Rolls-Royce Motor Cars เปิดเผยถึงยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก

คำพยากรณ์ที่เป็นจริง การยึดมั่นในคำสัญญา ภารกิจอันน่าทึ่งกำลังจะเกิดขึ้น 

การประกาศครั้งประวัติศาสตร์ในวันนี้ของ Rolls-Royce Motor Cars ที่เปิดเผยถึงการทดสอบยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่จะออกสู่ตลาดในไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2566  ชื่อของยนตรกรรมใหม่นี้คือ ‘Spectre’ ที่ทำให้การคาดการณ์ในปีพ.ศ. 2443 ของ Charles Rolls  ผู้ก่อตั้งแบรนด์เกิดขึ้นจริง และรักษาคำมั่นสัญญาที่ CEO เคยให้ไว้ว่าจะนำยานยนต์พลังงานไฟฟ้าออกสู่ตลาดภายในทศวรรษนี้

“วันนี้บับว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce Motor Cars นับตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ซึ่งเป็นวันที่ Charles Rolls และ Sir Henry Royce ผู้ก่อตั้งทั้งสองท่านของเราได้พบกับครั้งแรกและตกลงที่จะร่วมกับรังสรรค์ ‘ยนตรกรรมที่ดีที่สุดไนโลก’ ด้วยการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยที่สุดที่มีอยู่ในขณะนั้นประยุกต์ใช้กับความคิดทางวิศวกรรมอันน่าทึ่งของพวกเขา สองผู้บุกเบิกได้ยกระดับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในของยุคแรกจากเสียงดัง นั่งไม่สบาย และเป็นเพียงยานพาหนะพื้นฐาน ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่กี่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ยนตรกรรมที่พวกเขารังสรรค์ขึ้นได้แนะนำให้โลกรู้จักประสบการณ์แห่งความหรูหราที่แท้จริง และทำให้ Roll-Royce ยังคงครองตำเหน่งสุดยอดแห่งความหรูหราที่ไม่มีใครเทียบได้จวบจนปัจจุบัน อีกทั้ง แบรนด์ยังคงเป็นผู้กำหนดนิยามของสุดยอดรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปกายในเป็นเวลามากว่าหนึ่งศตวรรษ

วันนี้ 117 ปีต่อมา ผมภูมิใจที่จะประกาศว่า Rolls-Royce ได้เริ่มโครงการทดสอบรถยนต์บนท้องถนนสำหรับยนตรกรรมใหม่ที่น่าทึ่ง ที่จะยกระดับการปฏิวัติรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบทั่งโลก และสร้างสรรค์สุดยอดยนตรกรรมซูเปอร์ลักชัวรีคันแรกที่ใช้พลังงานไฟฟ้า นี่ไม่ใช่รถยนต์ต้นแบบแต่เป็นยนตรกรรมจริงซึ่งจะถูกทดสอบในที่สาธารณะ และลูกค้าของเราจะได้รับการส่งมอบรถยนต์ครั้งแรกในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2566″

คำพยากรณ์ที่เป็นจริง

“การใช้มอเตอร์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับโรลส์-รอยซ์ Sir Henry Royce หลงใหลในทุกสิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและธุรกิจแห่งแรกของเขากายใต้ชื่อ F. H. Royce and Company ได้สร้างสรรค์ไดนาโม มอเตอร์เครนไฟฟ้า และอุปกรณ์ติดตั้งหลอดไฟแบบเขี้ยวที่ได้จดสิทธิบัตร แต่อย่างไรก็ตามกลับเป็น Charles Rolls ผู้ที่คาดการณ์อนาคตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่แท้จริง ในเดือนเมษายนปีพ ศ 2443 เขาได้สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ชื่อว่า Columbia และได้กล่าวไว้ว่าระบบขับเคลื่อนไฟฟ้านั้นดีที่สุด

Rolls กล่าวว่า ‘รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้นปราศจากเสียงรบกวนและไม่ก่อมลพิษใด ๆ ไม่มีกลิ่นควันหรือการสั่นสะเทือน และน่าจะมีประโยชน์มากเมื่อสามารถติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้ แต่สำหรับตอนนี้ผมไม่คาดหวังว่าจะมีบริการด้านนี้ อย่างน้อยก็ในอีกหลายปีข้างหน้า’

การคาดการณ์ของ Charles Rolls เป็นเรื่องที่ถูกทบทวนมาโดยตลอดระยะเวลาของแบรนด์ในยุคที่กู้ดวูด แต่เรายังไม่พอใจในเทคโนโลยีที่มีอยู่ว่าจะสามารถมอบประสบการณ์ทางยนตรกรรมในแบบฉบับของโรสส์-รอยซ์ได้ จนกระทั่งปัจจุบัน

