พาณิชย์’ ย้ำ การค้ายุคปัจจุบันต้องพัฒนาทั้ง “ช่องทางการตลาด” และ “คน” ไปพร้อมกัน
พร้อมใช้ Digital Marketing สร้างสรรค์สินค้าและบริการที่แตกต่าง สร้างความมั่นคงธุรกิจระยะยาว
พาณิชย์’ ย้ำ การค้าปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ประกอบการยุคใหม่พัฒนาช่องทางการตลาดผ่านออนไลน์อย่างเดียวไม่พอ ศักยภาพของคนก็ต้องได้รับการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน พร้อมเร่งผลักดันเอสเอ็มอีไทยใช้การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) สร้างสรรค์สินค้าและบริการที่โดนใจลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้ตรงเทรนด์
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาช่องทางการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์แก่ผู้ประกอบการไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่การตลาดผ่านช่องทางออนไลน์กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ให้การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้มีความเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้ในระบบสากล ได้ผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ให้ถูกระบบมากยิ่งขึ้น เบื้องต้นได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการดำเนินโครงการ Offline 2 Online โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การพัฒนาศักยภาพด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้ประกอบการสินค้าชุมชนทั่วประเทศ ทั้งด้านการเติมเต็มองค์ความรู้ การสร้างช่องทางการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร พร้อมกับการพัฒนา “คน” ให้มีศักยภาพสูงรองรับการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจท้องถิ่นไปสู่โลกการค้ายุคใหม่”
“กิจกรรมภายใต้โครงการ Offline 2 Online ประกอบด้วย 1) บ่มเพาะพี่เลี้ยงสร้างเครือข่ายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce business mentor) จำนวน 80 ราย ทั่วประเทศ เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยอื่นๆ 2) การอบรมพัฒนาผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ จำนวน 20 รุ่น รวม 1,000 ราย ทั่วประเทศ โดยจะดำเนินการอบรมระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2562 3) การส่งเสริมการตลาดออนไลน์อย่างครบวงจร บน Platform ของ Shopee รวมถึง เว็บไซต์ “ของดีทั่วไทยดอทคอม” ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รวมสินค้าชุมชนขึ้นชื่อ ของดี ของเด่น ทั่วประเทศมาไว้ในที่เดียวกัน โดยมีสินค้าให้เลือกซื้อกว่า 1,000 ร้านค้า คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ประมาณเดือนกรกฎาคม 2562 นี้ และ 4) “มหกรรม e-Commerce เคลื่อนที่ทั่วไทย : ออนไลน์ทั่วทิศ ธุรกิจ e-Commerce” เป็นการเดินสายให้ความรู้ด้าน e-Commerce และด้านการตลาดออนไลน์แก่ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยทั่วประเทศอย่างครบวงจร จำนวน 5 ครั้ง ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค”
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้เร่งผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยทั้งขนาดกลางและขนาดย่อมใช้การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) สร้างสรรค์สินค้าและบริการให้โดนใจลูกค้า ลดเวลา ลดความยุ่งยากในการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการเข้าถึงและสัมผัสประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการขยายโอกาสในการสร้างความผูกพันระหว่างผู้ประกอบการ (สินค้า) กับผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด รวมถึงช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด”
“กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจสินค้า/บริการชุมชน ทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ Offline 2 Online ที่จะจัดขึ้นทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร 0 2547 5961 Facebook Fanpage : Offline2Online www.dbd.go.th หรือสายด่วน 1570 เพื่อร่วมกันยกระดับโลกการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ เชื่อมโยงผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ Global Value Chain ก่อนก้าวขึ้นเวทีการค้าระดับนานาชาติต่อไป” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA พบว่า ปี 2560 ประเทศไทยมีมูลค่าอี-คอมเมิร์ซทั้งสิ้นจำนวน 2,812,592.03 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นมูลค่าประเภท B2B จำนวน 1,675,182.23 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 59.56 รองลงมา เป็นมูลค่าประเภท B2C จำนวน 812,612.68 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.89 และส่วนที่เหลือ 324,797.12 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.55 เป็นมูลค่าตามธุรกิจประเภท B2G ซึ่งเมื่อเทียบมูลค่าอีคอมเมิร์ซของปี 2560 กับปี 2559 จะพบว่ามูลค่าของประเภท B2B มีการเติบโตขึ้นร้อยละ 8.63 และประเภท B2C เติบโตขึ้นร้อยละ 15.54