Aston Martin จัดทัพสะเทือนมอเตอร์โชว์ 2019

นำโดย ‘VALKYRIE AMR Pro’ และ DBS Superleggera

แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ แอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย ปลุกกระแสเรียกความคึกคักช่วงมอเตอร์โชว์ นำเข้ายนตรกรรมสุดล้ำยุค ‘วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร’ เวอร์ชั่นตัวแข่งของ ‘วาลคีรี่’ ไฮบริดไฮเปอร์คาร์ รุ่นล่าสุด

Valkyrie AMR Pro เส้นสายจากปลายพู่กันของนักออกแบบรถแข่ง F1

วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร เป็นความร่วมมือของ 2 ยักษ์ใหญ่ในวงการยานยนต์ คือ แอสตัน มาร์ติน และ เรดบูล เรซิ่ง (Red Bull Racing) ออกแบบโดย มร. เอเดรียน นิวอี้ ดีไซเนอร์มือฉมังผู้ออกแบบรถแข่ง ฟอร์มูลาวัน โครงสร้างตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมรูปลักษณ์ดุดันกว่าเวอร์ชั่นปกติ ด้วยครีบหลังแบบรถแข่ง LMP1

รวมถึงดิฟฟิวเซอร์และสปอยเลอร์หลังไซส์ยักษ์ เพื่อเน้นประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์สูงสุดบนสนามแข่ง  ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี12 สูบ วางกลาง 6.5 ลิตร หายใจเอง (NA-Naturally Aspirated) พร้อม ‘Rimac Energy Recovery System’ เทคโนโลยีไฮบริด ที่พัฒนาจากรถแข่ง ฟอร์มูลาวัน ขณะที่กล่องอีซียูก็ได้รับการปรับแต่งใหม่ ให้มีกำลังสูงกว่า 1,100 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. (0-60 ไมล์/ชม.) ภายใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 360 กม./ชม.

เครื่องปรับอากาศและจอของระบบอินโฟเทนเมนต์ในห้องโดยสาร ถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการแข่ง ช่วงล่างปรับแต่งใหม่ ชุดเบรกผลิตจากวัสดุคาร์บอน เจาะจงใช้ล้อแม็กขอบ 18 นิ้ว ซึ่งเล็กกว่าเวอร์ชั่นปกติ เพื่อให้สามารถสวมยางสลิกของ มิชลิน แบบเดียวกับรถแข่ง LMP1 ส่งผลให้สามารถสร้างแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ขณะเข้าโค้งได้สูงถึง 3.3 จี และ 3.5 จี เมื่อเหยียบเบรกเต็มแรง

พรเศก ภาคสุวรรณ, ผู้จัดการทั่วไป แอสตัน มาร์ติน แบงคอก, เผยว่า “มอเตอร์โชว์ปีนี้ แอสตัน มาร์ติน จัดเต็มความอลังการ กับ ‘วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร’ เวอร์ชั่นตัวแข่งของไฮเปอร์คาร์รุ่นล่าสุด นอกจากนั้นก็ยังมี ‘ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา’ แฟล็กชิปโมเดลที่แรงสุดในสายการผลิต มาจัดแสดงให้ชมอย่างใกล้ชิด”

แพทริค นีลสัน, ประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก แอสตัน มาร์ติน ลากอนดา กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดี ที่ไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศที่ใช้ในการเผยโฉม วาลคีรี่ เอ็มเอ็มอาร์ โปร เป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิค ซึ่งไฮเปอร์คาร์คันนี้ เปี่ยมด้วยพลังมหาศาล และเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่าง เรดบูล เรซิ่ง และ แอสตัน มาร์ติน”วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร ผลิตจำกัดเพียง 25 คัน และจำหน่ายหมดแล้ว คาดว่าจะเริ่มส่งมอบช่วงปี 2021

นอกเหนือจาก แอสตัน มาร์ติน ดีบี11 วี12

ยนตรกรรมสปอร์ต 4 ประตูพลังแรง ‘Rapide S’

แวนควิช (Vanquish) ราชันย์แห่งรถแกรนด์ทัวเรอร์

ก็มีอีกหนึ่งไฮไลท์ คือ ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในฐานะผู้สืบทอดต่อจากรุ่น แวนควิช เอส และเป็นรถรุ่นที่ 3 ภายใต้แผนงานศตวรรษที่ 2 ของบริษัทฯ 

หรูหรา สง่างาม ผสานความดุดัน

แอสตัน มาร์ดิน ‘ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา’ นับเป็นยนตรกรรมรุ่นสูงสุด หรือแฟล็กชิป โมเดล ในสายการผลิต หลอมรวมความสง่างามของเส้นสายอันพลิ้วไหว เข้ากับพละกำลังดุดันแบบสุดขั้ว โดยคำว่า ‘ซูเปอร์เลจเจรา’ (Superleggera) เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า เบาพิเศษ (Superlight) ถูกนำมาต่อท้ายชื่อรุ่น แสดงถึงเทคนิคการผลิตตัวถังน้ำหนักเบาอันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘Touring’ ผู้ผลิตรถยนต์อิตาเลียนระดับตำนาน

โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมผสานการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ มีความกว้างและบึกบึนกว่า แอสตัน มาร์ติน ทุกรุ่น แต่ก็ยังเบากว่ารุ่น ดีบี11 ถึง 30 กก. (สูงสุด 70 กก. เมื่อติดตั้งออปชั่นหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์และอื่นๆ ครบชุด) เด่นด้วยกระจังหน้า 6 เหลี่ยมเป็นเอกลักษณ์ ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์พร้อมช่องระบายอากาศ ช่วยลดน้ำหนัก และระบายความร้อนจากห้องเครื่องยนต์ ตัวถังด้านข้างเจาะช่องระบายอากาศซุ้มล้อหน้า ช่วยจำกัดแรงยกที่เกิดขึ้นด้านหน้า พร้อมจัดเรียงอากาศให้ไหลผ่านตัวถัง สู่สปอยเลอร์หลังคาร์บอนไฟเบอร์ Aeroblade IITM ทำงานร่วมกับดิฟฟิวเซอร์ 2 ชั้น สร้างแรงกดมหาศาลช่วงความเร็วสูง

จัดจ้าน..เร้าใจที่สุดในประวัติศาสตร์

ทะยานแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี12 สูบ 5.2 ลิตร ทวินเทอร์โบ 715 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แอสตัน มาร์ติน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมแพดเดิลชิฟท์ ของ ZF ติดตั้งอยู่ระหว่างล้อคู่หลัง ช่วยเพิ่มความสมดุล อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม.

แพทริค นีลสัน กล่าวต่อไปว่า “ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา นับเป็นแฟล็กชิปโมเดลของเรา ซึ่งหลักการที่ใช้ออกแบบรถนั้นก็สอดคล้องกับวิถีของ แอสตัน มาร์ติน คือ การทำทุกสิ่งด้วยความหลงใหลในความงาม เพื่อให้เป็นยนตรกรรมที่สวยและแรงที่สุด”

“นับเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ได้เห็นรถรุ่นนี้เปิดตัวในประเทศไทยได้อย่างเป็นทางการ เพราะในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดขายสูงเป็นอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดิฉันก็เชื่อมั่นว่า การมาของ ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา จะส่งผลดีต่อยอดขายในปีนี้เช่นกัน” แนนซี่ เฉิน ผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอสตัน มาร์ติน เอเชียแปซิฟิค กล่าวเสริม

อัตลักษณ์แห่งความประณีต พร้อมอิสระไร้ขอบเขต

ห้องโดยสารผ่านการออกแบบจากดีไซเนอร์ผู้เชี่ยวชาญของ แอสตัน มาร์ติน สะท้อนภาพลักษณ์อันหรูหรา ผสานรายละเอียดสุดประณีตเข้ากับเทคโนโลยีอันทันสมัย ติดตั้งพวงมาลัยหุ้มอัลคันทารา พร้อมแพดเดิลชิฟท์ก้านยาว ผู้ขับจึงไม่พลาดในทุกจังหวะ การเปลี่ยนเกียร์ ระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบนำทางด้วยดาวเทียม แสดงข้อมูลผ่านจอ

ทีเอฟที กว้าง 8 นิ้ว ผู้สามารถสั่งการผ่านทัชแพด, สั่งด้วยเสียง หรือการเคลื่อนไหว ขณะที่เบาะหนังแท้เกรดดีที่สุด ก็รู้สึกนุ่มสบาย พร้อมเครื่องเสียง Premium Audio ช่วยสร้างความรื่นรมย์ตลอดการเดินทาง และหากลูกค้าต้องการ ก็สามารถกำหนดรายละเอียดต่างๆ ในห้องโดยสารได้อย่างอิสระ เกาะหนึบทุกสภาพถนนกับช่วงล่างอิสระ หน้า ดับเบิลวิชโบน หลัง มัลติลิงค์ พร้อมโช้กอัพปรับความหนืดอัตโนมัติ ADS (Adaptive Damping System) จานเบรกคาร์บอนเซรามิก หน้า 410 หลัง  360 มม. จับคู่กับล้อแม็กฟอร์จ ขอบ 21 นิ้ว และยางพิเรลลี่ P Zero หน้า 265/35/21 หลัง 305/30/21 ที่พัฒนาเพื่อรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ

แอสตัน มาร์ติน จัดเต็มในมอเตอร์โชว์ จัดแสดง ‘วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร’ พร้อม ‘ดีบีเอส ซูเปอร์เลจเจรา’ แฟล็กชิปโมเดลที่แรงสุดในประวัติศาสตร์ พร้อมให้ชาวไทยได้สัมผัสที่บูท แอสตัน มาร์ติน ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน (‘วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร’ จัดแสดงถึง 31 มีนาคม) ณ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019 ณ แชลเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี