ปอร์เช่ จัดนิทรรศการ Curvistan Legends ครั้งใหม่

อวดโฉมปอร์เช่รุ่น 550 Spyder เจ้าของแชมป์รายการ Carrera Panamericana พร้อมนาฬิกา TAG Heuer รุ่นวินเทจ

ปอร์เช่เปิดตัวนิทรรศการใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการ จัดขึ้น ณ experiential space ภายใน Mandala Club โดยก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่สำหรับใช้ในการจัดแสดงผลงานศิลปะ art car “Crystal Eroded Porsche 992” จากศิลปินชื่อดัง Daniel Arsham ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการแปลงโฉมอีกครั้งในลักษณะของ Curvistan หรือนิทรรศการที่เปิดให้สาธารณะชนรับชมได้อย่างอิสระ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2023

Curvistan สามารถเป็นได้ทั้งห้องจัดแสดงผลงานศิลปะ พื้นที่กิจกรรม รวมไปถึงสถานที่สำหรับ hangout ซึ่งนำมารวมอยู่ด้วยกันที่นี่ โดยครั้งแรกถูกจัดขึ้นในย่าน Glockenbach ซึ่งเป็นสถานที่อันมีชื่อเสียงของนครมิวนิก สำหรับในครั้งนี้เนรมิตพื้นที่กิจกรรมภายใต้คอนเซ็ปต์งานที่ได้ครีเอทโดย Stefan Bogner บรรณาธิการนิตยสาร Curves Magazine โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อถึงความรื่นรมย์ของการขับขี่ ความสุขที่ได้รับระหว่างการเดินทางและมีคุณค่าต่อจิตใจเหนือกว่าเพียงการไปให้ถึงจุดหมายเท่านั้น

คอนเซ็ปต์ของนิทรรศการคือความเป็นตำนาน ในวาระร่วมเฉลิมฉลองให้กับรถแข่งตัวแรงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ที่สุดจากประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของปอร์เช่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรดายนตกรรมสปอร์ตอันทรงคุณค่าจากพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum จัดเรียงอยู่บนผนังของพื้นที่จัดแสดง เคียงคู่กับนาฬิกาวินเทจ 8 รุ่นที่ผ่านการเลือกสรรจาก TAG Heuer แบรนด์พันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันดีร่วมกับปอร์เช่มาอย่างยาวนาน ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษทั้งจากพิพิธภัณฑ์ Porsche Museum รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นกลับไปเป็นของที่ระลึก

ศูนย์กลางของพื้นที่นิทรรศการ จัดแสดงรถแข่งระดับตำนาน ปอร์เช่ 550 Spyder รถสายสนามคันแรกที่ปอร์เช่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อการแข่งขันกีฬาความเร็วโดยเฉพาะ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ที่ได้รับการปรับแต่งยกระดับพละกำลังสูงสุดกว่า 117 แรงม้า โดย Hans Herrmann รับหน้าที่ประจำการหลังพวงมาลัยในการแข่งขันเมื่อปี 1954 ซึ่งรถคันนี้สามารถคว้าแชมป์ในรายการเอ็นดูรานซ์ระยะยาว Carrera Panamericana บนเส้นทางสุดทรหดของประเทศเม็กซิโก

วิศวกรของปอร์เช่ตั้งฉายาขนานนามให้กับรถแข่งตัวแรงคันนี้ด้วยชื่อว่า “Carrera” จากพละกำลังของเครื่องยนต์ รวมไปถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมรอบด้าน ทำให้ชื่อของรถคันนี้จึงถูกสงวนไว้ใช้เฉพาะรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสุดจากปอร์เช่เท่านั้น และนี่คือการปรากฎตัวครั้งแรกของรถแข่งผู้คว้าชัยชนะจากฝีมือการขับขี่ลงสนามจริงของ Herrmann ณ ประเทศสิงคโปร์