GAC AION ฉลองความสำเร็จ ยอดจองรถไฟฟ้า4,568 คัน
ขึ้นแท่นอันดับ 2 ของแบรนด์รถไฟฟ้า ตอบรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตในประเทศไทย
Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 40 ได้สิ้นสุดแล้วอย่างเป็นทางการ โดย GAC AION ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย กวาดยอดจองทั้งหมด 4,568 คัน ถือเป็นอันดับที่ 4 จากแบรนด์ที่เข้าร่วมงานทั้งหมด และมียอดจองเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ และเรายังได้สร้างสถิติยอดจองสูงสุดรายวัน และสถิติยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ (AION ES) แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งของ GAC AION ในตลาดประเทศไทยและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภค สร้างแรงกระเพื่อมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยมีรถรุ่นชูโรงอย่าง AION Y Plus 490 Premium
งาน Motor Expo ในครั้งนี้เรียกได้ว่า GAC AION สร้างยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ ในฐานะแบรนด์รถยนต์ที่เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และมียอดขายสูงอยู่ในระดับต้นๆ ของแบรนด์ที่เข้าร่วมงานทั้งหมด โดย AION Y Plus 490 Premium ไม่เพียงแต่มียอดขายที่เกินความคาดหมายเท่านั้น แต่รถยนต์ซีดานไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะอย่าง AION ES ยังมียอดจอดสูงถึง 850 คัน และมีรายงานอีกด้วยว่า Hyper SSR ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า ยังเป็นรถที่ลูกค้าให้ความสนใจ และมียอดจองในงานถึง 11 คัน จนเป็นที่พูดถึงจากสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่คลั่งไคล้รถยนต์ชาวไทยเป็นอย่างมาก GAC AION เป็นแบรนด์ที่มีคุณสมบัติครอบรอบด้าน ทำให้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก
AION Y Plus รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 และในวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา GAC AION ได้สร้างสถิติยอดจองในวันเดียวสูงถึง 1,168 คัน โดยมีรถรุ่นไฮไลท์ได้แก่ AION Y Plus 490 Premium ที่ได้เปิดตัวภายในงาน Motor Expo เป็นครั้งแรก อีกทั้ง AION Y Plus ยังติดอันดับ 2 ใน 10 อันดับรถยนต์ยอดนิยมที่จัดอันดับโดยบริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงาน Motor Expo
AION Y Plus 490 Premium ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ ด้วยการอัปเกรดออปชั่นจากรุ่น Elite ทั้งหมด 24 รายการ โดยมีออปชั่นไฮไลท์ที่จะทำให้คุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอย่าง ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ Level 2, ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ และฟังก์ชั่น V2L ที่ช่วยให้เราเพลิดเพลินกับกิจกรรมนอกบ้านได้ อีกทั้งยังมีการอัปเกรดฟีเจอร์ภายในห้องโดยสาร อย่างระบบระบายอากาศของเบาะคนขับ เบาะข้างคนขับเป็นระบบไฟฟ้าสามารถปรับได้ 4 ทิศทาง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และไฟสร้างบรรยากาศ (ปรับตามจังหวะดนตรี) อีกทั้งยังเพิ่มที่วางแขนตรงกลางสำหรับเบาะหลังอีกด้วย AION Y Plus 490 Premium ถูกดีไซน์ตกแต่งภายนอกและภายในระดับไฮเอนด์ พร้อมความทนทานที่เหนือกว่า จึงทำ AION Y Plus เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาวไทยจับตามอง
AION ES เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ ที่มียอดจองถล่มทลาย โดย AION ES ของ GAC AION เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทางในเมือง AION ES จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย โดยในงาน Motor Expo ครั้งนี้ โกลด์ อินทิเกรท (Gold Integrate) หนึ่งในดีลเลอร์ของ AION Thailand ได้ร่วมมือกับ Evme ในการเซ็นสัญญาสั่งซื้อ AION ES รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ ให้กับลูกค้าจำนวน 850 คัน
สิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ AION ES ทั้ง 850 คันนี้จะได้รับประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะ นั่นคือการปรับปรุงดีไซน์ภายนอกใหม่ให้ดูล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงระบบไฟสูงอัจฉริยะและออปชั่นอื่นๆ ที่มีการอัปเกรดรวม 10 รายการ เพื่อเป็นการตอกย้ำคุณภาพของ AION ES เราจึงมอบการบริการที่เหนือกว่าให้กับอุตสาหกรรมรถโดยสารสาธารณะของไทย 6 ประการ ได้แก่ สะดวกสบายที่มากกว่า, ขับขี่ได้ที่ไกลกว่า, สบายใจในการใช้งานที่มากกว่า, ประหยัดเงินได้มากกว่า, มืออาชีพมากกว่า และรู้ใจมากกว่า AION ES ถูกออกแบบมาสำหรับตลาดประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อส่งเสริมและเป็นแรงกระตุ้นให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย รวมถึงยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
นอกจากนี้ รถยนต์ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าของ GAC AION อย่าง Hyper SSR ยังเป็นรถที่ผู้คนให้ความสนใจภายในงานเป็นอย่างมาก โดยมียอดจองภายในงานถึง 11 คัน สร้างเสียงฮือฮาอย่างมากทั้งในส่วนของสื่อมวลชนและผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับรถยนต์รุ่นไฮเอนด์ของ GAC AION และเป็นการแสดงศักยภาพสุดล้ำของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 1.9 วินาที มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังรวมสูงสุดถึง 1,225 แรงม้า ประตูปีกแบบปีกผีเสื้อ เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ภายนอกทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ 100% ซึ่งรถรุ่นนี้ได้ประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจจากแฟนๆ รถยนต์และผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก
ปัจจุบัน AION Thailand ได้เดินหน้าก่อสร้างโรงงานสำหรับผลิตรถยนต์ในประเทศไทย รวมไปถึงการขยายตัวแทนจำหน่าย และการบริการอย่างเต็มรูปแบบ โดยโรงงานผลิตรถยนต์ของ AION Thailand ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษEEC จังหวัดระยอง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ด้วยเงินลงทุนรวมสูงถึง 2,300 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 50,000 คัน/ปี โดยการก่อสร้างนี้จะเป็นออกเป็น 2 ช่วง ซึ่งการก่อสร้างในช่วงแรกคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2567 ถือเป็นการยกระดับกำลังการผลิตและแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีในประเทศไทย
ในด้านการจำหน่ายและเครือข่ายการให้บริการ AION Thailand วางแผนไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้ จะมีการอนุมัติศูนย์จำหน่ายและศูนย์บริการจำนวนทั้งสิ้น 50 แห่ง เพื่อมอบประสบการณ์การใช้รถยนต์ที่มีคุณภาพและมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ GAC AION ยังให้ความสำคัญกับการสร้างระบบบริการหลังการขายที่ไร้กังวล ด้วยนโยบายการประกันคุณภาพชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมการบริการคุณภาพสูง โดยในขณะนี้ศูนย์สต็อคอะไหล่ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถจัดส่งอะไหล่ได้ทั่วประเทศไทยภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยราคาที่เป็นมิตรกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการบริการให้กับลูกค้า
พร้อมกันนั้น GAC AION กำลังวางแผนจัดสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จในประเทศไทย โดยคาดว่าในปี 2567 จะมีการสร้างสถานีชาร์จได้จำนวนทั้งหมด 180 แห่ง เพื่อรองรับการคมนาคมของไทยอย่างครบวงจรและสร้างความมั่นใจในการเดินทางที่สะดวกสบายสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ในฐานะผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า GAC AION ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากภายในงาน Motor Expo 2023 ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการยึดรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดโลกในอนาคต การพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องและผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมของ GAC AION เป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวไปข้างหน้า และเรายังเป็นส่วนหนึ่งในแรงขับเคลื่อนของการพัฒนาสู่การเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคอาเซียน