“ยามาฮ่า” จัดทัพรถจักรยานยนต์ 120 คัน

สนับสนุน “นักรบเสื้อกาวน์” สู้ภัยโควิด-19

บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมสู้ภัย โควิด-19 ส่งมอบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าจำนวน 120 คัน รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท ให้กับกระทรวงสาธารณสุข และอีก 7 โรงพยาบาลใหญ่ เพื่อสนับสนุน “นักรบเสื้อกาวน์” ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อนำไปใช้เป็นรถหน่วยเคลื่อนที่เร็วในการปฏิบัติภารกิจพิชิตเชื้อไวรัส

ในภาวะที่การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 ยังคงเป็นประเด็นหลักในสังคมไทย ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ถือได้ว่าเป็นแนวหน้าในการรับมือกับการแพร่ระบาดยังคงต้องรับภาระหนัก โดยมีเป้าหมายสำคัญทั้งในเรื่องของการเยียวยาผู้ป่วยและต่อสู้กับโรคดังกล่าว ซึ่งการเข้าถึงที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การปฎิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สำหรับ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ในบทบาทค่ายผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ชั้นนำ พร้อมต่อสู้เคียงข้างไปกับ “นักรบเสื้อกาวน์” ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โดย นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร พร้อมผู้บริหารระดับสูง ได้ทำการส่งมอบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าจำนวน 120 คัน เพื่อนำไปใช้เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการปฎิบัติภารกิจพิชิตเชื้อไวรัส โควิด-19

โดย นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ได้กล่าวว่า “บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้การสนับสนุนเหล่า “นักรบเสื้อกาวน์” ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่แนวหน้าในการช่วยเหลือ ป้องกัน และพิชิตไวรัส โควิด-19 เราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกับประชาชนชาวไทย เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติโรคระบาดในครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัย”

สำหรับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าจำนวน 120 คัน ที่รับหน้าที่ในการสู้ศึกโควิด-19 ในครั้งนี้ ประกอบด้วยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟินน์, ยามาฮ่า ฟีโน่, ยามาฮ่า ฟรีโก และ ยามาฮ่า แอร็อกซ์ โดยเป็นการส่งมอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 100 คัน ส่วนอีก 20 คัน ส่งเข้าประจำการที่โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ที่ละ 4 คัน ในขณะที่สถาบันบำราศนราดูร, โรงพยาบาลบุรีรัมย์, โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ได้รับที่ละ 2 คัน

โดยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าจำนวน 120 คัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท จะนำไปใช้เพื่อติดตามผู้ป่วยในระยะกักกัน รวมถึงการเดินทางไปฉีดยาฆ่าเชื้อไวรัส โควิด-19 ตามสถานที่ต่างๆ ที่ผู้ป่วยได้เดินทางไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้อย่างทันท่วงที