Michelin Passion Experience 2023 นำเสนอประสบการณ์สุดพิเศษ
ที่สะท้อนความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของมิชลินในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ณ The bend motorsport park เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย
ในปีนี้ มิชลิน แพสชั่น เอ็กซ์พีเรียนซ์ (Michelin Passion Experience) งานสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ได้เชิญแขกคนสำคัญเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษที่สะท้อนความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของมิชลินในกีฬามอเตอร์สปอร์ต ณ The Bend Motorsport Park เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสนามแข่งรถถาวรที่ยาวที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานสากล FIA Grade 2 จากสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (FIA) โดยงานในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 12 กันยายน 2566
ในงานนี้ แขกพิเศษกว่า 400 คน ได้รับเชิญเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นตาประทับใจผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้านมอเตอร์สปอร์ตและการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองหลากหลายรูปแบบ นอกจากนั้น ยังได้โอกาสรับรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณของมิชลินที่กีฬามอเตอร์สปอร์ตมีบทบาทเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมที่ยั่งยืน อาทิ เทคโนโลยีภายใต้แนวคิด Performance Made to Last ที่ช่วยให้ยางมีสมรรถนะยั่งยืนยาวนานตลอดอายุใช้งาน, การพัฒนายางล้อที่ผลิตจากวัสดุยั่งยืนในสัดส่วนสูงขึ้น ตลอดจนการใช้ข้อมูลและระบบจำลองเสมือนจริงในการพัฒนายางล้อ ซึ่งส่งผลให้การใช้ทรัพยากรและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากพื้นที่จัดนิทรรศการภายในงานจะนำเสนอประวัติการทำสถิติของมิชลินในรายการแข่งรถชั้นนำหลายรายการทั่วโลกแล้ว มิชลินยังจัดแสดงยางรถแข่ง ซึ่งรวมถึงยางรถแข่งที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากชีวมวลในสัดส่วนสูงถึง 53%, ยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โดยเน้นยางสมรรถนะสูงในตระกูล ‘ไพลอต สปอร์ต’ และยางรถจักรยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ ได้แก่ ยางรถจักรยานยนต์รุ่นล่าสุด ‘มิชลิน โรด 6’ (MICHELIN Road 6) และ ‘มิชลิน พาวเวอร์ 5’ (MICHELIN Power 5)
ไฮไลต์ของงานในปีนี้คือกิจกรรมเชิงปฏิบัติการด้านมอเตอร์สปอร์ต 5 รูปแบบ ได้แก่
Sprint ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์การแข่งรถระยะสั้นแบบวิ่งวนรอบสนาม หรือ Sprint ด้วยรถ Formular 4 ที่ติดตั้งยางสลิคของมิชลิน
Endurance ซึ่งผู้เข้าร่วมได้ยกระดับทักษะการแข่งรถระยะยาวแบบมาราธอน หรือ Endurance ไปกับครูฝึกขับรถแข่งมืออาชีพด้วยรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ ‘ปอร์เช่ 718 เคย์แมน’ (Porsche 718 Cayman) ที่ติดตั้ง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4เอส’ (MICHELIN Pilot Sport 4S) ยางที่มาพร้อมเทคโนโลยี Bi-Compound และให้สมรรถนะโดยรวมสูงสุด
Rally ซึ่งผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นไปกับการขับรถแบบจำกัดเส้นทางและเวลา หรือ Rally ด้วยรถ ‘ซูบารุ อิมเพรซา ดับเบิลยูอาร์เอ็กซ์’ (Subaru Impreza WRX) ที่ติดตั้ง ‘มิชลิน แอลทีเอ็กซ์ ฟอร์ซ ที91’ (MICHELIN LTX FORCE T91) ยางรถแข่งที่มาพร้อมเทคโนโลยีการยึดเกาะล่าสุดจากมิชลินสำหรับสนามแข่งที่มีลักษณะขึ้น-ลงเนิน (Rolling Track)
Motorsport Pit ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสการทำงานของทีมช่างในสนามแข่ง (Pit Crew) อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้ร่วมแข่งขันทำเวลาให้เร็วที่สุดในการเปลี่ยนยางล้อ
และ Hotlap ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสความเร็วแรงสุดเร้าใจของการนั่งบนรถแข่ง ‘ปอร์เช่ จีที3 คัพ’ (Porsche GT3 Cup) และ ‘แรดิคอล เอสอาร์3’ (Radical SR3) ที่ติดตั้งยางรถแข่งของมิชลิน