล แพลตฟอร์ม AOT ยังมอบสิทธิพิเศษให้แก่บัตร “PT Max Card” ซึ่งจะมอบสิทธิประโยชน์แก่สมาชิกในรูปแบบ Turn Busy to Easy ผ่าน AOT AIRPORTS APPLICATION ได้แก่ การแลกเปลี่ยนแต้ม หรือโอนแต้ม ข้ามไปยังแอพพลิเคชั่น ซึ่งคะแนนหรือแต้มที่สะสมในแอพพลิเคชั่น ของ AOT จะสามารถนำมาแลกเปลี่ยน หรือใช้แทนเงินสดในการซื้อ หรือใช้ในสถานีบริการน้ำมัน พีที และสามารถนำแต้มไปสะสมหรือแลกเปลี่ยนเป็นคะแนน พร้อมทั้ง ใช้แทนเงิน เพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการในเครือของ AOT ได้เช่นเดียวกัน
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT กล่าวว่า AOT Digital Platform 4.0 เป็นการพัฒนาระบบสื่อสารออนไลน์ในรูปแบบ Application บนอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเลต เพื่อบริหารจัดการท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพ และยกระดับคุณภาพการให้บริการ โดยในเบื้องต้น Application ดังกล่าวจะมีฟังก์ชันให้ผู้โดยสารได้ใช้งาน ได้แก่ 1. Flight Status and Notification ตรวจสอบสถานะ ข้อมูลเที่ยวบินแบบเรียลไทม์ แนะนำเคาน์เตอร์เช็คอินและสัมภาระ พร้อมแจ้งเตือนเที่ยวบินที่กำหนดไว้เพื่อให้ผู้โดยสารได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนไปท่าอากาศยาน 2. Way Finding Service บริการแผนที่อัจฉริยะ (Intelligence Map) ในอาคารผู้โดยสารพร้อมนำทางไปยังจุดต่าง ๆ 3. Traffic Warning Assistant / Car Park Service แจ้งเตือนสภาพการจราจรล่วงหน้า เพื่อช่วยวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำ และเร็ว ๆ นี้จะเปิดให้บริการจองที่จอดรถ พร้อมพื้นที่จอดรถพิเศษ (Premium Zone) 4. Mobile Application Translation เครื่องมือช่วยแปลภาษา 5. Shop & Dine Info แหล่งรวบรวมข้อมูลสินค้า ร้านอาหาร พร้อมโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ 6. Booking Service บริการจองต่าง ๆ เช่น ห้องรับรองภายในท่าอากาศยาน จองและเรียกรถลิมูซีน รถแท็กซี่ไฟฟ้า รถเช่า ต่าง ๆ และ 7. AOT Point โปรแกรมสะสมคะแนนจากทุกการใช้จ่ายภายในท่าอากาศยาน เพื่อใช้แลกสินค้าหรือบริการภายในท่าอากาศยาน เป็นต้น
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดและบริการ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กล่าวว่า สำหรับ CAT มองภาพของ Digital Platform ว่าจะเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านชีวิตประจำวัน และในเชิงธุรกิจได้อย่างชัดเจน
Mr. Suryanarayana Kodukulla, Director of APAC Partnerships, Next Billion Users, Google Asia Pacific กล่าวว่า Google มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทยในการนำเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศไทยผ่านการเข้าถึง Wi-Fi สาธารณะความเร็วสูงฟรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Google นอกจากนี้ Google Station และ CAT ยังเล็งเห็นความสำคัญของ Digital Platform และมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรในการให้บริการฟรี Wi-Fi ภายในสนามบินทั้ง 6 แห่งของ AOT ภายในชื่อ “Free Airport Google Station WiFi by CAT” โดยให้ความเร็ว Super High Speed ในการให้บริการถึง 30/30 Mbps โดยไม่มีค่าใช้จ่าย