Sexy Cow สัมผัสประสบการณ์ร้านเนื้อระดับพรีเมียมย่านหลังสวน

ตอบโจทย์นักชิมรุ่นใหม่ด้วยบริการอาหารที่เติมเต็มทุกรสสัมผัส

Sexy Cow ร้านอาหารเนื้อระดับพรีเมียมย่านหลังสวน ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่ของการลิ้มรสสเต็กเนื้อพรีเมียมและซีฟู้ดชั้นเสิศที่จะเติมเต็มทุกรสสัมผัสให้มื้ออาหารสุดพิเศษ โดดเด่นด้วยการใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมียมนำเข้าจากออสเตรเลีย ทั้งสตริปลอยน์ เทนเดอร์ลอยน์ ริบอายและโทมาฮอว์ค ผ่านการบ่มและปรุงอย่างพิถีพิถันเพื่อรังสรรค์เป็นเมนูที่ตอบโจทย์นักชิมที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์มื้ออาหารที่ไม่จำเจ แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานรสชาติระดับสูง นอกจากนี้นักชิมจะได้เต็มอิ่มกับเมนูอาหารทะเลสดใหม่ ทั้งคานาเดียนล็อบสเตอร์ กุ้งลายเสือ หอยเชลล์ไซส์ยักษ์ หอยมัสเซล และปลานำเข้าอีกหลากชนิด รวมถึงเมนูพาสต้าและพิซซ่าหลากรูปแบบ ที่ระดมวัตถุดิบรสเลิศปรุงให้แบบไม่อั้น และที่พลาดไม่ได้คือเมนูของหวานที่จัดแต่งมาอย่างสวยงามและให้รสชาติที่หอมหวานละมุนลิ้น พร้อมด้วยองค์ประกอบบนโต๊ะอาหารอีกมากมายที่แสดงถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อการสร้างสรรค์ประสบการณ์แห่งมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบของคุณที่ Sexy Cow

โชติวิทย์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) และผู้ก่อตั้ง Sexy Cow อธิบายว่า “หนึ่งในเป้าหมายของ Sexy Cow คือการมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารระดับพรีเมียมและผ่อนคลายแก่คนรักเนื้อทั้งมือเก่าและมือใหม่ให้สามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารได้ไม่แตกต่างกัน รวมถึงผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อก็ยังสามารถรื่นรมย์กับเมนูอาหารอื่น ๆ กับเพื่อน ๆ ได้อย่างกลมกลืน รวมถึงยังมีบาร์เครื่องดื่มและค็อกเทลรสเลิศไว้บริการเพื่อให้ Sexy Cow เป็นอีกหนึ่งทางเลือกทั้งสำหรับคนรักเนื้อและคนไม่รับประทานเนื้อที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์มื้ออาหารระดับพรีเมียมที่แตกต่าง ภายใต้บรรยากาศที่สวยงามหรูหราและสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายในย่านหลังสวนนี้

Sexy Cow นำเสนอเมนูเนื้อเกรดพรีเมียมเพื่อตอบสนองความต้องการของคนเมืองที่ต้องการรสชาติอาหารเกรดพรีเมียมในระดับราคาที่เข้าถึงได้ โดยมีทั้งเมนูเนื้อเกรดพรีเมียมที่คนรักเนื้อจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน รวมไปถึงเมนูอาหารทะเล ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมทั้งจากต่างประเทศและในไทย ที่มีคุณภาพสูงไม่แพ้เมนูเนื้อ โดยมีทั้งคานาเดียนล็อบสเตอร์ กุ้งลายเสือ หอยเชลล์ไซส์ยักษ์ หอยมัสเซล และปลานำเข้าหลายชนิด นำมาปรุงให้ได้รสชาติที่อร่อยแปลกใหม่กว่าเมนูซีฟู๊ดในร้านทั่วไป โดยยังคงความหวานสดใหม่ของวัตถุดิบได้ครบถ้วน 100% เราเน้นกรรมวิธีปรุงหลายขั้นตอนเพื่อให้ได้รสชาติอาหารที่ดีที่สุด นอกจากนี้เรายังมีเมนูพื้นฐานอย่างสเต็กหมูและไก่เพื่อให้คนที่ไม่รับประทานเนื้อได้เพลิดเพลินกับมื้ออาหารรสเลิศได้ไม่แตกต่างกัน และสิ่งที่นักชิมทุกคนไม่ควรพลาดคือเมนูพาสต้าและพิซซ่าที่หาทานได้เฉพาะที่ Sexy Cow เท่านั้น เพราะเป็นสูตรใหม่ที่เราคิดค้นขึ้นเพื่อให้อาหารง่าย ๆ มอบรสชาติที่ไม่ธรรมดา ด้วยเครื่องเทศจากต่างประเทศที่มีราคาสูงและชี้สชั้นดีที่นักชิมจะสัมผัสได้ในทันทีถึงรสชาติที่หอมและเข้มข้นอย่างแตกต่าง”

“นอกจากนี้เรายังนำองค์ประกอบอื่น ๆ มาใช้เป็นลูกเล่นให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินและสนุกกับการรับประทานสเต็กของเรามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกมีดหั่นสเต็กที่จับถนัดมือมากที่สุด ไปจนถึงวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ชูรสชาติของสเต็กอย่าง ‘เกลือ’ ซึ่งเรามีให้เลือกมากถึง 5 ชนิด ทั้งเหลือโมเดิร์นซอลต์ สโม็กซอลต์ที่ทางร้านทำเอง ฮาวายซอลต์ ฮิมาลายันซอลต์ และแบล็กซอลต์ โดยเราจะมีพนักงานคอยบริการและแนะนำทุกขั้นตอน เพื่อให้คนรักเนื้อทั้งมือเก่าและมือใหม่สามารถรื่นรมย์กับรสชาติเนื้อได้อย่างเต็มที่และได้ทราบถึงสตอรี่ที่มาของเนื้อที่รับประทาน ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์มื้ออาหารที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่ต้องการเรียนรู้การเลือกสเต็กในแบบของตนเองและการเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เป็นมากกว่าการกินสเต็ก แต่เป็นการดื่มด่ำกับอรรถรสและบรรยากาศทั้งหมดของการรับประทานสเต็กเกรดพรีเมียมของเรา” โชติวิทย์ กล่าว

ด้านเชฟเอก อภิชิต ปวงขจร หัวหน้าเชฟและผู้รังสรรค์เมนูของ Sexy Cow ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการอาหารระดับอาชีพมานานกว่า 12 ปี อธิบายว่า “เนื้อเป็นไฮไลต์ของร้าน เราคัดสรรเฉพาะเนื้อเกรดพรีเมียมจากออสเตรเลียที่มีอายุ 270 วัน เพราะเป็นเนื้อที่มีเนื้อสัมผัสที่ไม่เหนียวหรือเละจนเกินไป แต่มีความนุ่มกำลังพอดีสำหรับทำสเต็ก ซึ่งเรามีเนื้อให้เลือก 4 ชนิดคือ เนื้อสตริปลอยน์ เนื้อเทนเดอร์ลอยน์ ริบอาย และโทมาฮอว์ค หลังจากนั้นต้องนำมาผ่านการบ่มขั้นต่ำ 4 สัปดาห์ ก่อนที่จะนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูต่าง ๆ รวมถึงการปรุงขั้นต้นอย่างการซูวี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเนื้อทุกชิ้นจะมีคุณภาพสม่ำเสมอและให้รสชาติชั้นเลิศทุกเมนู และที่สำคัญเราใช้เตากริลล์เนื้อแบบพิเศษที่สั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ เป็นเตาเหล็กยาว 3 เมตร และใช้ตะแกรงกริลล์ โดยแบ่งแต่ละส่วนของเตาให้อุณหภูมิของไฟแตกต่างกันเพื่อให้เนื้อได้เล่นกับความแรงของไฟหลาย ๆ ระดับ ทำให้ได้ความสุกในแบบที่เราต้องการอย่างพอดีและยังให้กลิ่นรมควันที่หอมมากเป็นพิเศษที่โดดเด่นและแตกต่างมากกว่าร้านเนื้อทั่วไป”

เชฟเอกเริ่มต้นอาชีพเชฟตั้งแต่อายุ 18 ปีในฐานะเชฟอาหารญี่ปุ่น หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนมาเรียนรู้การปรุงอาหารอาหารอิตาเลียนและสั่งสมประสบการณ์จวบจนปัจจุบัน เมื่อถามถึงปรัชญาในการปรุงอาหารเฉพาะตัว เชฟเอกกล่าวว่า “แนวคิดของผมคือเป็นเรื่องการคิดค้นเมนูใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการลิ้มลองสิ่งใหม่ ๆ แต่ยังคงอยู่บนมาตรฐานของการรักษารสชาติของวัตถุดิบระดับสูง สิ่งสำคัญคือการควบคุมคุณภาพซึ่งเราต้องชิมอาหารที่ปรุงทุกครั้ง แม้ด้วยประสบการณ์จะทำให้เราสามารถประเมินระดับความสุก กลิ่น และรสชาติได้ทั้งหมดจากสายตา แต่เพราะอาหารทุกจานคือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในทุก ๆ ครั้ง เราจึงต้องมั่นใจได้ว่าผลงานของเราจะมอบรสชาติที่เราต้องการให้แก่ลูกค้าได้แบบ 100%”

เมนูซิกเนเจอร์ที่ Sexy Cow ภูมิใจนำเสนอไม่ว่าจะเป็น Crab Tagliolini เส้นพาสต้าสดทำเองผัดกับซอสซัฟฟรอน (ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่แพงที่สุดในโลก) และเนื้อปูก้อนใหญ่เต็มคำ เติมชิลลี่เข้าไปเพื่อความสไปซี่ให้มีรสจัดจ้านถูกปากคนไทย, Truffle Risotto เมนูข้าวสไตล์อิตาเลียน กลมกล่อมด้วยครีมจากพาร์มิซานชีส ผัดกับเนยแท้จากฝรั่งเศส ให้กลิ่นหอมที่เข้มข้นแตกต่าง เติมความกรุบกรอบด้วยเห็ดมอเรลอิตาลีและทรัฟเฟิลสไลด์แบบแน่น ๆ เพิ่มความฟินขึ้นไปอีกขั้น, Meat Platter เมนูดาวเด่นของร้านที่รวมเนื้อนำเข้าเกรดพรีเมียมที่เชฟคัดมาเป็นอย่างดี 3 ชนิดและซี่โครงแกะจากออสเตรเลีย เนื้อของ Sexy Cow จะถูกบ่มไว้ 4 อาทิตย์ จนเกิดความนุ่มและได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ก่อนนำมากริลล์บนเตาย่างที่สั่งทำพิเศษของทางร้าน ในจานประกอบไปด้วย Striploin เนื้อสันนอกที่มีรสชาติเนื้อโดดเด่น, Tenderloin เนื้อสันในเป็นส่วนที่มีความนุ่มที่สุด สุดท้าย Rib eye เนื้อส่วนที่ติดซี่โครงที่มีความนุ่ม และ หอมมัน และ Lamb chops ซี่โครงแกะ 2 ชิ้น ที่ทางร้านคัดสรรมาแบบพิเศษ จนได้เนื้อที่ดีที่สุด เสิร์ฟพร้อมเกลือ 5 ชนิดเป็นตัวช่วยชูรสของเนื้อได้เป็นอย่างดี, Wagyu Tomahawk เนื้อวากิวโทมาฮอว์คติดซี่โครงชิ้นยักษ์ ที่ลูกค้าสามารถเลือกขนาดได้ตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไป เนื้อของทางร้านถูกคัดเลือกมาจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุด ขุนด้วยธัญพืช 360 วัน เพื่อให้ได้เนื้อชั้นดีที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ จากนั้นนำมาบ่ม 45 วัน ก่อนนำไปย่างบนเตาถ่านที่ความสุกกำลังพอดีด้านนอกหอมกรอบโดยเนื้อด้านในยังคงความชุ่มฉ่ำเคี้ยวเพลิน, Sexy Cow Sea Food Platter รวมเมนูซีฟู้ดแน่นๆ ที่มีทั้งคานาเดียนล็อบสเตอร์ แบบสดๆ ที่โชว์อยู่หน้าร้านแล้วนำมากริลที่ความสุกกำลังพอดี ยังมีความฉ่ำของเนื้ออยู่ นอกจากนี้ยังมีกุ้งลายเสือ หอยเชลล์ไซส์ยักษ์ หอย Mussel นำมาจัดวางรวมกันแล้วจึงราดด้วยซอสสูตรเด็ดของทางร้าน ที่เรียกว่าซอสสิงคโปร์ ให้รสชาติสไปซี่ พอทานคู่กันกับซีฟู้ดแล้วให้ความเข้ากันอย่างลงตัวMeat Platter

อีกหนึ่งในการสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องของเชฟเอกคือเมนู Seasonal Specials Wagyu Short Rib เนื้อวากิวส่วนซี่โครงนำเข้าจากออสเตรเลีย ซูวีไฟอ่อน 24 ชั่วโมง กริลล์บนเตาถ่านและเติมกลิ่นหอมจากไม้อบรมควัน และราดด้วยซอสเทริยากิรสเลิศ ทานคู่กับผักคอสกริลและมันฝรั่งทอด

พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของมื้ออาหารด้วยเมนูของหวานอีกมากมายทั้ง Panna Cotta ขนมหวานสัญชาติอิตาเลียน รสละมุนเปรี้ยวหวานหอมมันลงตัว พานาคอตต้านำโรสแมรี่มาเป็นส่วนผสมนำไปต้มกับครีมและกรีกโยเกิร์ต ให้ความสดชื่น ท็อปด้วยกรานิต้าลิ้นจี่ ราดด้วยซอสราสเบอร์รี่กุหลาบ ทานคู่กันกับบลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และสตอเบอร์รี่ ให้ความหอมสดชื่นเหมือนวิ่งอยู่ในสวนกุหลาบ, 7 Layers Black forest เลเยอร์เค้กช็อคโกแลตเข้มข้นสูตรเด็ดของทางร้าน เริ่มจากช็อคครั้นชี่ด้านล่างตามด้วยเค้กช็อคชิฟฟ่อน ราสเบอร์รี่เยลลี่ ดาร์กช็อค 70% มิลค์ช็อคมูส  ไวท์ช็อคมูส และปิดท้ายด้วยช็อคโกแลตเกลซ (Chocolate Glazed) ท็อปปิ้งด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เพิ่มความสดชื่นให้กับเมนูขนมหวานได้อย่างลงตัว เวลาทานให้ตักจากด้านบนลงมาด้านล่างเพื่อให้ได้ชิมรสชาติของเลเยอร์เค้กได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Sexy Cow ตั้งอยู่ชั้นล่างของอาคาร The Millennia Tower ซอยหลังสวน เปิดบริการทุกวันโดยมีบริการทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ติดต่อสอบถามและจองโต๊ะอาหารได้ที่ โทร. 082-924-4014 หรืออีเมล info@sexycowrestaurant.com  สามารถติดตามข่าวสารโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้ทางเฟซบุ๊ก SexyCow BKK และ https://sexycowrestaurant.com/