เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยนวัตกรรม NOH ระบบนำทางการขับขี่อัตโนมัติสุดล้ำ
และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ตอกย้ำความเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างแท้จริง
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยกระดับความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีระดับโลก ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยี เปิดตัว “NOH” (Navigation On HIPilot) ระบบนำทางขณะขับขี่ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Dayu ที่พัฒนาขึ้นเองล่าสุดเป็นครั้งแรก โดยเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในยานยนต์พลังงานใหม่ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในปี 2565 เป็นต้นไป
โดยล่าสุด Haomo.AI ผู้นำด้านระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในเครือเกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัว “NOH” (Navigation On HIPilot) ระบบนำทางอัจฉริยะขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง รองรับโดยระบบ HPilot 3.0 โดย “NOH” มาพร้อมกับชิปประสิทธิภาพสูงที่ออกแบบเป็นพิเศษ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) 360T และระบบประมวลผลความเร็วสูง 200K + DMIPS นอกจากนี้ยังติดตั้งเรดาร์เลเซอร์ 2 ตัว กล้อง 12 ตัว และเรดาร์แบบคลื่น 5 มม. สามารถช่วยเหลือการขับขี่และรักษาความปลอดภัยในรูปแบบที่ซับซ้อนได้ อาทิ การเปลี่ยนเลนและการแซงอัตโนมัติ การจดจำสัญญาณไฟจราจร และการควบคุมรถ การขับผ่านสี่แยกที่ซับซ้อน และการเลี้ยวภายใต้สภาพแวดล้อมถนนในเมืองตามเส้นทางการขับขี่ที่ให้บริการโดยระบบนำทาง เป็นต้น เทคโนโลยีดังกล่าวยังสามารถจัดการกับสถานการณ์การจราจรที่วุ่นวายได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนเลนในระยะทางอันสั้น การขับในวงเวียน การลงอุโมงค์ การขึ้นสะพานข้ามแยก โดยเทคโนโลยี NOH จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็ว ๆ นี้
ด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ Dayu ที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นเองเป็นครั้งแรกหลังจากวิจัยและพัฒนามาหลายปีการันตีคุณภาพด้วยสิทธิบัตรมากกว่า 60 ฉบับ ก็พร้อมมอบความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานทุกมิติภายใต้แนวคิด “การเปลี่ยนจุดอ่อนเป็นจุดแข็ง” ผสมผสานการออกแบบที่ครอบคลุมหลากหลายคุณสมบัติ ไม่ว่าจะเป็น การแยกแหล่งความร้อน การกระจายความร้อน ฉนวนกันความร้อนที่อุณหภูมิสูง การดับเพลิงอัตโนมัติ และระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ เป็นต้น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ดังกล่าวยังนับเป็นนวัตกรรมแบตเตอรี่ที่เข้ามาอุดรอยรั่วของอันตรายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างขั้นตอนผลิต ตลอดจนส่งมอบความปลอดภัยให้กับลูกค้าขณะใช้งาน
พร้อมกันนี้บริษัท SVOLT บริษัทในเครือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้เปิดตัวนวัตกรรมแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง ที่เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ที่ใช้ขดลวดแบบเดียวกัน นวัตกรรมแบตเตอรี่ตัวใหม่ล่าสุดนี้จะมีความจุเพิ่มขึ้น 5% มีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น 10% และช่วยลดต้นทุนได้ถึง 15% โดยเทคโนโลยีต่าง ๆ สะท้อนดีเอ็นเอหลักของแบรนด์ในการให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นอันดับแรก และจะถูกนำมาประยุกต์ใช้กับยานยนต์ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในเร็ว ๆ นี้ต่อไป
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการใช้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางมาโดยตลอด บริษัทไม่เพียงแต่ได้รับสิทธิบัตรมากมาย แต่ยังได้สร้างความก้าวหน้าในเรื่องเทคโนโลยีอัจฉริยะเป็นอย่าง ตามข้อมูลที่เผยแพร่โดย Autopat กล่าวว่าในปี 2564 จำนวนสิทธิบัตรยานยนต์ที่เปิดเผยในจีนยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีสิทธิบัตรที่เปิดเผยได้ถึง 3,710 ฉบับ และได้รับสิทธิบัตรมากถึง 3,256 ฉบับ ซึ่ง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ถือเป็นบริษัทที่มีสิทธิบัตรมากที่สุดในประเทศจีน ในกลุ่มบริษัทรถยนต์เอกชนของจีน ด้านยานยนต์พลังงานใหม่นั้น เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีสิทธิบัตรเปิดเผยได้แล้วถึง 1,301 ฉบับ และได้รับสิทธิบัตรอีก 914 ฉบับ ซึ่งถือเป็นผู้นำในบรรดาบริษัทยานยนต์ของจีนเช่นเดียวกัน ตอกย้ำถึงการเป็น “บริษัทเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” ของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างแท้จริง”
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงงานฐานการผลิตส่วนประกอบอัจฉริยะหลักภายในยานยนต์ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ณ เขตฮุ่ยซาน เมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ได้มีการลงนามอย่างเป็นทางการด้วยเงินลงทุนรวม 3.1 พันล้านหยวน ดำเนินการโดย Exquisite Automotive Systems Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยอิสระของเกรท วอลล์ มอเตอร์ หากฐานการผลิตนี้เสร็จสมบูรณ์ จะมีกำลังการผลิตระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (Air Suspension System) EAS ได้ถึง 1.1 ล้านชุด และ ระบบควบคุมกันสะเทือนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Controlled Suspension System) EDC ถึง 2.6 ล้านชุด ซึ่งจะมีมูลค่าการส่งออกประจำปีโดยประมาณ 10 พันล้านหยวน และช่วยสร้างงานได้มากกว่า 1,000 คน โดยเมื่อเปรียบเทียบกับระบบช่วงล่างแบบเดิม ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะแบบใหม่นี้จะช่วยปรับความสมดุลของรถได้แบบเรียลไทม์ตามสภาพถนน ปรับปรุงความสะดวกสบาย การเคลื่อนไหวของตัวรถ และความปลอดภัย เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างเหนือระดับ
ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงเดินหน้าเข้าถึงความต้องการและครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องด้วย 3 เทคโนโลยีหลัก ประกอบด้วย GWM L.E.M.O.N, GWM TANK และ COFFEE INTELLIGENT โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้นำเทคโนโลยีทั้งสามนี้ไปใช้ในรถยนต์ที่ผลิตและจำหน่ายให้กับผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 66.2 เปอร์เซ็นต์ ทำให้โดยรวมแล้ว เกรท วอลล์ มอเตอร์มีสัดส่วนรถยนต์ที่มีระบบอัจฉริยะมากถึง 89 เปอร์เซ็นต์
- GWM L.E.M.O.N: แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบโมดูล่าร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการพัฒนาของรถซีดาน รถเอสยูวี และรถเอ็มพีวี ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และน้ำหนักเบา เพิ่มความสามารถในการดูดซับและกระจายแรงกระแทกให้ได้มากที่สุด เพื่อให้แรงกระแทกเข้าไปสู่โครงสร้างห้องโดยสารน้อยที่สุด
- GWM TANK: แพลตฟอร์มระดับเวิลด์คลาส ตอบโจทย์ทุกขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์สำหรับการขับขี่แบบออฟโรดสไตล์ขาลุย
- COFFEE INTELLIGENT: ระบบอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต ตั้งแต่ห้องโดยสารอัจฉริยะ การขับขี่อัตโนมัติ ตลอดจนการออกแบบไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าที่เคย รวมถึงขยายขีดความสามารถในการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต และการสื่อสารระหว่างคนและรถให้ไร้ขีดจำกัดมากยิ่งขึ้น
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะ “บริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก” (Global Intelligent Technology Company) ยึดมั่นในแนวคิดที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางและได้รับความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่เป็นที่ยอมรับของตลาดมากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง โดยทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังคงส่งเสริมแบรนด์ระดับพรีเมียมด้วยนวัตกรรมชั้นนำ พร้อมมุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานคุณภาพ และบริการที่ดีเยี่ยมบนพื้นฐานของเทคโนโลยีล้ำสมัย ความปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งของการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม พิสูจน์ให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร และปลดปล่อยศักยภาพในการเติบโตขององค์กร มุ่งสู่ความเป็นมืออาชีพระดับโลกต่อไป