สุดเดือด!! พงษ์ศิริ-ซุปเปอร์เล็ก แท็กทีมคว้าชัยศึก ONE : A NEW BREED II
ศึก วัน แชมเปียนชิพ ONE : A NEW BREED II เมื่อคืนวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา จัดการแข่งขันในระบบปิดห้ามคนเข้าดู
“พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” สมราคานักชกจอมบู๊ เจ้าของสมญา “แฝดอโยธยา” ในวัย 29 ปี เดินยิงหมัดฟันศอก ต้อนเอาชนะคะแนน “ฌอน แคลนซี” นักชกจากไอร์แลนด์ ไปอย่างขาดลอย โดย “พงษ์ศิริ” ได้นับแปดในยกที่สอง เจ้าตัว เผย รู้สึกดีใจมากที่ได้รับชัยชนะใน วัน แชมเปียนชิพ ครั้งนี้ ถือเป็นรายการต่อสู้ระดับโลก และชกได้ตามแผนที่ตัวเองวางไว้คือ เตรียมหมัดและศอกมาเป็นพิเศษ ด้าน “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ไม่ทำให้กองเชียร์ชาวไทยผิดหวัง จัดการสยบเอาชนะคะแนน “ฟาห์ดี คาเล็ด” นักชกจากตูนีเซีย ไปได้เช่นกัน
โดยคู่เอก พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักชกจอมบู๊วัย 29 ปี เจ้าของสมญา “แฝดอโยธยา” ดวลกับ ฌอน แคลนซี นักชกจากไอร์แลนด์ วัย 31 ปี ในกติกามวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต
เปิดฉากยกแรก พงษ์ศิริ เดินยิงหมัดเตะขาชวนทะเลาะกับคู่ชกทันที ซึ่ง แคลนซี ยังไม่แลกมาก ถอยวนดูจังหวะและบังอาวุธของพงษ์ศิริเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ปลายยก พงษ์ศิริได้จังหวะฟันศอกเข้าเต็มๆ บริเวณใต้ตาขวาของนักชกชาวไอริช ทำให้ แคลนซี เกิดแผลแตกทันที ยกสอง พงษ์ศิริออกมาเดินเช่นเคย ต้นยก พงษ์ศิริ ต้อนคู่ชกเข้ามุม แล้วยิงหมัดขวาเข้าเต็มใบหน้าของแคลนซี ทำให้ แคลนซี ร่วงลงไป แล้วถูกกรรมการนับ 8 จากนั้น พงษ์ศิริ ก็ยังไม่ถอยปักหลักคุมเกมปิดจังหวะเกมรุกของคู่ต่อสู้ได้ดี ส่วนเกมยกสาม ยกสุดท้าย เจ้าของสมญา “แฝดอโยธยา” ออกมาแลกอาวุธทั้งหมัดทั้งศอกกับแคลนซีอย่างสนุกเหมือนเดิม ไม่สนว่าตัวเองคะแนนออกนำ เนื่องจากได้นับแปดมาก่อนแล้ว ซึ่ง พงษ์ศิริ ออกหมัดได้แม่นและหนักหน่วงกว่า และก็คุมเกมไว้ได้ในช่วงปลายยก เมื่อชกกันครบสามยก กรรมการชูมือให้ พงษ์ศิริ เป็นฝ่ายชนะคะแนน ไปอย่างสนุก
หลังเกม พงษ์ศิริ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นรายการใหญ่ระดับโลก ซึ่งไฟต์นี้ถือว่าชกได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะตนเองเตรียมหมัดเตรียมศอกมาเป็นพิเศษอยู่แล้ว ต้องขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่ให้โอกาสได้ชกบนสังเวียนระดับโลกในครั้งต่อไปจะทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ส่วน คู่รอง ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 นักชกจอมฝีมือวัย 24 ปี จาก จ.