GAC AION สร้างความมั่นใจผู้บริโภคหลังการขาย พร้อมขึ้นเป็นเบอร์ 1 รถไฟฟ้าในไทย
หลัง GAC AION เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า AION Y PLUS เมื่อปลายปี 2566 พร้อมยอดจอง จำนวน 4,568 คัน สูงเป็นอันดับสองของกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับหั่นราคาลงอีกรอบเมื่อต้นปี 2567 เหลือเพียง 995,900 บาท
ความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า AION Y PLUS ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ทำให้ AION Thailand ให้ความสำคัญทั้งในเรื่องคุณภาพตัวรถและบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โดย ตั้งเป้าสร้างศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการจำนวนกว่า 70 แห่งทั่วประเทศภายในปี 2567 เพื่อมอบความสะดวกสบายและความมั่นใจให้กับผู้บริโภค รวมถึงสร้างระบบบริการหลังการขาย โดยในขณะนี้ศูนย์อะไหล่ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถจัดส่งอะไหล่ได้ทั่วประเทศไทยภายใน 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ เพื่อรองรับจำนวนรถไฟฟ้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และสร้างความมั่นใจในการเดินทาง สำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า GAC AION วางแผนสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จ (DC Fast Charge) ทั่วประเทศ เป็นจำนวนมากถึง 180 แห่ง เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้รถไฟฟ้า AION มั่นใจได้ว่าจะมีสถานีชาร์จไฟในทุกการเดินทางอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน GAC AION กำลังเดินหน้าพัฒนาระบบการผลิต การขาย และการบริการในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ โดย GAC AION ได้ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดระยอง ด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 2,300 ล้านบาท โดยการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า GAC AION ในไทยจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรก คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมปีนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 20,000 คันต่อปี และเฟสที่ 2 จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 50,000 คันต่อปี
สำหรับ GAC AION ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน พึ่งฉลองหลังทำสถิติยอดขาย 1,000,000 คัน (ภายในเวลา 4 ปี 8เดือน) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นบริษัทรถยนต์ที่สามารถทำยอดขายได้ครบ 1 ล้านคันโดยใช้เวลาสั้นที่สุดในโลก
รถยนต์ไฟฟ้า AION Y PLUS 490 Premium มีความโดดเด่นทั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ดีไซน์ที่สวยงาม และราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ทำให้ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทย
จุดแข็งของ AION Y Plus 490 Premium
AION Y Plus 490 Premium เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มีระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,750 mm พร้อมด้วยพื้นที่วางขาด้านหลัง 1,022 mm ทำให้มั่นใจได้ถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารเนื่องจากพื้นที่ภายในห้องโดยสารมีขนาดใหญ่และกว้างขวาง พร้อมด้วยฟังก์ชั่นเบาะนั่งคู่หน้าที่สามารถพับราบกลายเป็นเตียงขนาดใหญ่ได้ 1.8 เมตร มอบทางเลือกในการพักผ่อนที่มากกว่าและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางระยะไกล เบาะโดยสารด้านหลังสามารถพับลงกลายเป็นพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มากถึง 1,200 ลิตร สามารถรองรับสัมภาระจำนวนมากได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ผู้ที่มีสัมภาระเป็นจำนวนมาก
AION Y Plus 490 Premium ถือว่าเป็น Compact SUV ขนาดกำลังดี ที่ใครๆก็ขับได้ ดีไซน์สวยงาม มาพร้อมความกว้างขว้างของห้องโดยสารที่เหนือกว่า ประตูทั้ง 4 บานเปิดได้กว้างเกือบ 90 องศา ไม่มีที่คั่นประตู (ธรณีประตู) ทำให้สามารถเข้า-ออกรถได้สะดวกมาก ตอบโจทย์คนที่ชอบทำกิจกรรมและครอบครัวที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก ทำให้ไม่มีปัญหาในการขึ้น หรือลงจากตัวรถ
นอกจากนี้ เบาะคู่หน้าสามารถปรับเอนลงสุด และหากนำพนักรองศีรษะออกจะสามารถปรับเป็นรองขาสำหรับเบาะนั่งแถวหลัง ทำให้สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายภายในรถ เช่น นั่งดูหนัง เล่นเกม หรือนอนแคมป์ปิ้ง ก็ทำได้อย่างสบายๆ เพราะมีระบบ V2L สำหรับส่งกำลังไฟฟ้าจากตัวรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก เปลี่ยนรถของคุณเป็นอุปกรณ์จ่ายไฟเคลื่อนที่ ด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 3,300 วัตต์
APPLICATION ของ AION ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ใช่แค่เอาไว้ใช้ตรวจสอบสถานะของตัวรถ แต่ยังสามารถควบคุมด้วยคำสั่งระยะไกล เช่น ล็อครถ สตาร์ท เปิด-ปิดหน้าต่าง ไปจนถึงการเปิดปิดแอร์ ช่วยให้เจ้าของรถสามารถวางแผนการเดินทาง และเตรียมรถให้พร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อมาถึงรถ
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสถานะต่างๆ ของรถผ่านฟังก์ชันการสแกนสถานะรถ ช่วยให้คุณทราบถึงสถานะ ประตูรถยนต์, หน้าต่างรถยนต์,การล๊อครถ, ฝากระโปรงหลังรถ,แรงดันแบตเตอรี่และระดับน้ำมันเบรก
เรียกได้ว่าไม่ว่าจะใกล้หรือไกล จอดไว้ที่ไหนก็หาเจอ ด้วยฟังก์ชันการระบุพิกัดของรถ พร้อมคำสั่งกระพริบไฟและส่งเสียง รวมถึงระบบแจ้งเตือนช่วยให้ทราบข้อผิดพลาดต่างๆ และแก้ไขได้ทันที ครอบคลุมถึง ระบบกันขโมย การเปิดกระจกรถยนต์ หรือเปิดท้ายรถทิ้งไว้ รวมถึงการตั้งเวลาเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้อีกด้วย
AION Y Plus 490 Premium รถยนต์ไฟฟ้าจาก GAC AION ได้มีการอัปเกรดปรับอุปกรณ์ เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันมากยิ่งขึ้น เสริมด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะเต็มระบบ
AION Y Plus 490 Premium ได้รับการอัปเกรดออปชันและฟีเจอร์อย่างเต็มรูปแบบมากถึง 24 รายการ โดยภายนอกมาพร้อมกับระบบไฟสูงอัจฉริยะ ที่สามารถสลับไฟสูง-ไฟต่ำให้คุณแบบอัตโนมัติ พร้อมประตูฝาท้ายระบบไฟฟ้า และฟังก์ชัน V2L ภายในห้องโดยสาร มีการเพิ่มระบบระบายอากาศเบาะที่นั่งคนขับ เบาะผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับได้ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารสามารถปรับได้ตามจังหวะดนตรี เบาะหลังมีการติดตั้งพนักพิงศีรษะและที่วางแขนตรงกลาง รวมถึงระบบการขับขี่อัจฉริยะและระบบความบันเทิง มีการอัปเกรดเพิ่มขึ้นถึง 12 รายการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะที่ให้มาแบบครบๆ ทั้ง Adaptive cruise control, Intelligent cruise assist, Traffic jam assist Lane keeping assist, Lane departure warning, Front collision warning, Autonomous emergency braking และระบบอื่นๆอีกมากมาย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ นอกจากนี้เรายังได้แถมสาย Emergency Charging และสายพ่วง V2L ให้กับลูกค้าที่ซื้อ AION Y Plus 490 Premium อีกด้วย
ฟังก์ชันใหม่ที่ได้รับการอัปเกรด ของ AION Y Plus 490 Premium เกิดจากการรับฟังความต้องการของลูกค้าชาวไทย ที่มีความต้องการรถไฟฟ้าที่มีออปชั่นแบบครบครัน เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากขึ้น และยังเป็นการเพิ่มความสามารถให้เหนือกว่าคู่แข่งกลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเรทราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทในประเทศไทย
เทคโนโลยี “Magazine Battery” และแพลตฟอร์ม AEP
AION Y PLUS มาพร้อมกับ Magazine Battery ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ GAC AION เคลมว่า “ปลอดภัยที่สุดในโลก” ในขณะนี้ โดยจากสถิติรถยนต์ที่ใช้ Magazine Battery ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบตเตอรี่ลุกไหม้หรือระเบิดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
GAC AION ได้ทำการทดสอบแบตเตอรี่ ด้วยวิธีการที่ออกแบบเป็นพิเศษด้วยการยิงกระสุนปืนทะลุแบตเตอรี่เพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่จะไม่ลุกติดไฟ แม้เกิดการกระแจกอย่างรุนแรง หากเทียบกับการทดสอบด้วยการเจาะทะลุแบตเตอรี่แบบมาตรฐาน (Nail penetration test) ความเร็วจากการเจาะทะลุแบตเตอรี่ในการทดสอบด้วยการยิงกระสุนปืนนั้นมีความเร็วกว่าถึง 980,000 เท่า และมีเส้นผ่านศูนย์กลางของรอยทะลุใหญ่กว่าถึง 7-8 เท่า
广汽埃安进行了电池测试实验, 采用特殊设计的子弹穿过电池的射击方法,尽管受损很严重,电池也不糊着火,与标准的钉刺测试相比,枪弹测试中的电池穿透速度快了98万倍,穿透直径也大了7-8倍。
อีกหนึ่งไฮไลท์ของ AION Y Plus ก็คือ มันถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม AEP หรือ AION Electric Platform ที่ออกแบบมาเพื่อรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย เช่น การติดตั้งชุดแบตเตอรี่ฝังไว้ในโครงสร้างแพลตฟอร์ม ซึ่งจะได้ความปลอดภัยที่มากกว่า และยังทำให้ AION Y Plus มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังแบบ 50:50 ซึ่งเป็นไปได้ยากสำหรับรถยนต์ SUV นอกจากนี้ยังทำให้ตัวรถมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง โดยแพลตฟอร์ม AEP พัฒนาขึ้นจากทีมนักวิจัยถึง 200 คน ใช้เวลา 30 เดือนและเงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท
ทั้งหมดที่กล่าวมา คือทิศทางของ GAC AION ในประเทศไทย ที่ถึงแม้ว่า ณ ขณะนี้ จะมีรถทำตลาดหลักๆเพียงรุ่นเดียวคือ AION Y Plus แต่ก็ยังสามารถกวาดยอดจองในงาน Motor Expo 2023 มาได้มากถึง 4,568 คัน แสดงให้เห็นว่าลูกค้าชาวไทยให้ความไว้วางใจในรถยนต์ไฟฟ้า AION ทั้งในแง่ของความคุ้มค่า ประโยชน์ใช้สอย ความปลอดภัย เทคโนโลยี การรับประกัน และบริการหลังการขาย ซึ่งทาง AION ให้ความสำคัญในจุดนี้เป็นอย่างมาก