บีวายดี เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย

เดินหน้าเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าอาเซียนเต็มรูปแบบ

โอกาสนี้ บีวายดีได้ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า BYD DOLPHIN ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานใหม่คันที่แปดล้าน และได้รับการผลิตที่โรงงานแห่งนี้ ให้กับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมและการคมนาคมที่ยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจากนายหวัง ชวนฟู่ ประธานกรรมการและประธานบริษัท บีวายดี กรุ๊ป เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงาน พร้อมมอบรถแก่ตัวแทนมูลนิธิ หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์

โรงงานผลิตรถยนต์บีวายดีแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 948,000 ตารางเมตร ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 16 เดือนนับจากพิธิเปิดหน้าดิน มาพร้อมแนวคิดการลดใช้พลังงานและคาร์บอนต่ำ ครบครันด้วยเครื่องจักรกลอัตโนมัติ กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบบริหารจัดการโลจิสติกส์ล้ำสมัย ครอบคลุม 4 ขั้นตอนการผลิตยานยนต์ ได้แก่ การขึ้นรูป การเชื่อม การทำสี และการประกอบ ทั้งหมดนี้ เพื่อการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงและได้มาตรฐานสำหรับตลาดประเทศไทย โรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตสูงสุดถึง 150,000 คันต่อปี ได้แก่ BYD DOLPHIN, BYD ATTO 3, BYD SEAL และ BYD SEALION 6 รวมถึงสามารถผลิตชิ้นส่วนสำคัญอย่างแบตเตอรี่และระบบส่งกำลังได้อีกด้วย สำหรับในอนาคต เมื่อโรงงานดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบ คาดว่าจะสร้างงานได้กว่า 10,000 ตำแหน่ง

นายหวัง ชวนฟู่ ประธานกรรมการและประธานบริษัท บีวายดี กรุ๊ป กล่าวว่า “บีวายดีได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าสู่ตลาดประเทศไทยได้เพียง ปี โดยประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าติดต่อกันถึง 18 เดือน ในอนาคต บีวายดีวางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเพิ่มเติมในประเทศไทย เราจะผสานความเป็นเลิศด้านการผลิตในประเทศเข้ากับเทคโนโลยีพลังงานใหม่ขั้นสูงของบีวายดี เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า “การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของบีวายดีในประเทศไทย เป็นก้าวสำคัญที่ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ที่มีต่อลูกค้าชาวไทย ควบคู่ไปกับการสานต่อเป้าหมายระดับโลก โรงงานแห่งนี้ไม่เพียงจะช่วยให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผลิตในไทย แต่ยังตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำแถวหน้าของโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ ที่สำคัญ เราเชื่อมั่นว่าโรงงานแห่งนี้จะสามารถสร้างโอกาสในการทำงานให้แก่ชาวไทยได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะให้กับวงการยานยนต์และพลังงานทดแทนได้อีกด้วย นอกจากนี้ โรงงานบีวายดีประเทศไทยจะช่วยดึงดูดการลงทุนและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อประเทศอย่างมหาศาล”

นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ในปี พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า[1]รวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดประมาณ 14.2 ล้านคัน เราจึงมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะยังคงเติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง กลุ่มธุรกิจเรเว่ยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานตามพันธกิจในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยพลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น การเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ของบีวายดีในประเทศไทยจะช่วยให้เราสานต่อวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ ‘NEW FUTURE, YOUR WAY’ ที่มุ่งมั่นผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น NEV Nation และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปีพ.ศ. 2608 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืนพร้อมกับขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ”

นางสาวประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวเสริมว่า “เราเชื่อว่าการเปิดโรงงานบีวายดีประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะมีบทบาทสำคัญในการรองรับความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของเราในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทยและอาเซียน ทั้งยังตอกย้ำวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่างบีวายดีและกลุ่มธุรกิจเรเว่ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการคุณภาพสูงที่ตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของลูกค้าในไทยและประเทศอื่นๆ ที่ใช้รถยนต์พวงมาลัยขวา ขณะเดียวกัน กลุ่มธุรกิจเรเว่จะยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แข็งแกร่ง รวมถึงมอบประสบการณ์การขายและบริการหลังการขายเหนือระดับ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์แบบครบวงจรที่ราบรื่นและคุ้มค่า แทนคำขอบคุณสำหรับความไว้วางใจของผู้ใช้งานชาวไทยที่มอบให้กับเรามาโดยตลอด”

ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านยานยนต์พลังงานใหม่ บีวายดีได้ขยายการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปี พ.ศ. 2566 บีวายดีส่งออกรถยนต์ 243,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 334% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ปัจจุบัน บีวายดีจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ใน 88 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย บราซิล ฮังการี และอุซเบกิสถาน

ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาว บีวายดีและกลุ่มธุรกิจเรเว่ มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของโลกสู่ยุคพลังงานใหม่ โดยโรงงานบีวายดีประเทศไทยซึ่งดำเนินการผลิตด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของจีนแห่งนี้ จะเข้ามาช่วยสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคตตามเป้าหมายของรัฐบาลไทยในท้ายที่สุด