เที่ยวหยุดยาวอย่างปลอดภัยและอุ่นใจกับฟอร์ด
5 เรื่องน่ารู้ เที่ยวอย่างอุ่นใจ มั่นใจไปกับฟอร์ด
หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลายๆคนน่าจะวางแผนเดินทางเพื่อท่องเที่ยวเพื่อชดเชยหลังจากไม่ได้เดินทางท่องเที่ยวมาเป็นเวลานาน การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นทางเลือกที่หลายคนเลือกใช้เพื่อเดินทางออกต่างจังหวัดในยุคโควิด เพราะมีความปลอดภัยและไม่ต้องเดินทางร่วมกันคนจำนวนมาก จึงอาจทำให้สภาพการจราจรบนท้องถนนหนาแน่น เป็นเหตุให้ผู้เดินทางต้องใช้เวลาอยู่ในรถนานจนอาจเกิดความเครียดจากหลายๆ ปัจจัย วันหยุดยาวนี้ ฟอร์ด จะพาเดินทางไปกับรถคู่ใจที่จะพาคุณออกไปท่องเที่ยวอย่างสนุกสนานและปลอดภัยกับฟีเจอร์ของรถที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
1) เบาะนั่งสบาย
การเดินทางโดยรถยนต์แทนเครื่องบินนั้น บางครั้งทำให้ต้องขับรถนานกว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย การเพ่งสมาธิบนท้องถนนและต้องนั่งอยู่บนเบาะในท่าเดิมเป็นเวลานานอาจทำให้มีอาการปวดเมื่อยได้ วิธีการผ่อนคลายง่ายๆ คือการหมั่นยืดเส้นยืดสายเวลารถติด หรือแวะพักผ่อนคลายที่จุดพักรถ ในการขับขี่ อย่าลืมปรับเบาะที่นั่งให้ตรงกับสรีระและท่าทางที่สบายที่สุด โดยเบาะที่นั่งในฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นเบาะนั่งปรับไฟฟ้า สามารถปรับได้ถึง 6 ทิศทาง[1] ทั้งความสูง ระดับการเอน หรือที่รองศีรษะ ก็สามารถปรับให้พอดีได้
2) ดูแลความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
ในการเดินทางข้ามจังหวัด เราอาจต้องพบกับสภาพการจราจรที่ติดขัด รวมถึงผู้ร่วมสัญจรบนท้องถนนที่ใช้ความเร็วสูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้คนขับต้องมีสมาธิตลอดเวลา รถยนต์ฟอร์ดอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะมากมายที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าของรถ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) จะเป็นตัวช่วยในการขับขี่ทางไกลได้อย่างปลอดภัยและผ่อนคลายความเมื่อยล้าในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น เพราะฟีเจอร์นี้จะช่วยควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างที่พอเหมาะกับรถคันหน้า โดยใช้ระบบกล้องและเรดาร์เดียวกับระบบเตือนการชนด้านหน้า และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (Automatic Emergency Braking – AEB) หรือระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ที่จะช่วยส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถกำลังจะหลุดออกนอกเลนที่คุณขับอยู่
3) ชาร์จแบตได้ทุกที่
หายห่วงได้เลย หากคุณลืมชาร์จแบตโทรศัพท์มาจากบ้าน เพราะคุณสามารถชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้ในรถ สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ มีช่องต่อไฟ 230 โวลต์ภายในห้องโดยสาร และช่องต่อ USB อีกหลายจุด สบายใจได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารอย่างแน่นอน นอกจากนี้ รถยนต์ฟอร์ด ยังมีระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ภาษาไทย รองรับ Apple Carplay และ Android Auto[2] ที่จะเป็นตัวช่วยให้คุณสามรถเปิดวิทยุหรือเลือกเล่นเพลงโปรดได้โดยไม่ต้องละสายตาจากการขับรถ
4) บรรทุกสัมภาระได้อย่างจุใจ
สำหรับคนที่เดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด และต้องขนสัมภาระเยอะมากเป็นพิเศษ รถยนต์ฟอร์ดสามารถช่วยคุณได้ ฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถบรรทุกสัมภาระได้มากถึง 1.3 ตัน[3] สามารถบรรทุกของจำนวนมากหรือลังหลายกล่องได้สบายๆ ส่วนฟอร์ด เอเวอเรสต์ ก็พร้อมปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้เหมาะกับการขนของ ด้วยการพับเก็บเบาะที่นั่งในแถวที่ 3 ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้กว้างขึ้นได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งแร็คหลังคา สำหรับจักรยาน หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่สามารถบรรทุกในรถได้และมีน้ำหนักไม่เกิน 750 กิโลกรัม โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
5) ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
เทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถมีส่วนช่วยที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณจะเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางโดย สวัสดิภาพในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น หลงทาง รถติดหล่ม หรือเกิดเหตุขัดข้องใดๆระหว่างการเดินทาง ฟอร์ด คำนึงถึงความปลอดภัยและความสบายใจของผู้ใช้เป็นอันดับแรก รถฟอร์ดรุ่นเรือธงอย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวล์ดแทร็ค และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนี่ยม พลัส จึงมาพร้อมกับระบบแผนที่นำทาง Navigation ให้สามารถป้อนข้อมูลปลายทางได้โดยใช้สัญญาณดาวเทียมในการนำทาง โดยไม่ต้องวิตกกังวลหากเกิดเหตุให้ไปต่อไม่ได้ เพราะสามารถใช้ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
[1] อุปกรณ์ติดตั้งในรถยนต์บางรุ่น สามารถตรวจสอบข้อมูลอุปกรณ์มาตรฐานและคุณสมบัติที่ครบถ้วนที่ผู้จำหน่ายฟอร์ด หรือ www.ford.co.th
[2] ระบบเทคโนโลยีอาจแตกต่างกันไปในรถยนต์แต่ละรุ่น และฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่รองรับการทำงานบนโทรศัพท์บางรุ่น สามารถตรวจสอบคุณสมบัติที่ถูกต้องครบถ้วนได้ที่ www.ford.co.th/engineering
[3] น้ำหนัก 1.3 ตัน คือความจุน้ำหนักสูงสุดของ ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ 2.2L XL+ 4×2 HR 6MT และ ดับเบิ้ลแค็บ 2.2L XLS 4X2 HR 6MT รถยนต์รุ่นอื่นอาจมีความจุน้ำหนักสูงสุดที่แตกต่างออกไป