Flare จับมือ Toyota Tsusho (Thailand) เปิดมิติตลาดโฆษณาเคลื่อนที่
‘ติด ขับ รับเงิน’ รายแรก มีแอพติดตาม ประเมินผลเรียลไทม์
ในยุคที่สื่อโฆษณาต้องปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยใช้เวลาแต่ละวินาทีอย่างมีคุณค่า ซึ่งในปี 2561 ตลาดโฆษณาสื่อนอกบ้าน (Out of Home) มีมูลค่า 14,000 ล้านบาท อัตราเติบโตปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ติดรถจึงเป็นที่พบเห็นและเริ่มเข้ามามีบทบาท บริษัท แฟลร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (Flare (Thailand) Co.,Ltd.) จึงได้รุกเข้าสู่ธุรกิจสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ติดรถ โดยจับจุดของผู้คนที่แต่ละวันต้องอยู่บนท้องถนนกันเป็นเวลานาน ต่อไปนี้ไม่ต้องหงุดหงิดกับช่วงเวลารถติด เพราะจะเปลี่ยนเป็นการสร้างรายได้ให้ตัวเอง ภายใต้คำนิยาม ‘ติด ขับ รับเงิน’ พร้อมทั้งเสริมด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ในยุคที่โลกออนไลน์ทวีความสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยการเป็นรายแรกที่มีแอพพลิเคชั่นติดตามและประเมินผลได้แบบเรียลไทม์ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตในปี 2562 สูงขึ้น 10 เท่า รายได้อยู่ที่ 50 ล้านบาท โดยจัดงานแถลงข่าว เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด
บริษัท แฟลร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เริ่มเข้าสู่การเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ติดรถในปี 2560 ซึ่งได้มีรถยนต์สนใจร่วมเป็นสมาชิกกว่า 15,000 คัน เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มีรถแล้วต้องการสร้างรายได้ ลูกค้าสามารถเลือกรถที่ต้องการจะลงสื่อโฆษณาได้ตามโปรดักส์ที่ต้องการนำเสนอให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความแตกต่างให้เกิดความโดดเด่น ด้วยการนำแอพพลิเคชั่น Flare มาใช้ โดยสามารถแทรคกิ้ง (Tracking) ติดตามจำนวนคนเข้าถึงโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งถือเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ให้บริการ เพื่อตอบสนองลูกค้าในการเลือกซื้อสื่อโฆษณาผ่านบริษัท โดยความร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า ทูโช (ไทยแลนด์) จำกัด (Toyota Tsusho (Thailand) Co.,Ltd.)
มร.คาซูกิ คามิยะ (Mr.Kazuki Kamiya) ผู้ก่อตั้ง บริษัท แฟลร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “เมืองไทย มีปัญหารถติด เลยอยากจะเปลี่ยนสถานการณ์ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสจากคนเครียด ๆ รถติดบนท้องถนน เปลี่ยนเป็นเงิน สร้างรายได้ โดยการเป็นมีเดียเคลื่อนที่ ซึ่งทุกคนที่มีรถส่วนตัวสามารถมาสมัครเป็นสมาชิกได้ และบริษัทได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Flare สามารถวัดผลได้แบบเรียลไทม์ ตอบโจทย์ลูกค้าที่มาเลือกซื้อสื่อผ่านบริษัท ได้เป็นอย่างดี โดยได้ใช้โปรแกรมอัลกอริทึม (Algorithm) ในการเก็บข้อมูลของสมาชิกผู้ขับ เชื่อมโยงกับ API ของ google map ในการตรวจวัดว่ามีคนดูโฆษณาเท่าไหร่ ซึ่งถือเป็นโปรแกรมที่แม่นยำ ทำให้ผู้ซื้อสื่อโฆษณาได้ประเมินผลแบบเรียลไทม์” มร.คามิยะ กล่าว
จากสภาพการจราจรในกรุงเทพมหานครที่ติดขัดมากขึ้น จนหลายคนหงุดหงิดและมองว่าเป็นเรื่องเสียเวลาแต่การเข้าร่วมธุรกิจกับ แฟลร์ (ไทยแลนด์) ได้ทำให้ความคิดดังกล่าวเปลี่ยนไปทันที เพราะสามารถสร้างให้เกิดเป็นรายได้ โดยแปรรถที่ต้องอยู่ในสภาพจราจรติดขัดมาเป็นสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ สำหรับผู้ขับรถที่ต้องการเป็นสมาชิกร่วมธุรกิจ สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียง ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น Flare ซึ่งรายได้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเคลื่อนตัวของรถ, สถานที่ที่ขับไปเป็นประจำ และช่วงเวลาในการขับ
ในส่วนของผู้ซื้อสื่อโฆษณาเคลื่อนที่กับ บริษัท แฟลร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็จะได้รับความคุ้มค่าเพราะนอกจากเป็นสื่อโฆษณาที่เคลื่อนที่เข้าหากลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังสามารถวัดผลคนเห็นโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอพพลิเคชั่นที่บริษัทพัฒนาขึ้น อีกทั้งยังสามารถเลือกรถที่อยากโฆษณาได้ตามต้องการ สามารถเลือกสถานที่การโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการวัดคนที่เห็นโฆษณา ทาง Flare ได้มีการนำหลักสถิติและระบบ Impressions (จำนวนครั้งที่แสดงโฆษณาออกไป) มาคำนวณ เฉลี่ยการมองเห็นอยู่ที่ประมาณ 20,000 คน/วัน/คัน โดยค่าใช้จ่ายในการซื้อสื่อโฆษณาเริ่มต้น 6,000 บาท/เดือน
ผู้ขับรถที่สนใจสมัครเป็นสมาชิกร่วมกับ บริษัท แฟลร์ (ไทยแลนด์) จำกัด สามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Flare Car ได้ที่ http://bit.ly/2x2MIJv (สำหรับ Android) และ https://bit.ly/2Q3r838 (สำหรับ iOS) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/flare.runTH/; เว็บไซต์ www.flare.run หรือ โทร. 02-102-1578
และลูกค้าที่สนใจซื้อสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ติดรถ พร้อมระบบติดตามด้วยแอพพลิเคชั่น ครั้งแรกในประเทศไทย ติดต่อได้ที่ เบอร์โทร 02-102-1578