บัดนี้เป็นเวลาที่จะเปลี่ยนวิถีแห่งอนาคตของความหรูหรา 

เราเริ่มต้นบนเส้นทางสู่อนาคตใหม่อย่างกล้าหาญนี้พร้อมข้อได้เปรียบมหาศาล ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์และเหมาะสมอย่างยิ่งกับ Rolls-Royce Motor Cars มากกว่าแบรนด์รถยนต์อื่น การขับเคลื่อนที่เงียบสงบ สง่างาม และส่งแรงบิดสูงสุดเกือบภายในทันที่ทำให้เกิดขุมพลังมหาศาล นี่คือสิ่งที่พวกเราที่
โรลส์-รอยซ์เรียกว่า ‘waftability’

ที่โรสส์-รอยซ์เราได้ทดลองระบบส่งกำลังไฟฟ้ามาได้สักระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในปี พ.ศ. 2554 เราได้เผยโฉม 102EX ยนตรกรรม Phantom ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน 100% ต่อมาในปี พ.ศ. 2559 เราได้พัฒนายนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่น 103EX ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของเราที่มีต่ออนาคตของแบรนด์ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า”

การยึดมั่นในคำสัญญา

“ยนตรกรรมอันน่าทึ่งนี้ถึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้าได้อย่างมากในทันที ในเรื่องของเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า พวกเขาคิดว่ามันเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับยนตรกรรม Rolls-Royce และในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผมถูกถามซ้ำ ๆ ว่า ‘เมื่อใหร่ที่ Rolls-Royce จะผลิตยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า’ และ ‘คุณจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกของคุณเมื่อใหร่ ผมตอบคำถมอย่างชัดเจนด้วยคำมั่นสัญญาว่า ‘Rolls-Royce จะเริ่มก้าวเข้าสู่วงการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ภายในทศวรรษนี้ วันนี้ ผมทำตามคำมั่นสัญญา”

ความมุ่งมั่นอย่างเหลือเชื่อ

“การคาดการณ์ของ Charles Rolls และคำสัญญาของผมได้บำนำเรามาสู่ช่วงเวลาสำคัญของแบรนด์ โดย Rolls-Royce ได้เริ่มดำเนินการในภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ และที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนซึ่งวันนี้ได้กลายเป็นรูปธรรม ทีมนักออกแบบและวิศวกรของเราทำงานอย่างไม่ลดละเพื่อพาเรามาถึงจุดนี้ บัดนี้ เราพร้อมที่จะเริ่มการทดสอบยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกในประวัติศาสตร์บนท้องถนน

การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนของเราทำให้เราต้องท้าทายในทุกรายละเอียดของยนตรกรรม ก่อนที่เราจะนำเสนอให้แก่ลูกค้า โรลส์·-รอยซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มคนผู้มีความพิถีพิถัน และมีความคาดหวังสูงมากที่สุดบนโลกใบนี้

ในการทำเช่นนี้ เราได้กำหนดโปรแกรมการทดสอบรถยนต์ที่มีความท้าทายที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ โรลส์-รอยซ์ เราจะทำการทดสอบในระยะทางทั้งหมด 2.5 ล้านกิโลเมตร่ ซึ่งเป็นการจำลองการใช้งานยนตรกรรม โรลส์ -รอยซ์ โดยเฉลี่ยมากกว่า 400 ปี และเราจะเดินทางไปทั่วทั้งสี่มุมโลกเพื่อทดสอบยนตรกรรมใหม่นี้ให้ก้าวข้ามขีดจำกัด

คุณจะได้เห็นการทดสอบยนตรกรรมเหล่านี้บนท้องถนนทั่วโลก คอยจับตาให้ดียนตรกรรมเหล่านี้กำลังจะปรากฎตัว และจะได้รับการทดสอบในทุกสภาวะและทุกพื้นผิวตลอดระยะทางการเดินทางหลายล้านกิโลเมตร ซึ่งจะเร่งผลักดันให้โรลส์-รอยซ์ก้าวสู่อนาคตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”

โครงสร้างสถาปัตยกรรมที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างแท้จริงของโรลส์-รอยซ์

