“ตะวันฉาย” ปิดจ็อบ 49 วิ. ศึก “ONE FIGHT NIGHT 7”
“เสมาเพชร” เฮเปิดซิงคิกบ็อกซิง, “อันดราเด” เถลิงแชมป์โลก ศึก ONE FIGHT NIGHT 7
วัน แชมเปียนชิพ องค์กรกีฬาระดับโลก ระเบิดความมันครั้งล่าสุดในศึก “ONE FIGHT NIGHT 7″ จัดในประเทศไทยแบบเปิดให้ชมติดขอบสังเวียน ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ถ่ายทอดสดช่วงไพรม์ไทม์อเมริกาและออกสู่สายตาแฟนกีฬาอีกกว่า 170 ประเทศทั่วโลก
รายการนี้มีคู่เอกคือการชิงแชมป์โลก ONE รุ่นแบนตัมเวต ที่ว่างอยู่ ระหว่าง “จอห์น ลินีเคอร์” พบ “ฟาบริซิโอ อันดราเด” และโปรแกรมสุดเร้าใจให้รับชมรวม 10 คู่ โดยมีนักกีฬาไทยขึ้นสังเวียนทั้งหมด 2 คน ได้แก่ “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ “ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ ซึ่งต่างกอดคอคว้าชัยชนะได้สวยงามทั้งคู่
เริ่มที่ “ตะวันฉาย” มีคิวป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นครั้งแรก ด้วยการพบกับผู้ท้าชิงจอมเก๋าชาวตุรกี “จามาล ยูซูพอฟ” ในฐานะคู่รองของรายการ
ไฟต์นี้จบลงอย่างไม่มีใครคาดคิด เมื่อระฆังยกแรกดังมาได้เพียงแค่ 49 วินาที กลายเป็น ตะวันฉาย ที่ปิดเกมไปได้อย่างรวดเร็ว ด้วยลูกเตะซ้ายเข้าไปที่ต้นขาขวาของ ยูซูพอฟ เต็มๆ แม้ผู้ท้าชิงจะพยายามฝืนตัวไม่ยอมล้ม แต่ก็ยืนเป๋สู้ต่อไม่ไหว กรรมการเข้ามานับสิบยุติการแข่งขันไป
จากฟอร์มสุดปังในไฟต์นี้ ทำให้ ตะวันฉาย ป้องกันแชมป์ครั้งแรกไว้ได้อย่างสวยงาม พร้อมรับโบนัสจาก “บิ๊กบอส” ชาตรี ศิษย์ยอดธง กลับไปนอนกอดอีก 50,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท
ด้าน “เสมาเพชร” ขึ้นสังเวียนเปิดซิงในกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกของตนเอง พบคู่ต่อกรในรุ่นแบนตัมเวต “จาง เฉิงหลง” จอมดีเดือดชาวจีน
ผลการชกปรากฏว่า เสมาเพชร เป็นฝ่ายเดินรุกเข้าหา ก่อนออกอาวุธได้เข้าเป้าจะแจ้งกว่ากำปั้นแดนมังกรชัดเจนตลอดทั้งสามยก สุดท้ายจึงเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปอย่างเอกฉันท์ เฮประเดิมกติกาคิกบ็อกซิ่งของตัวเองอย่างสวยงาม ท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนมวยชาวไทยกึกก้องเวทีลุมพินี
คู่เอกของรายการ เป็นการชิงแชมป์โลก ONE รุ่นแบนตัมเวต ที่ว่างอยู่ ระหว่างเจ้าของเข็มขัดคนเก่า “จอห์น ลินีเคอร์” ทำศึกสายเลือดบราซิลกับรุ่นน้องตัวตึง “ฟาบริซิโอ อันดราเด” ที่ครั้งก่อนเมื่อเดือนตุลาคม 2565 เจอกันแล้วจบลงแบบไม่มีผลการแข่งขัน
เปิดฉากมายกแรก ลินีเคอร์ สืบเท้าชวนทะเลาะทันที อาศัยลูกหมัดที่หนักหน่วงและพยายามชวนเล่นเกมนอน แต่ อันดราเด ป้องกันตัวได้ดี แถมยังมีนาทีทองช่วงท้ายยกที่ต่อยเป็นชุดจนเกือบปิดบัญชีได้ด้วย
ยกสอง รูปเกมยังดุเดือด ลินีเคอร์ เดินบดหนักจน อันดราเด ต้องถอยรักษาระยะห่างเพื่อดักต่อยจังหวะสองเป็นหลัก เข้ายกสาม อันดราเด อาศัยรูปร่างและช่วงชกที่ได้เปรียบ บุกโจมตีจากวงนอกได้เข้าเป้า ส่วน ลินีเคอร์ เองก็เหวี่ยงหมัดซ้าย-ขวาได้น่ากลัว
ยกสี่ ลินีเคอร์ พยายามเร่งเครื่องแต่ อันดราเด ป้องกันตัวได้ตามแท็กติกที่วางไว้ ก่อนมาเอาคืนได้ช่วงปลายยกจน ลินีเคอร์ ออกอาการหมดแรงชัดเจน สุดท้ายหมดยกต่างแยกย้ายเข้ามุม และเป็นฝ่าย ลินีเคอร์ ที่ยกธงขาวไม่ออกมาสู้ต่อเนื่องจากอาการบอบช้ำบริเวณดวงตาและใบหน้า ส่งผลให้ อันดราเด กลายเป็นแชมป์โลก รุ่นแบนตัมเวต คนใหม่ไปในที่สุด
ในส่วนของนักกีฬาที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นเข้าตา ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอ วัน แชมเปียนชิพ จนต้องคว้าเงินรางวัลพิเศษให้คนละ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.8 ล้านบาท ไปครองในรายการนี้ ได้แก่ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และ ทอมมี ลังกาเคอร์
ผลการแข่งขันทุกคู่ในศึก ONE FIGHT NIGHT 7: จอห์น vs ฟาบริซิโอ II
– คู่เอก ฟาบริซิโอ อันดราเด ชนะทีเคโอ จอห์น ลินีเคอร์ นาที 5:00 ของยกสี่ (ชิงแชมป์โลก MMA รุ่นแบนตัมเวต)
– คู่รอง ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ชนะน็อก จามาล ยูซูพอฟ นาที 0:49 ของยกแรก (ชิงแชมป์โลก มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต)
– มาร์ติน เหงียน ชนะคะแนนเอกฉันท์ ลีโอนาร์โด คาซอตติ (MMA รุ่นเฟเธอร์เวต)
– เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ ชนะคะแนนเอกฉันท์ จาง เฉิงหลง (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต)
– แดนนี คิงกาด ชนะคะแนนเอกฉันท์ เอโก โรนี ซาปูตรา (MMA รุ่นฟลายเวต)
– แดเนียล เคลลี ชนะคะแนนเอกฉันท์ อายากะ มิอูระ (ปล้ำจับล็อก แคตช์เวต 119 ป.)
– ฟรานเชสโก จายา ชนะคะแนนไม่เอกฉันท์ อันเดร สตอยกา (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เฮฟวีเวต)
– วิกตอเรีย ซูซา ชนะคะแนนเอกฉันท์ ลินดา ดาร์โรว์ (MMA รุ่นอะตอมเวต)
– ทอมมี ลังกาเคอร์ ชนะซับมิชชัน (heel hook) ยัวลิ เคอรซ์เฮฟ นาที 2:58 ของยกแรก (ปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต)
– อาเดรียน มาเทอิส ชนะทีเคโอ เจ๋อ หลั่ง จา ซี นาที 0:57 ของยกสอง (MMA รุ่นสตรอว์เวต)