แกร็บ ส่งต่อความห่วงใยช่วยเหลือพาร์ทเนอร์คนขับ

ผนึกพันธมิตรแจก “ถุงนี้…เป็นกำลังใจให้พี่นะ” รวมกว่า 8 ล้านบาท

แกร็บ ประเทศไทย โดยจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เปิดตัวกิจกรรม “Grab Loves Partners: ช่วยพี่คนขับกันนะ” ผนึก 6 บริษัทพันธมิตร อันได้แก่ กลุ่มเซ็นทรัล ยูนิลีเวอร์ โอสถสภา แบรนด์ซันโทรี่ เบอร์ลี่ยุคเกอร์ และตรานกพิราบ จัดทำถุงยังชีพบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจากแบรนด์ชั้นนำจำนวน 40,000 ชุด รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท เพื่อมอบความห่วงใยและส่งต่อกำลังใจให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโรคโควิด-19 นับเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยที่ไม่มีใครตั้งตัวและเตรียมรับกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่เพียงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก แต่เศรษฐกิจทั้งระบบก็ได้รับผลสะเทือนไม่แพ้กัน สำหรับในประเทศไทยเองมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องตกงาน สูญเสียรายได้และต้องเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับของแกร็บด้วย ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากอันเนื่องมาจากการประกาศมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมและส่งเสริมให้คนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน นโยบายล็อกดาวน์ที่ปิดรับนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางที่มาจากต่างประเทศ ส่งผลให้จำนวนการใช้บริการเรียกรถของแกร็บลดลงอย่างมากและกระทบต่อการหารายได้ในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา

เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของแกร็บในการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมตามพันธกิจในการดำเนินธุรกิจที่เรียกว่า “Grab For Good”  ล่าสุด แกร็บ ประเทศไทย ได้เปิดตัวกิจกรรม “Grab Loves Partners: ช่วยพี่คนขับกันนะ” โดยได้ร่วมมือกับ 6 พันธมิตรสำคัญ อันได้แก่ กลุ่มเซ็นทรัล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จํากัด บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด มหาชน และ บริษัท สันติภาพ (ฮั่วเพ้ง 1958) จำกัด จัดทำถุงยังชีพที่บรรจุผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจากแบรนด์ชั้นนำ จำนวน 40,000 ชุด รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท เพื่อมอบความห่วงใยและส่งต่อกำลังใจให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับของแกร็บทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา แกร็บได้พยายามให้ความช่วยเหลือกับพาร์ทเนอร์คนขับของเราอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การเปิดให้สามารถรับงานส่งอาหารด้วยรถยนต์แทนบริการการเดินทาง รวมไปถึงการโปรโมตบริการจัดส่งสินค้าผ่าน Grab Express ด้วยรถยนต์มากขึ้น ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่สามารถทดแทนรายได้จากการบริการเรียกรถได้ทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้เสริมให้กับคนไทยในภาวะวิกฤติ สำหรับกิจกรรม Grab Loves Partners: ช่วยพี่คนขับกันนะ ที่เราริเริ่มขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจเล็กๆ ที่แกร็บต้องการส่งมอบกำลังใจไปให้พี่ๆ พาร์ทเนอร์คนขับ พร้อมตอกย้ำว่าแกร็บจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและอยู่เคียงข้างเพื่อฝ่าวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน”

กิจกรรมนี้ถือเป็นการรวมพลังจิตอาสาของเหล่าพนักงาน แกร็บ ประเทศไทย พันธมิตรธุรกิจ พร้อมด้วยสาวๆ จากวง BNK48 แบรนด์แอมบาสเดอร์ของแกร็บ นำโดย 3 สาว โมบายล์ มิวสิค และมิวนิค ที่มาร่วมจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ แพ็คอาหารและสินค้าต่างๆ จากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ ข้าวสาร ผลิตภัณฑ์อาหารจากคนอร์ ผักกาดดองตรานกพิราบ กาแฟสำเร็จรูป แบรนด์ซุปไก่สกัด ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม M-150 กระชายดำผสมน้ำผึ้ง มันฝรั่งทอดกรอบเทสโต ข้าวอบกรอบโดโซะ ปลากระป๋อง ฯลฯ จัดใส่ในถุงพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวะภาพ (Biodegradable bag) เพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาการเกิดขยะสะสม พร้อมมอบ “ถุงนี้…เป็นกำลังใจให้พี่นะ” ให้กับพาร์ทเนอร์คนขับของแกร็บในเขตกรุงเทพฯ  และปริมณฑล ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยนอกจากในกรุงเทพฯ แล้ว แกร็บยังเตรียมขนคาราวาน Grab Loves Partners: ช่วยพี่คนขับกันนะ ไปส่งต่อความห่วงใยให้กับพาร์ทเนอร์คนขับในต่างจังหวัดที่บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลในจังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ขอนแก่น และนครราชสีมา ระหว่างเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้

นาย ศรัณย์ ดีโยธา (หมู) พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บที่เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า “ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ผมและพี่ๆ พาร์ทเนอร์คนขับค่อนข้างได้รับผลกระทบในหลายด้าน ซึ่งส่งผลต่อการหารายได้ การจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาทำให้ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวแกร็บ นอกจากที่แกร็บได้สร้างโอกาสให้ผมและพี่ๆ พาร์ทเนอร์คนขับได้มีรายได้แล้ว ยังพร้อมสนับสนุนและยังให้ความช่วยเหลือโดยการมอบถุงยังชีพเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกผมในช่วงโควิด-19 ผมรู้สึกประทับใจ และขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้มากครับ“