‘มิชลิน’ คว้ารางวัลผู้นำด้านโครงการเพื่อสังคมดีเด่น บนเวทีประชุมสุดยอดระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมประจำปี 2562
ในงานประชุมสุดยอดระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมครั้งที่ 11 ประจำปี 2562 (The 11th Annual Global CSR Summit and Awards 2019™) ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการประกาศมอบรางวัลอันทรงเกียรติด้านความรับผิดชอบต่อสังคมให้แก่องค์กรชั้นนำทั่วโลก โดยมิชลินในประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นผู้ครองโล่รางวัลระดับทองประเภท “ผู้นำด้านโครงการเพื่อสังคมดีเด่นระดับโลก” (Global CSR Leadership Award) จากการดำเนินแคมเปญรณรงค์เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านกิจกรรมแจกหมวกกันน็อกให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์ (Michelin Safe on the Road – Helmets for Motorcyclists)
นายเสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด กล่าวว่า “รางวัลที่เราได้รับในครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจ ทั้งยังเป็นกำลังใจผลักดันให้เรามุ่งมั่นทุ่มเทดำเนินโครงการเพื่อสังคมต่อไปตามเจตนารมณ์ขององค์กรที่มุ่งสร้างการสัญจรอย่างยั่งยืนและขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ดีกว่า โดยที่ผ่านมาโครงการเพื่อสังคมของมิชลินในประเทศไทยมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนเพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการสัญจร เนื่องจากสถิติพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนท้องถนนในประเทศไทยมากกว่า 600,000 ครั้งต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก”
ทั้งนี้ มิชลินดำเนินแคมเปญรณรงค์เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านกิจกรรมแจกหมวกกันน็อกให้กับผู้ใช้รถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 ภายใต้ความร่วมมือกับสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (International Automobile Federation: FIA) กิจกรรมดังกล่าวมุ่งลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและการบาดเจ็บรุนแรง ด้วยการแจกหมวกกันน็อกให้กับผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ รวมทั้งการรณรงค์ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใส่หมวกกันน็อกเมื่อขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เนื่องจากประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์สูงเป็นอันดับ 1 โดยร้อยละ 83 ของอัตราการเสียชีวิตดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการไม่สวมหมวกกันน็อก
ผลการวิจัยพบว่าการสวมหมวกกันน็อกที่มีขนาดเหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงและความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศรีษะซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตลงได้ถึงร้อยละ 85 ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา มิชลินจึงได้ผสานความร่วมมือกับสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติในการจัดทำหมวกกันน็อกที่ได้มาตรฐานขั้นสูงสำหรับผู้ใหญ่และเด็กเพื่อแจกจ่ายให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในเบื้องต้นมิชลินได้แจกหมวกกันน็อกจำนวนราว 2,000 ใบ ให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างทั่วเขตกรุงเทพฯ และในปีต่อๆ มา จึงได้ขยายขอบเขตกิจกรรมให้ครอบคลุมจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งครอบคลุมกลุ่มเด็กและผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่มีรายได้ต่ำ โดยกิจกรรมการแจกหมวกกันน็อกสำหรับเด็กส่วนใหญ่จะจัดควบคู่ไปกับการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยทางถนน การได้รับความร่วมมือและความสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นส่งผลให้กิจกรรมการแจกหมวกกันน็อกเป็นที่รับรู้และเกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง โดยจำนวนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่สวมหมวกกันน็อกเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่เป้าหมาย แม้จะมีการสำรวจยอดตัวเลขดังกล่าว 6 เดือนหลังจากแจกหมวกกันน็อกไปแล้วก็ตาม