บุรีรัมย์ พบกับ ฟาห์ดี คาเล็ด นักชกจากตูนิเซีย วัย 25 ปี ชกกันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (61.2 กก.) เปิดฉากยกแรก ซุปเปอร์เล็ก เดินลุยทันที มีลูกเตะกับยิงหมัดชิงจังหวะสู้กับ คาเล็ด อยู่ตลอด ซึ่งปลายยก คาเล็ด ต่อยหมัดฮุกขวาเข้าปลายคางของซุปเปอร์เล็ก ทำเอานักชกไทยออกอาการเซเล็กน้อย ยกสอง ซุปเปอร์เล็ก ออกมาเร่งเครื่องเข้าเกียร์เดินหน้า พร้อมกับสาดแข้งขวาเข้าใส่นักชกจากตูนีเซียไปหลายชุด ด้าน คาเล็ด แม้จะโดนแข้งไปหลายดอกแต่ก็ดักโต้คืนด้วยหมัด รูปเกมยังคงสนุกคู่คี่ ต่อด้วยยกสาม เป็นยกสุดท้าย ทั้งคู่ไม่ถอยปักหลักซดอาวุธกันกลางเวที โดย ซุปเปอร์เล็ก เน้นวางแข้งหนัก ๆ ขณะที่ คาเล็ด มีหมัด แต่เป็นทางซุปเปอร์เล็กที่ออกแข้งได้หนักแน่นกว่า เตะเข้าชายโครงนักชกตูนีเซียตลอดในยกนี้ ซึ่งดูเหมือน คาเล็ด จะบังแข้งของซุปเปอร์เล็กไม่อยู่ ทำให้สถานการณ์รูปเกมของนักชกไทยได้เปรียบทันที จากนั้นช่วงปลายยก ซุปเปอร์เล็ก ก็ถอยคุมเกมคุมจังหวะ เมื่อหมดยกสุดท้าย กรรมการชูมือให้ ซุปเปอร์เล็ก ชนะคะแนนไปได้
หลังเกม ซุปเปอร์เล็ก กล่าวว่า ตนเองรู้สึกภาคภูมิใจมากที่ครั้งนี้เก็บชัยชนะได้ เพราะเป็นการชกในรูปแบบคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรก แต่ก็ยังผิดหวังตัวเองเล็ก ๆ ที่ชกไม่ได้ตามที่ตนเองตั้งใจไว้ เนื่องจากตั้งใจจะเตะให้มากกว่านี้ แต่ครั้งนี้ออกอาวุธด้วยแข้งได้น้อยอยู่ ซึ่งไฟต์หน้าหากมีโอกาสชกใน วัน แชมเปียนชิพ อีกตนเองจะทำผลงานให้ดีมากขึ้นกว่านี้
ขณะที่ ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์มวยไทย นักชกสาวดาวรุ่งวัย 16 ปี พบกับ มิลากรอส โลเปซ นักชกจากอาร์เจนติน่า วัย 24 ปี โดยทั้งคู่ชกกันในรูปแบบมวยไทย รุ่นแคตช์เวต (53.7 กก.) ยกแรก ซุปเปอร์เกิร์ล อาศัยสภาพร่างกายที่สดกว่า เดินเข้าหาลุยต่อยหมัดส่ง โลเปซ ร่วงลงไปนอนให้กรรมการนับ 8 ครั้งแรกในช่วงต้นยก จากนั้น นักชกสาวจากแดนฟ้า-ขาว ลุกขึ้นมาสู้ต่อ แต่ก็ต้านพลังกำปั้นของนักชกสาวดาวรุ่งไทยไม่ไหว เนื่องจาก ซุปเปอร์เกิร์ล เดินรัวกำปั้นชุดใหญ่ ถล่มส่ง โลเปซ ร่วงลงไปกองกับพื้นผ้าใบอีกหน ซึ่งครั้งนี้กรรมการไม่นับ ตัดสินให้ ซุปเปอร์เกิร์ล เป็นฝ่ายชนะน็อกไปในยกที่ 1 อย่างสวยงาม
ส่วนผลมวยประกอบรายการคู่อื่น ๆ โบรแกน สตอร์ตอิง (นิวซีแลนด์) ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) ปราชญ์ บัวภา ยก 1 ด้วยเวลา 3.51 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นแคตช์เวต 67.5 กก.
อาบู มุสลิม อาลิคานอฟ (รัสเซีย) ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) ปาสคาล แจสกีวีซ (ฝรั่งเศส) ยก 2 ด้วยเวลา 2.08 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต
วิชญกรณ์ เนียมถนอม ชนะซับมิสชั่น (แบบคู่ต่อสู้ขอยอมแพ้) คาลิด ฟริกกินี (โมร็อคโก) ยก 1 ด้วยเวลา 2.11 นาที ในรูปแบบการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นไลต์เวต