นิสสันเสริมสร้างเยาวชนไทย สานต่อโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ขึ้นสู่ปีที่ 3
จัดเวิร์คช็อปสร้างแรงบันดาลใจสู่ความสำเร็จในอนาคตแก่นักเรียนกว่า 100 คน
ปีเตอร์ แกลลี่ รองประธานสายงานสื่อสารองค์กร และ ทศพร ถือพุดซา รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สมุทรปราการ เขต 2 และมูลนิธิรักษ์ไทย ร่วมเปิดกิจกรรมค่ายสะเต็มศึกษา
นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย สานต่อโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำเด็กและเยาวชนในปีที่ 3 เดินหน้าจัดกิจกรรมค่ายสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่บูรณาการการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีนักเรียนชั้น ม.2 และ ม.3 จำนวนกว่า 100 คน จากโรงเรียนในเขตชุมชนบางเสาธง โดยรอบฐานการผลิตของนิสสัน ในจังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมโครงการ
โดยกิจกรรมค่ายสะเต็มศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำเด็กและเยาวชน ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง นิสสัน, แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศญี่ปุ่น และมูลนิธิรักษ์ไทย ปัจจุบัน มีนักเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 1,400 คน จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยอง และสมุทรปราการ โดยเป็นโครงการที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาภาวะผู้นำของเหล่าเด็กและเยาวชนควบคู่ไปกับทักษะการประกอบอาชีพด้วยสะเต็มศึกษา
กิจกรรมในครั้งนี้ ผู้บริหารจากนิสสันได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักเรียนกว่า 100 คน จากโรงเรียนวัดศรีวารีน้อย และโรงเรียนวัดหัวคู้ ณ ค่ายลูกเสือบ้านริมน้ำ จ.ฉะเชิงเทรา
“ผมภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย ผมเริ่มต้นจากความหลงใหลและชื่นชอบในรถยนต์ จนกลายมาเป็นความสำเร็จในการทำงานที่นิสสัน ผมยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของค่ายสะเต็มศึกษาในครั้งนี้ เพราะมีส่วนช่วยให้น้อง ๆ เยาวชนได้ค้นพบตัวเองว่าชื่นชอบอะไร” ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว “นอกจากนี้ ยังเป็นก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนและผู้คนรอบข้างของอนาคตของชาติอีกด้วย”
อัครพล แก้วพินิจ กรรมการผู้จัดการฝ่ายผลิต นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ยังกระตุ้นให้เหล่านักเรียนก้าวข้ามความท้าทายเพื่อความสำเร็จในอนาคต โดยค้นหาความชื่นชอบที่แท้จริง และทำให้ฝันของพวกเขาให้เป็นจริง
“ผมเกิดในครอบครัวชาวนา แต่ผมหลงใหลในรถยนต์ตั้งแต่เด็ก และมันได้เปลี่ยนชีวิตผม ทำให้กลายเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝัน โดยตั้งแต่จำความได้ ผมตั้งใจศึกษาหาความรู้ทุก ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับรถ ทั้งวันทั้งคืน เพราะมีเป้าหมายว่าจะสักวันหนึ่งต้องทำงานบริษัทรถยนต์ให้ได้” อัครพล กล่าว
ค่ายสะเต็มศึกษาในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยกิจกรรมที่ทั้งหลากหลายและสนุกสนาน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปฏิสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมที่นอกจากจะช่วยสร้างเสริมภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมแล้ว ยังมีส่วนช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และทักษะการคิดวิเคราะห์ให้แก่นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย
พร้อมกันนี้ น้อง ๆ นักเรียน ยังได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เกี่ยวกับ รถยนต์ นิสสัน เทอร์ร่า ที่ผลิตขึ้นโดยคนในชุมชนของพวกเขา ที่ถูกนำมาจัดแสดงอย่างใกล้ชิด รวมถึง กิจกรรมออกแบบรถยนต์แห่งโลกอนาคต ที่นักเรียนร่วมกันทำงานเป็นทีมกับเพื่อน ๆ จากต่างโรงเรียน โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และวาดภาพเป็นรถยนต์แห่งโลกอนาคตที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวออกมา
ด.ญ. ชลิตา สายเครือบุญ นักเรียนโรงเรียนวัดศรีวารีน้อย กล่าวถึงกิจกรรมค่ายสะเต็มศึกษาว่า “ตื่นเต้นที่ได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็น และยังได้มิตรภาพจากเพื่อน ๆ ต่างโรงเรียน” ซึ่ง ด.ช. ณภัทร ตะกรุดผล นักเรียนโรงเรียนวัดหัวคู้ กล่าวเสริมว่า “รู้สึกสนุกที่ได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ และยังได้ทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ จะพยายามค้นหาแรงบันดาลใจและความชื่นชอบที่แท้จริงของตัวเอง”
ประสบการณ์ในครั้งนี้มีส่วนสำคัญช่วยให้ทั้งคุณครูและนักเรียน ได้ต่อยอดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาภาวะผู้นำในอนาคต โดย ว่าที่ ร.ต. ธนมิตร สาระพัดวิเศษ คุณครูโรงเรียนวัดหัวคู้ กล่าวว่า “ผมมั่นใจว่าเด็กนักเรียนของเราจะสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการนี้ ทั้งด้านภาวะผู้นำ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งในการเรียน และร่วมแบ่งปันกับเพื่อน ๆ”
ด้านคุณครูอัมพร ฉายาพัฒน์ ครูโรงเรียนวัดศรีวารีน้อย เห็นด้วยว่า “กิจกรรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าสะเต็มศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ได้กับทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา โดยโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำเด็กและเยาวชน ยังมีส่วนสำคัญในการช่วยแนะแนวทางด้านการศึกษา และสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพในอนาคตของพวกเขาต่อไป”
สำหรับการดำเนินโครงการพัฒนาทักษะภาวะผู้นำสำหรับเด็กและเยาวชนในจังหวัดสมุทรปราการนั้น นำไปสู่การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และความคิดสร้างสรรค์ให้แก่นักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งการอบรมภาวะผู้นำในครั้งนี้ ได้รับการออกแบบมาให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล โดยใช้สะเต็มศึกษาในการเสริมสร้างการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาให้เยาวชนไทยมีภาวะความเป็นผู้นำและได้รับทักษะที่จำเป็นเพื่อความสำเร็จในการประกอบอาชีพในอนาคต