“ในปี พ.ศ. 2560 เราได้เปิดตัวยนตรกรรม Phantom และด้วยโครงสร้างตัวถังอลูมิเนียมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแบรนด์ เป็นโครงสร้างสเปชเฟรมที่สามารถปรับขนาด และมีความยืดหยุ่นได้ดีและจะเป็นโครงสร้างของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ ใบรุ่นต่อไป เทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์นี้พัฒนขึ้นโดย โรลส์-รอยซ์ เพื่อ โรลส์-รอยซ์ และสงวนไว้โดยเฉพาะเพื่อการใช้งานของแบรนด์เท่านั้น โดยถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นโครงสร้างตัวถังพื้นฐานที่ไม่เพียงสำหรับรองรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่แตกต่างกันในยนตรกรรมแต่ละรุ่นอย่างเช่นของ Cullinan และ Ghost แต่ยังสามารถรองรับระบบขับเคลื่อนที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงของยนตรกรรมรุ่นอื่นอีกด้วย

“ด้วยเหตุนี้ ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่กำลังเกิดขึ้นของเราจะได้รับประโยชน์มากมายจากโครงสร้างสถาปัตยกรรมของโรลส์-รอยซ์ ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่น่าทึ่งของยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ บนท้องถนน และเมื่อปราศจากกลยุทธิ์การใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกัน เราสามารถบูรณาการระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้ากับการออกแบบโครงสร้างตัวถังได้ตั้งแต่ต้น และทำให้มั่นใจได้ว่ายนตรกรรมใหม่ที่ไม่ธรรมดานี่เป็นไปตามความคาดหวังที่สูงมากของลูกค้าของเรา”

นามใหม่: เกียรติประวัติใหม่

“เมื่อเราเริ่มต้นการกิจที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ นี้เป็นการทำให้การคาดการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง และสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาคำมั่นสัญญา มันเป็นจุดเริ่มต้นของเกียรติประวัติใหม่สำหรับแบรนด์ของเรา ในจิตวิญญาณนั้นเราได้ตัดสินใจที่จะตั้งชื่อใหม่ให้แก่ยนตรกรรมนี้ ชื่อที่มีความทรงพลังและเป็นที่น่าจดจำเทียบเท่ากับชื่อยนตรกรรมรุ่นอื่นเฉกเช่น Phantom, Ghost และ Wraith ที่อยู่เคียงคู่เรามาตลอดหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ชื่อที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับโลกแห่งสภาวะที่ไร้ตัวตน และโลกอีกใบที่มีอยู่กายในยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ ของเรา ชื่อที่เราสงวนไว้เฉพาะสำหรับปรากฎการณ์ครั้งนี้ นั่นคือ  “Spectre”

Spectre คือชื่อที่มอบให้แก่การมีอยู่ของโลกอีกใบที่มีความหมายเช่นเดียวกับการมีพลังอันยิ่งใหญ่ และสิ่งเร้นลับ เป็นสิ่งเร้นลับแห่งดินแดนอีกที่หนึ่งที่ปรากฎกายเพียงชั่วครู่ วิญญาณที่ทำให้โลกหยุดหมุนชั่วขณะ ครอบงำพื้นที่ที่ครอบครอง และจากทันทีที่ปรากฏตัวขึ้นก็จะหายวับไปเหลือไว้ซึ่งความตื่นเต้น ความมีชีวิตชีวา และความลึกลับ

ชื่อนี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับยนตรกรรมสุดพิเศษของ โรลส์-รอยซ์ ที่เรากำลังจะกล่าวถึงในวันนี้ ยนตรกรรมที่ทำให้รู้สึกได้ถึงการมีตัวตนก่อนที่จะหายวับไปบนโลกที่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าถึง ยกเว้นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ในฐานะที่เป็นแบรนด์อังกฤษอย่างแท้จริง เราเลือกที่จะสะกดชื่อนี้ในกาษาอังกฤษแบบอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตามความหมายนั้นเป็นสากล

อนาคตอันน่าทึ่ง

“ด้วยยนตรกรรมใหม่นี้เรากำหนดมาตรฐานยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบสำหรับยนตรกรรมทุกรุ่นของเราภายในปี พ.ศ. 2573 และเมื่อถึงเวลานั้น โรลส์-รอยซ์ จะอำลาวงการธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาปกายใน

Spectre คือความสมหวังที่มีอยู่จริงของการเกิดขึ้นที่เป็นไปตามการคาดการณ์ของ Charles Roll ผมทำตามคำสัญญาที่ได้ให้ไว้ในนามของ Rolls-Royce Motor Cars บัดนี่เราได้เริ่มต้นภารกิจอันน่าทึ่ง ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่เรายังคงขับเคลื่อนกลุ่มหญิงชายหัวก้าวหน้า และทรงอิทธิพสมากที่สุดในโลกสู่อนาคตที่สดใสและทรงพลัง