ท้าพิสูจน์ความทรหด ‘ฟอร์ด เรนเจอร์’ ตะลุยเส้นทางสายบุญขึ้นเขาคิชฌกูฏ
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญสำหรับนักเดินทางสายบุญ จังหวัดจันทบุรี
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำคัญสำหรับนักเดินทางสายบุญ เพราะเป็นที่ประดิษฐานของ ‘รอยพระพุทธบาทพลวง’ หรือ ‘รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ’ บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตร ถือได้ว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธานับล้านคนได้เดินทางมาสักการะเพียงปีละ 2 สองเดือนเท่านั้น โดยในปี 2563 ประเพณี ‘นมัสการรอยพระพุทธบาทบนเขาคิชฌกูฏ’ ซึ่งเป็นช่วงที่เขาคิชฌกูฏเปิดให้ผู้แสวงบุญจากทั่วสารทิศขึ้นเขาไปนมัสการรอยพระพุทธบาท จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 มกราคม ถึง 24 มีนาคม
พุทธศาสนิกชนเชื่อว่าการได้นมัสการรอยพระพุทธบาท เปรียบได้กับการเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ และจะได้รับกุศลอันยิ่งใหญ่ ผู้คนจำนวนมหาศาลจึงรอคอยโอกาสสักครั้งในชีวิตที่จะได้เดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏ แม้การเดินทางจะยากลำบากเพราะต้องนั่งรถโดยสารขึ้นไปบนยอดเขาและเดินเท้าเบียดเสียดผู้คนมากมายขึ้นเขาไปอีกราว 1.2 กิโลเมตร
การเดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฏขึ้นชื่อว่าเป็นเส้นทางทรหด แม้จะมีการปรับปรุงเส้นทางให้นำรถขึ้นเขาได้แล้ว แต่สภาพถนนที่ตัดผ่านภูเขายังเป็นทางลูกรังที่ขรุขระ สูงชัน และคดเคี้ยวมาก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร การขับรถขึ้นลงเขาในช่วงประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทจึงมีความท้าทาย เพราะมีรถจำนวนมากวิ่งสวนกันตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ขับขี่ต้องมีทักษะและความชำนาญในการขับรถบนเส้นทางลาดชันและคดเคี้ยว เพื่อพาผู้มีจิตศรัทธาเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาด้วยความปลอดภัย
ด้วยเหตุนี้ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จึงมีบริการรถรับส่งที่ขับโดยคนในพื้นที่ที่ชำนาญเส้นทาง บรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 12 ถึง 15 คนต่อรถหนึ่งคัน ผลัดเปลี่ยนกันให้บริการขึ้น-ลงเขาต่อเนื่อง ทำงานคนละไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงงานประเพณี
นอกจากผู้ขับขี่ที่มีทักษะดีแล้ว ยานพาหนะที่ใช้ยังจำเป็นต้องมีพละกำลังดีเยี่ยม ฟอร์ดจึงได้เชื้อเชิญผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์การขับรถรับส่งผู้โดยสารบนเขาคิชฌกูฏมายาวนาน ให้ร่วมพิสูจน์สมรรถนะของรถกระบะพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ โดยเลือกใช้รุ่นสแตนดาร์ดแค็บ XL 4×4 เพื่อทดสอบความสามารถในการขับบนเขาสูงชันกว่า 45 องศา และความสามารถในการบรรทุก โดยได้จำลองการบรรทุกน้ำหนัก 1.1 ตัน หรือเทียบเท่ากับน้ำหนักของผู้โดยสาร 12-15 คน
“ครั้งแรกที่เห็นรถฟอร์ด เรนเจอร์ ตอนเดียวคันนี้ รู้สึกว่าสวย ถูกใจ อยากลองขับดู พอได้ลองขับแล้วรู้สึกว่า เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร มีกำลังดีเกินความคาดหมาย ช่วงล่างดี เมื่อขนของหนักเข้าโค้งก็นิ่ง ไม่เหวี่ยง ที่สำคัญพวงมาลัยเบามาก ไม่เหนื่อยเวลาขับ ถ้าขับสิบสองชั่วโมงต่อกันก็เอาอยู่ ถือว่าแกร่งสมชื่อ สมคำร่ำลือครับ” นายศุภกร เป็นสุข ผู้มีประสบการณ์ขับรถขึ้นเขาคิชฌกูฏ กว่า 8 ปี กล่าว
ในการทดสอบ ฟอร์ด เรนเจอร์ สามารถรักษาความเร็วในการขับขึ้นเขาได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร อันทรงพลัง ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร ช่วยให้ขึ้นเขาสูงชันได้อย่างง่ายดาย แม้จะบรรทุกน้ำหนักเต็มพิกัด พวงมาลัยพาวเวอร์แบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า เบาและแม่นยำ ทำให้ผู้ขับไม่เหนื่อยล้าแม้ต้องขับรถติดต่อกันยาวนานหลายชั่วโมง ช่วงล่างแบบลิมิเต็ดสลิปพร้อมแผ่นกันกระแทกยังสามารถรับมือกับทางขรุขระได้ดี ช่วยให้ทรงตัวดีเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วและเกาะถนนดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกปลอดภัยในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางลูกรังเป็นหลุมเป็นบ่อ โค้งหักศอก หรือช่วงที่ถนนลื่น
ฟอร์ด เรนเจอร์ สแตนดาร์ดแค็บ XL 4×4 ยังพร้อมรองรับทุกงานหนักด้วยโครงสร้างอันแข็งแกร่งทำให้รับน้ำหนักได้ถึง 1.1 ตัน และบรรทุกได้เต็มที่ด้วยกระบะลึก 511 มม. ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีระบบความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS และระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก EBD หรือเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด รวมทั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าและระบบเชื่อมต่อบลูทูธ
ด้วยสมรรถนะสุดแกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ สแตนดาร์ดแค็บ XL 4×4 จึงพร้อมพาผู้ขับขี่พิชิตทุกเส้นทางที่ท้าทายและสมบุกสมบัน ขณะที่ระบบความปลอดภัยต่างๆ พร้อมมอบความอุ่นใจให้ผู้ใช้งาน นับเป็นบทพิสูจน์ว่า ไม่ว่าเส้นทางจะทรหดแค่ไหน ฟอร์ด เรนเจอร์ ก็พร้อมลุยไปทุกที่ ด้วยสมรรถนะและความปลอดภัยที่เหนือชั้น