นิสสันเผยรถยนต์ไฟฟ้าช่วยแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ
นิสสัน ลีฟ สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 2 ล้านเมตริกตันตั้งแต่ปี 2553 พิสูจน์รถยนต์ไฟฟ้าพร้อมเป็นทางออกที่ยั่งยืนสำหรับการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ
ประชากรกว่า 4 พันล้านคนในภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย หรือร้อยละ 92 ของประชากรทั้งหมดในเอเชีย แปซิฟิก กำลังเผชิญกับมลพิษอากาศในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก และจากฐานข้อมูลแบบเรียลไทม์ด้านคุณภาพอากาศที่ใหญ่ซึ่งสุดในโลกที่โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติจัดทำขึ้นได้ตอกย้ำว่า อาณาบริเวณส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้มีคุณภาพอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมลพิษอากาศถือเป็นสาเหตุนำในอันดับที่ห้า เมื่อเปรียบเทียบกับความเสี่ยงด้านอื่น ๆ ที่นำมาซึ่งการเสียชีวิตของประชากรโลก และปัจจัยนี้ยังนำมาสู่การเสียชีวิตถึงร้อยละ 9 ของประชากรโลก
นิสสัน ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่ถูกผลิตและจำหน่าย ได้เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ถึงผลกระทบของรถยนต์รุ่นนี้ทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2553 เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและปฏิบัติตามพันธะสัญญาในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ และพบข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่แสดงให้เห็นว่าการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหามลภาวะในอากาศได้ ดังนี้
- รถยนต์ไฟฟ้าเพียงหนึ่งคัน สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 4.6 เมตริกตันในแต่ละปี หรือเทียบเท่าการปลูกต้นไม้เพิ่ม 209 ต้น
- ปัจจุบัน ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ กว่า 460,000 คันทั่วโลกได้ช่วย
- ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงกว่า 2.1 ล้านเมตริกตัน ซึ่งเทียบได้กับจำนวนต้นไม้กว่า 81 ล้านต้นในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแต่ละปี
- สร้างการเดินทางที่ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์กว่า 13,000 ล้านกิโลเมตร จากผู้ขับขี่รถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเทียบได้กับการเดินทางไปสู่ดวงจันทร์ได้กว่า 33,800 รอบ
จากความจำเป็นที่เราต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงกว่าร้อยละ 55 ภายในปี 2573 เพื่อหยุดยั้งภาวะโลกร้อน ปี 2563 นี้จะเป็นปีที่ผู้บริโภคต้องรีบตัดสินใจเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อลดผลกระทบทางตรงต่อมลพิษทางอากาศ