เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอบคุณคนไทยสำหรับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม
ด้วยยอดขาย All New HAVAL H6 Hybrid SUV 320 คัน ใน 1 เดือนหลังจากเปิดตัว ขึ้นแท่น Top 3 ในกลุ่มรถคอมแพคเอสยูวีของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 2564
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอบคุณคนไทยสำหรับการตอบรับอันอบอุ่นอย่างต่อเนื่อง การันตีด้วยยอดขาย All New HAVAL H6 Hybrid SUV หลังงานเปิดตัวจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมารวมกว่า 320 คัน ขึ้นแท่น Top 3 ในเซกเมนต์รถคอมแพคเอสยูวีของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 2564 ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 26.5 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเดินหน้าส่งมอบประสบการณ์ขับขี่อัจฉริยะและการให้บริการ O2O แบบเหนือระดับสู่ผู้บริโภคชาวไทยต่อไป
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เผยว่า “ผมขอขอบคุณผู้บริโภคชาวไทยที่ให้การตอบรับและไว้วางใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการของเกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็นอย่างดีเสมอมา ทำให้ยอดขายรวมของ All New HAVAL H6 Hybrid SUV หลังจากการเปิดตัวไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 320 คัน โดยแบ่งเป็นยอดขายรุ่น ULTRA จำนวน 295 คัน และยอดขายรุ่น PRO อีก 25 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง
ทางการตลาด 26.5 เปอร์เซ็นต์ จากยอดขายรถคอมแพคเอสยูวีในเดือนกรกฎาคมรวมทั้งสิ้น 1,209 คัน โดยยอดขายในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมานี้ นับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จสำหรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ รวมถึงเป็นการการันตีการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทยในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ที่เน้นการเป็นผู้นำทางด้านรถพลังงานไฟฟ้า (xEV Leader) และการนำเสนอประสบการณ์ลูกค้ารูปแบบใหม่ (New User Experience) ผ่านช่องทาง O2O (Online-to-Offline) รวมถึงการสร้างประสบการณ์ทางการตลาดที่แตกต่าง โดยมุ่งเน้นการให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (Customer Voice Focus) นับตั้งแต่การเปิดให้ลูกค้ากลุ่มแรกที่ไว้วางใจในแบรนด์ได้ลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ก่อนการประกาศราคาอย่างเป็นทางการผ่านแคมเปญพิเศษ ULTRA DEAL การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และประกาศราคาอย่างเป็นทางการในปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ต่อเนื่องด้วยแคมเปญหลังการประกาศราคาอย่าง PREMIERE DEAL ที่อัดแน่นด้วยสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าเช่นกัน ด้วยกลยุทธ์และการดำเนินการตลาดเหล่านี้ ควบคู่ไปกับการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมการส่งมอบบริการ O2O รูปแบบใหม่ ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมีความมั่นใจ เปิดใจ และเปิดโอกาสให้กับแบรนด์น้องใหม่
อย่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ มากยิ่งขึ้นและสิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันและกำลังใจที่ดีให้กับเราในการมุ่งมั่นเดินหน้าเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเราทุกคนต่อไป”
นอกจากความสำเร็จในด้านยอดขายแล้ว ตั้งแต่การเปิดตัว All New HAVAL H6 Hybrid SUV อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม All New HAVAL H6 Hybrid SUV มียอดจองการนัดหมายเพื่อทดสอบรถยนต์มากกว่า 9,000 ราย และมีการเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้ากลุ่มแรกไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการรูปแบบใหม่ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปต์ “New Energy” “New Intelligence” และ “New Experience” เกรท วอลล์ มอเตอร์ ใช้เวลาเพียง 6 เดือนหลังจากเปิดตัวแบรนด์ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการคว้า 6 รางวัล จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ตอกย้ำความสำเร็จในการจัดแสดงทัพรถยนต์ xEV และเทคโนโลยีสุดล้ำสู่สายตาคนไทย การเปิดโรงงานอัจฉริยะเต็มรูปแบบแห่งที่สองนอกประเทศจีน ที่จังหวัดระยอง การเปิด GWM Store แห่งแรกของโลก ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบางนา พร้อมแผนการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่อย่าง “New Retail Concept” ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำมาใช้ในตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรกของโลก การทยอยเปิดตัว GWM Store และ Partner Store เพื่อดูแลลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ “ONE PRICE” ในการเปิดตัวและประกาศราคา All New HAVAL H6 Hybrid SUV อย่างเป็นทางการ
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้พลิกโฉมตลาดรถยนต์ในเมืองไทยด้วยการเป็นแบรนด์แรกๆ ที่ส่งมอบการบริการแบบ Online-to-Offline (O2O) ครบวงจร ผ่านการทำรายการออนไลน์บน GWM Application เพื่อสัมผัสประสบการณ์บริการแบบออฟไลน์รูปแบบต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ที่ลูกค้าสามารถทำได้ง่ายและสะดวกสบายผ่านเพียงปลายนิ้วสัมผัส (Simple) เปี่ยมไปด้วยความพิเศษ (Special) ความปลอดภัย (Secure) และความคุ้มค่า (Save) ไม่ว่าจะเป็นการจองเพื่อทดลองขับ สั่งซื้อรถใหม่ การส่งมอบรถ รวมไปถึงการรับบริการหลังการขายต่างๆ โดยปัจจุบัน GWM Application มีผู้ใช้งานกว่า 16,179 คน โดยเพิ่มขึ้น 26 เท่า นับจากยอดผู้ลงทะเบียนใช้งานGWM Application ตั้งแต่วันแรกของงานมอเตอร์โชว์ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ภายใต้การยกระดับมาตรการและข้อปฏิบัติต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในไทยที่ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นในปัจจุบันนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงยืนหยัดเคียงข้างคนไทยท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากด้วยแคมเปญ “GWM : GO WITH ME, GO TOGETHER รวมหัวใจพร้อมก้าวผ่านทุกวิกฤตไปด้วยกัน” โดยร่วมมือกับ Food For Fighters พร้อมสนับสนุนเงินทุน 1 ล้านบาท และรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV เพื่อชวนขนส่งอาหารและอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงชักชวนพาร์ทเนอร์ สื่อมวลชน ลูกค้า และแฟนๆ เกรท วอลล์ มอเตอร์ มาร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 และยังได้มีการเปิดพื้นที่ออนไลน์บนช่องทาง Social Media ของแบรนด์เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้ประชาสัมพันธ์ร้านค้าและผลิตภัณฑ์ของตนได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกในการเข้าถึง ทดสอบ และซื้อผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการใช้บริการต่างๆ ของลูกค้า บริษัทจึงได้มีการปรับนโยบายและวิธีการดำเนินการต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขยายระยะเวลาของแคมเปญต่างๆ รวมไปถึงการให้บริการถึงหน้าบ้านของลูกค้า หรือ Door-to-Door Service ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบรถ (Door-to-Door Delivery) การทดลองขับ (Door-to-Door Test Drive) การรับและ/หรือส่งรถเพื่อเข้ารับบริการเช็กระยะ (Door-to-Door Pick-up & Delivery on demand) หรือการบริการตรวจเช็กระยะตามตารางบำรุงรักษานอกสถานที่ (Door-to-Door Mobile Service) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าทุกคนจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในทุกๆ กระบวนการ แม้จะมีอุปสรรคและข้อจำกัดที่มากมายในช่วงสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภคทั่วโลก และยังคงเดินหน้าที่จะเดินเคียงข้างคนไทยพร้อมกับสร้างปรากฎการณ์ที่จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย รวมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพื่อก้าวสู่เป้าหมายในการเป็นแบรนด์ Top of mind ในใจคนไทย และขึ้นเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก