รถจักรยานยนต์ฮอนด้าจับมือ DKSH (Thailand) ต่อยอดการพัฒนา EV Ecosystem
ทดลองขนส่งสินค้าด้วย PCX Electric และ Benly-e เริ่มไตรมาสแรกปีนี้
ฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย มุ่งหน้าสู่การพัฒนา EV Ecosystem อย่างไม่หยุดยั้ง ล่าสุดได้ต่อยอดการวิจัยด้วยการผนึกกำลังร่วมกับ ดีเคเอสเอช ประเทศไทย ทำการทดลองขนส่งสินค้าของดีเคเอสเอชด้วยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้า เริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2565 เป็นต้นไป
มร.ทาคาโนริ มารุยามะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง กล่าวว่า “การสร้างสรรค์เทคโนโลยีสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นงานท้าทาย แต่ฮอนด้ายังคงมีความมุ่งมั่นและจะไม่ลดละเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนไทย หลังจากที่ได้เริ่มโครงการศึกษาการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในเชิง Ecosystem ร่วมกับพันธมิตรทั้งสถาบันการศึกษาระดับประเทศ และทดลองใช้งานร่วมกับธุรกิจขนส่งชั้นนำ ล่าสุดนี้ ฮอนด้าได้ยกระดับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นด้วยการร่วมมือกับทาง ดีเคเอสเอช ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านการขยายตลาดขนาดใหญ่ ในการนำรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของฮอนด้ามาลองใช้ขนส่งสินค้า ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกสำหรับ ดีเคเอสเอช และ ฮอนด้า ซึ่งทั้งสองบริษัทมีเป้าหมายร่วมกันในการส่งเสริมโซลูชั่นการขนส่งที่มุ่งเน้นความยั่งยืน”
มร.นีล แม็คคาน รองประธานฝ่ายบริหารซัพพลายเชน บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดีเคเอสเอช ได้เร่งการปรับใช้โซลูชั่นการขนส่งที่สร้างนวัตกรรมและความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานของเรา ส่วนหนึ่งของเป้าหมายระยะยาวของเรา คือ การส่งเสริมพลังงานสะอาดและขับเคลื่อนองค์กรสู่ Climate Neutrality ภายในปี พ.ศ. 2573 เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ และมุ่งหวังที่จะเห็นผลลัพธ์ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า PCX Electric และ Benly-e ของฮอนด้า ในการพัฒนาการดําเนินงานของเราในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ที่เรามุ่งเน้นการเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตของผู้ป่วยไทย ผ่านการส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถช่วยชีวิตของพวกเขาได้”
การทดลองในครั้งนี้ จะใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าฮอนด้าในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์จากศูนย์กระจายสินค้า DKSH พระรามสาม ไปยังโรงพยาบาลและสถานพยาบาลใกล้เคียง โดยรถที่ใช้จะประกอบไปด้วย PCX Electric ซึ่งมีจุดเด่นในด้านความสะดวกสบายในการขับขี่ และ Benly-e ที่ออกแบบมาเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะ ด้านหลังสามารถติดตั้งกล่องเก็บของได้หลากหลายประเภทเพื่อการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ ทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยนได้ และมีการติดตั้งสถานีสับเปลี่ยน Battery Swapping Station เพื่อชาร์จแบตเตอรี่สำรองตลอดเวลา
ทั้งนี้ ฮอนด้าและดีเคเอสเอช ประเทศไทย จะเริ่มทำการทดลองตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2565 และจะเก็บข้อมูลเพื่อประเมินผลและพัฒนาในระยะต่อไป
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในการพัฒนา EV Ecosystem เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยโปรเจคท์ที่ผ่านมาล้วนแต่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการวิจัยร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี การร่วมมือกับธุรกิจเดลิเวอรี่ รวมถึงสนับสนุนนโยบายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐด้วยการทำ Honda PCX Electric เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค 8 จ.ภูเก็ต
