คาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต จัดกิจกรรม “Delo Green Drive: รวมพลคนดีเซล”
เติมพลังให้ผืนป่า แล้วมาเพิ่มสมรรถนะความแกร่งให้กับรถของคุณ
คาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล โดย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้นำอุตสาหกรรมด้านพลังงานระดับโลก จัดกิจกรรมเพื่อสังคม “Delo Green Drive: รวมพลคนดีเซล” เติมพลังให้ผืนป่า แล้วมาเพิ่มสมรรถนะความแกร่งให้กับรถของคุณ ยกขบวนเหล่าคาร์คลับแถวหน้าในวงการรถยนต์ดีเซลเมืองไทยมาร่วมพิสูจน์ประสิทธิภาพของน้ำมันหล่อลื่น เดโล่ สปอร์ตพร้อมนำทีมผู้บริหารและพนักงานตะลุยปลูกป่าชายเลน ร่วมฟื้นฟูระบบนิเวศคืนสู่ธรรมชาติ และเรียนรู้เทคโนโลยีน้ำมันหล่อลื่นคาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต กันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ณ บ้านไม้ชายเลน รีสอร์ท ต.คลองโคน อ.เมืองจ.สมุทรสงคราม
กิจกรรม “Delo Green Drive: รวมพลคนดีเซล: เติมพลังให้ผืนป่า แล้วมาเพิ่มสมรรถนะความแกร่งให้กับรถของคุณ” เป็นหนึ่งในกิจกรรม ภายใต้แคมเปญ Street Borne – เติมพลังแกร่ง แรงเต็มสมรรถนะ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อขอบคุณผู้บริโภค โดย นายสันติศักดิ์ ไทยพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นประเทศไทย บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด กล่าวถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “คาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมนำเสนอการบริการคุณภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้รถมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยึดมั่นในแนวทางการเติบโตของธุรกิจ
ด้วยความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม การพัฒนาชุมชน รวมถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญกับการจัดและสนับสนุนโครงการด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งถือเป็นการสร้างชุมชนหรือสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการปลูกป่าชายเลน ซึ่งถือเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศไว้ในทุกๆ ด้าน เนื่องจากป่าชายเลนเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าและมีความสำคัญที่ให้ประโยชน์ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมนอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์น้ำเศรษฐกิจนานาชนิด หากสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ ชาวท้องถิ่นก็มีรายได้เพิ่ม และที่สำคัญ ป่าชายเลนยังช่วยป้องกันการกัดเซาะพังทลายของหน้าดิน รักษาสมดุลแห่งชายฝั่งและบริเวณใกล้เคียง เป็นทั้งแหล่งศึกษาธรรมชาติ และ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ การปลูกป่าชายเลน จึงถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ยังเป็นการกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกให้พนักงานเกิดแรงบันดาลใจในการร่วมอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อมของประเทศ และถือได้ว่าเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการนำแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคม เข้าไปสู่กระบวนการทำงานและสามารถนำศักยภาพทางด้านต่างๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อนำสิ่งดีๆ มาแบ่งปันให้กับสังคมได้อีกด้วย
“ภายในแคมเปญนี้ เหล่าบรรดาดีเซลคาร์คลับกว่า 20 คัน ได้ร่วมใช้จริงกับการเปลี่ยนถ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น คาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต และสารทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงเทครอน ก่อนที่จะมาร่วมทริป ขับยานพาหนะคู่ใจไปทำกิจกรรมปลูกป่าชายเลนร่วมกัน โดยเริ่มต้นคิกออฟกิจกรรม Delo Green Drive: รวมพลคนดีเซลฯ ด้วยการเช็คอินและเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์พระราม 2
นำทีมโดย เอกชัย ปัญญายิ่ง ผู้เชี่ยวชาญในด้านรถกระบะเครื่องยนต์ดีเซล ที่มาร่วมการันตี นำขบวนคาราวานทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต ไปพร้อมๆ กัน ถึงคุณสมบัติที่โดดเด่นผลิตด้วยเทคโนโลยีไอโซซินแอดวานซ์ เพิ่มคุณสมบัติในการทนความร้อนสามารถป้องกันการสึกหรอได้ดีกว่า ช่วยเพิ่มพลังความแรงของเครื่องยนต์ และมีสารช่วยกระจายเขม่าทำให้เครื่องยนต์สะอาด ยืดอายุการใช้งาน ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากขึ้น ทำให้สามารถลดการปล่อยมลพิษหรือไอเสียไปยังอากาศ ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังช่วยลดระยะรอบของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันฯ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้คาร์คลับที่มาร่วมงานยังได้เรียนรู้เทคนิคการดูแลรักษารถยนต์ และเทคโนโลยีน้ำมันหล่อลื่น โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากคาลเท็กซ์ ตามด้วยกิจกรรมไฮไลท์การปลูกป่าชายเลนที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจปลูกพันธุ์ไม้ชายเลน ก่อนปิดท้ายกิจกรรมด้วยการล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวประมงชายฝั่ง ต.คลองโคนชมการเลี้ยงหอยแครง หอยนางรม และหอยแมลงภู่”
“Delo Green Drive: รวมพลคนดีเซล: เติมพลังให้ผืนป่า แล้วมาเพิ่มสมรรถนะความแกร่งให้กับรถของคุณ ภายใต้แคมเปญ Street Borne – เติมพลังแกร่ง แรงเต็มสมรรถนะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต มีความตั้งใจจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณผู้บริโภคและเป็นการสานต่อสัมพันธ์ พร้อมสร้างประสบการณ์ร่วมกับผู้บริโภคที่ใช้ผลิตภัณฑ์ฯ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และการสร้างจิตสำนึกการตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน” นายสันติศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย