ฟอร์ดเผย เทรนด์ผู้บริโภคในปี 2021

2021 Ford Trends: Good Buy — mid the pandemic, how we buy – and what we seek to buy – has transformed. Companies big and small are adapting at blazing speed – and many consumers are embracing and enjoying the new normal. 75 percent of adults globally say they appreciate the ways in which companies have improved the shopping experience since the pandemic began – and 41 percent say they don’t want to go back to the way they shopped before the pandemic.

พบคนทั่วโลกปรับตัวและยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับยุคโควิด-19 ได้ดี

2021 Ford Trends: Pressure Points — Worldwide, anxiety is high — fueled by fears of contracting COVID-19 and concerns about the pandemic’s impact on communities, employment, education and more. 63 percent of adults globally say they feel more stressed than they did a year ago, and 4 in 5 say they should take better care of their emotional well-being. Acutely aware of the implications of the pandemic on mental health, people are finding innovative ways to cope and connect.

ปฏิเสธไม่ได้ว่าปี 2020 เป็นปีแห่งความท้าทายที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในทุกๆ ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และผลกระทบต่ออารมณ์ความรู้สึก การแพร่ระบาดของโรคอันตรายครั้งนี้เป็นบททดสอบสำหรับทุกคน ทั้งในแง่ปัจเจกบุคคล ครอบครัว ภาคสาธารณสุข และสังคมโดยรวม แต่รายงานแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคประจำปี 2563 หรือ Looking Further with Ford Trends ประจำปีที่ 9 ก็พบว่า ผู้คนทั่วโลกมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัว และเรียนรู้ที่จะรับมือกับความท้าทายได้ดีเช่นกัน

2021 Ford Trends: Sustaining Sustainability — In the early days of the pandemic, air quality emerged as a possible silver lining to the worldwide lockdown, but that optimism quickly diminished as the world retreated to plastics and other disposables – making it clear that being sustainable and staying sustainable are not always in lockstep. Younger generations are particularly concerned: 46 percent of Gen-Z-ers globally say the pandemic has made us more wasteful – and 47 percent say that long-term, the pandemic will have a negative impact on the environment.

“เรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2021 และเราต่างก็หวังว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะกลายเป็นเพียงเหตุการณ์ในอดีต แน่นอนว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากการแพร่ระบาดโรคที่เกิดขึ้น ฟอร์ดและบริษัทชั้นนำหลายแห่งต่างอยากรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะส่งผลระยะยาวอย่างไรบ้างต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค แม้เราไม่อาจคาดเดาอนาคตได้ แต่ก็ใช่ว่าเราจะเตรียมความพร้อมไม่ได้” เชอริล คอนเนลลี ผู้จัดการด้านการวิจัยแนวทางผู้บริโภคและนักอนาคตศาสตร์ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าว

2021 Ford Trends: The Company You Keep — The pandemic has put a spotlight on consumer’s need for companionship and reshaped their sense of family. Loneliness is pervasive across the globe—one in two people say they feel lonely on a regular basis. Younger generations feel this most acutely: Gen Zers are nearly 2x as likely to say they feel lonely on a regular basis as Boomers (64 percent vs 34 percent). As a result, many are reconsidering where they live, moving closer to family, and finding companionship in new ways – online and off.

จากผลสำรวจใน 14 ประเทศทั่วโลก พบว่า ร้อยละ 69 ของกลุ่มตัวอย่างรู้สึกหนักใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อถูกถามว่า พวกเขาปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ดีมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 53 กล่าวว่า “ยากกว่าที่คิด” ขณะที่ร้อยละ 47 เห็นว่า “ง่ายกว่าที่คิด” โดยคนรุ่นใหม่รู้สึกถึงความท้าทายมากกว่า ซึ่งร้อยละ 63 ของกลุ่ม Gen Z รู้สึกว่าการปรับตัวยากกว่าที่คิด เมื่อเทียบกับคนยุคเบบี้บูมเมอร์มีความเห็นไปในทางเดียวกันเพียงร้อยละ 42

2021 Ford Trends: Time to Escape — “What day is it?” has become a common refrain as the demarcations between work and life disappear. To beat back the monotony of the pandemic and the confines of home, consumers are looking for new ways to escape – and many are seeking refuge in their vehicles. More than 1 in 4 adults globally who own a vehicle say they use their vehicle to relax. Close to 1 in 5 say they use their vehicle to find privacy. And 17% say they use it as a place to work.

รายงานเทรนด์ปี 2021 ของฟอร์ด วิเคราะห์รูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปของพฤติกรรมและความคิดของผู้บริโภครอบโลกเพื่อช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจเข้าใจได้ว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อโลกในปี 2021 และปีต่อๆ ไป อย่างไร โดยรายละเอียดอื่นๆ จากรายงานดังกล่าว มีดังต่อไปนี้

  • ความกดดันรอบด้าน: ผู้คนทั่วโลกต่างรู้สึกหวั่นใจ ทั้งความกลัวที่จะติดโรคโควิด-19 และความกังวลว่าโรคร้ายอาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชน การจ้างงาน การศึกษา และอื่นๆ โดยร้อยละ 63 ของผู้ใหญ่ทั่วโลกกล่าวว่า รู้สึกเครียดมากขึ้นกว่าปีก่อน และ 4 ใน 5 ของคนกลุ่มนี้เห็นว่า ควรดูแลสุขภาพจิตของตนให้มากขึ้น เมื่อมีความตื่นตัวว่าโรคระบาดนั้นอาจกระทบต่อจิตใจ ผู้คนจึงมองหาวิธีสร้างสรรค์ที่จะช่วยเยียวยาและเติมแรงใจให้ตนเองกันมากขึ้น
  • พื้นที่ส่วนตัว: “วันนี้วันอะไร” กลายเป็นคำถามติดปากไปแล้วเมื่อบรรยากาศการใช้ชีวิตในวันทำงาน และวันหยุดแทบไม่ต่างกัน ผู้บริโภคกำลังหาทางออกจากวงจรชีวิตเดิมๆ ของการเก็บตัวให้พ้นจากโรคติดต่อ และความจำเจของการอยู่บ้าน หลายคนเลือกที่จะเปลี่ยนบรรยากาศโดยใช้ยานพาหนะเป็นทางออก ผู้ใหญ่กว่า 1 ใน 4 ทั่วโลกที่เป็นเจ้าของรถกล่าวว่า รถคือพื้นที่ในการพักผ่อน และเกือบ 1 ใน 5 เลือกใช้รถยนต์เมื่อต้องการพื้นที่ส่วนตัว และร้อยละ 17 ใช้รถเป็นพื้นที่ในการทำงาน
  • เหงาเมื่อต้องห่างกัน: โรคโควิด-19 ทำให้เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคยังต้องการรวมกลุ่มกับผู้อื่น และคิดถึงความใกล้ชิดระหว่างกัน โควิด-19 ทำให้ความเหงาแทรกซึมอยู่ทุกมุมทั่วโลก โดยครึ่งหนึ่งของผู้คนทั่วโลกรู้สึกเหงาบ่อยๆ ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่เหงากว่าคนกลุ่มอื่น กล่าวคือ กลุ่ม Gen Z ที่รู้สึกเหงาทุกวัน มีจำนวนมากถึงร้อยละ 64 หรือคิดเป็น 2 เท่าของกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ ที่ร้อยละ 34 ตอบว่าตนเหงาอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นหลายคนเริ่มคิดถึงการย้ายที่อยู่ไปให้ใกล้กับครอบครัวมากขึ้น หรือการพยายามสานสัมพันธ์กับผู้คนอื่นผ่านช่องทางใหม่ๆ มากขึ้น ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์
  • ใส่ใจช่องว่างทางสังคม: ความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมกันยังคงแผ่ขยายวงกว้างทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลต่อกระทบมากที่สุดต่อชุมชนผู้มีรายได้น้อย ชนกลุ่มน้อย และกลุ่มผู้หญิง เมื่อผู้คนรับทราบถึงความไม่เท่าเทียมกันมากขึ้น แบรนด์ต่างๆ จึงเข้ามาทำหน้าที่เป็นทั้งนักเคลื่อนไหวและผู้ประกอบการ โดยผู้ใหญ่ทั่วโลกกว่าร้อยละ 76 คาดหวังให้แบรนด์มีจุดยืนต่อปัญหาทางสังคม และร้อยละ 75 มองว่าในปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ กำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง
  • ช็อปวิถีใหม่: วิธีการซื้อและสิ่งที่ซื้อได้เปลี่ยนไปในช่วงการแพร่ระบาดครั้งนี้ บริษัทเล็กใหญ่ต่างต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว และผู้บริโภคก็ต้องปรับตัวและโอบรับชีวิตวิถีใหม่ โดยผู้ใหญ่ทั่วโลกกว่าร้อยละ 75 ชื่นชอบการที่บริษัทต่างๆ ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนประสบการณ์การช็อปปิ้งตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโรค ในขณะที่ร้อยละ 41 ไม่ต้องการกลับไปช็อปปิ้งในแบบเดิมอีกแล้ว
  • จุดเปลี่ยนเรื่องการเดินทาง: การแพร่ระบาดของโรคอาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกติดอยู่กับที่ แต่ก็ไม่สามารถทำให้หลายคนหยุดนิ่งได้ ยานพาหนะส่วนบุคคลเพ่มขึ้นนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว จักรยานมียอดขายสูงขึ้น ขณะที่เมืองต่างๆ ก็เริ่มอุทิศพื้นที่บนถนนให้เป็นช่องเดินทางของจักรยานมากขึ้น ขณะที่ยอดขายรถยนต์ทะยานขึ้นเช่นกันจากการที่ผู้คนรู้สึกว่า พวกเขาปลอดภัยจากการควบคุมสภาพแวดล้อมภายในรถส่วนตัวได้ นอกจากนี้ เมืองต่างๆ ยังมีการวางแผนเมืองอัจฉริยะเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ยานยนต์ไร้คนขับ โดยร้อยละ 67 ของผู้ใหญ่ทั่วโลกเชื่อมั่นในอนาคตของยานยนต์ไร้คนขับ ในขณะที่ร้อยละ 68 ของพ่อแม่รู้สึกว่า ถ้าลูกของตนเองนั่งอยู่บนรถที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะปลอดภัยว่าการนั่งรถไปกับคนแปลกหน้า
  • ยึดมั่นในความยั่งยืน: การล็อกดาวน์ทั่วโลกในช่วงแรกของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้สภาพอากาศดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเราอาจเผลอคิดว่าไปโรคร้ายนี้อาจมีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอยู่บ้าง แต่เพียงไม่นานเราก็ได้เห็นผู้คนทั่วโลกหันมาใช้พลาสติกและวัสดุใช้แล้วทิ้งเป็นจำนวนมากในการป้องกันตนเองจากโรคร้าย ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนยังคงเป็นเรื่องท้าทาย คนรุ่นใหม่จึงมีความเรื่องนี้กันมาก โดยร้อยละ 46 ของประชากร Gen Z ให้ความเห็นว่าโรคระบาดทำให้เกิดขยะมากขึ้น ขณะที่ร้อยละ 47 กล่าวว่าโรคระบาดในครั้งนี้จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
2021 Ford Trends: Traffic Detour — The pandemic may have you feeling stuck, but we are not at a standstill – personal transportation is flourishing. Bike sales have soared and cities have shut down streets to make space for cyclists. Car sales have boomed as people seek security in knowing they can control their environment. And smart city planning is accelerating the way for fully implemented autonomous driving. 67 percent of adults globally say they are “hopeful about the future of autonomous vehicles,” and 68 percent of parents say they’d rather see their children ride in a self-driving car than with a stranger.

ศึกษาข้อมูลจากรายงาน Looking Further with Ford 2021Trends Report ฉบับเต็มได้ที่ www.fordtrends.com