ครั้งแรก ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 39 BYD พร้อมสร้างปรากฎการณ์
จัดทัพยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ 7 รุ่น
จากกระแสการตอบรับ BYD ATTO 3 ที่ลูกค้าต่อแถวจองอย่างล้มหลาม เพื่อเป็นการตอกย้ำ ท่านสามารถมาสัมผัสและทดลองขับได้ที่ ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 อีกทั้งพร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 อีกครั้ง โดยยกทัพขบวนพาเหรดรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ (NEV) ที่ทาง BYD มีจำหน่ายในตลาดโลก (Global) ครอบคลุมเชกเมนท์หลักๆ ซึ่งลูกค้าจะได้พบกับเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าขั้นสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของ BYD เป็นครั้งแรกในประเทศไทย และ ไม่ได้แค่มาโชว์ให้ผู้สนใจชื่นชมแค่ภายนอกเท่านั้น แต่ผู้สนใจท่านสามารถเปิดประตู สามารถเข้าไปลองนั่ง สัมผัสเนื้อวัสดุพรีเมียม ได้ทุกคัน ด้วยความสำเร็จในการบุกตลาดไทย ทำให้ เรเว่ เป็นแนวทางต้นแบบให้กับผู้จัดจำหน่าย BYD ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เข้ามาศึกษาดูงานในครั้งนี้
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานกรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร บ. เรเวอร์ ออโตโมทีฟ จำกัด (เรเว่) กล่าวย้ำว่า “ผมขอขอบคุณ กระแสตอบรับ BYD ATTO 3 จากลูกค้าชาวไทยทั่วประเทศ ด้วยยอดจองทะลุ 5,000 คัน ตามโควต้าที่ทางเราได้มาครั้งแรก จนกระทั่งเราต้องขอเพิ่มโควต้าจากทาง BYD มาเพิ่มอีกในเดือน ม.ค. อีก 5,000 คัน และในงานผมก็ยังได้นำรถยานยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ด้านไฟฟ้าของ BYD ทุกเชกเมนต์อันแสดงถึง เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ มาให้ลูกค้าชาวไทยได้มั่นใจว่า BYD เรายังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายโมเดลที่น่าสนใจ พร้อมเปิดมุมมองประสบการณ์ให้เข้าใจในยนตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงานทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้รถคนไทยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งผมก็ยังขอยืนยันความตั้งใจปลุกคนไทยทุกคนให้ตระหนักว่า การใช้พลังงานใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นั้น สามารถสร้างชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเรา แต่หมายถึงทุกสิ่งรอบตัวเราจะดีขึ้น”
และคุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rêver Automotive จำกัด ยังกล่าวเน้นย้ำเรื่องงานบริการ “เรายังคงมุ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลูกค้า BYD ATTO 3 ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ารุ่น Standard Range และรุ่น Extend Range ซึ่งยังคงโปรแกรม Rêver Care ที่จะ ดูแล รถทุกคัน ด้วยสิทธิพิเศษแบบเต็มที่ คุ้มค่าด้วย ดอกเบี้ยพิเศษในอัตรา 1.68% นาน 48 เดือน พร้อมฟรี ค่าบริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ นาน 8 ปี อุ่นใจด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี และ Home Charger พร้อมติดตั้ง มั่นใจไปกับการรับประกันคุณภาพตัวรถและแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร สามารถพบกับโชว์รูมและศูนย์บริการ ที่พร้อมดูแลคุณ 32 แห่งทั่วประเทศ และในวันที่ 12 เดือน 12 ทางบริษัทฯ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ Application BYD เพื่อให้ความสะดวกกับลูกค้า เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ ในโอกาสดีที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยตั้งแต่การเปิดรับจองเป็นต้นมา ทำให้ เรเว่ ได้รับเกียรติ จาก คุณเสวียเลี่ยง หลิว ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายประจาภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บีวายดี นำคณะผู้จัดจำหน่ายจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟุค เพื่อเข้าร่วมศึกษางานของบีวายดี เรเว่ ในประเทศไทย ในครั้งนี้ด้วย”
ภายในบูธงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 มีรุ่นที่จัดจำหน่าย
BYD ATTO 3 มีวางจำหน่าย 2 รุ่น
- BYD ATTO 3 Extend Range ราคา 1,199,900 บาท
- BYD ATTO 3 Standard Range ราคา 1,099,900 บาท
ทัพยานยนต์ไฟฟ้าที่นำมาจัดโชว์และให้สัมผัส ภายในบูธ A12 ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39
มี 6 รุ่น (สามารถดูรายละเอียดแนบเพิ่มเติมจากเอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์)
- BYD Seal EV
- BYD HAN EV
- BYD TANG EV
- BYD Dolphin EV
- BYD QIN PLUS DMi
- BYD SONG PLUS DMi
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
BYD ATTO 3
BYD ATTO 3 นับเป็นที่สุดของ Premium SUV 5 ประตู 5 ที่นั่ง ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว พร้อม การตกแต่งภายในที่ล้ำสมัยสไตล์ Sporty & Rhythmic Design ที่คำนึงถึงความสะดวกและปลอดภัยของผู้ขับขี่ โดดเด่นด้วยขุมพลังจาก BYD Blade Battery (LFP) อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะแบรนด์ BYD ความจุ 60.48 กิโลวัตต์ ต่อชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์หรือ 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่ง 480 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หรือ 420 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ภายใน 7.3 วินาที พวงมาลัยไฟฟ้า Electric Power Assisted Steering (EPS) ช่วงล่างมีระบบกันสะเทือนมัลติ-ลิงค์ด้านหลัง ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนดีเยี่ยม ระบบเบรคด้านหน้าดิสก์เบรคแบบมีช่องระบายความร้อน รองรับหัวชาร์จ แบบ AC Type 2 และแบบ DC – CCS 2 สูงสุด 80kW มีระบบ V2L (Vehicle To Load) จ่ายไฟฟ้าได้สูงสุด 2.2 kW พร้อมระบบการดึงพลังงานจากระบบเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative braking)
ปลุกทุกความแตกต่างด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะ
ATTO 3 จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วย นวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่โดดเด่น อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ BYD เท่านั้น ได้แก่
- Blade Battery นวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ที่มีประสิทธิภาพ ยอดเยี่ยมด้วยรูปทรงเซลล์แบตเตอรี่ลักษณะคล้ายใบมีดวางเรียงกันจึงมีพื้นที่ว่างในการเพิ่มจำนวนเชลล์ เพื่อพลังงานที่มากขึ้นมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าและมีระบบจัดการความร้อนอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการระบายความร้อนได้ถึง 20% พร้อมลดการสูญเสียพลังงานเสริมด้วยระบบปั๊มความ- ร้อนทนทานทุกสภาพอากาศผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย Nail Penetration Test ที่ปลอดภัยสูงสุดแม้ได้รับความเสียหายรุนแรง ขึ้นแท่นเป็นแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยที่สุดในตลาด
- e-Platform 3.0 แพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่จะยกระดับการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปอีกขั้นถูกพัฒนา ออกแบบ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ การวางตำแหน่งของระบบส่งกำลัง 8 in 1 (ควบคุมกระแสไฟฟ้า แบตเตอรี่และการขับเคลื่อน) สอดคล้องลงตัวโครงสร้างแชสซีส์และแบตเตอรี่เกิดความสมดุล ทำให้มี ช่วงฐานล้อที่กว้างมากถึง 2720 มม. มากที่สุดในรถยนต์ขนาดเดียวกัน กระจายน้ำหนักยึดเกาะถนน เป็น เยี่ยม ตลอดจนความนุ่มนวลในทุกการขับขี่ ปรับปรุงประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะได้อย่างน่าทึ่ง
- DiPilot ปลุกให้คุณสัมผัสความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบผู้ช่วยในการขับขี่ พร้อมระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety และ Passive Safety ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน -Stop and Go (ACC-S&G) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ – Lane Keeping Assist (LKA) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน – Lane Departure Warning (LDW) ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง ถุงลมนิรภัย 7 จุด และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อย้ำถึงการให้ความสำคัญในด้านความ ปลอดภัยขั้นสุด ให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกสถานการณ์
ปลุกทุกสายตาด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยเส้นสายรอบคันที่ทรงพลังและเฉียบคมในทุกมิติ
ดีไซน์ภายนอกของ BYD ATTO 3 มาจากแนวคิด Edgy Exterior สะท้อนความใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมังกรที่มอบความทรงพลังให้ทุกเส้นสายสะกดทุกสายตาไล่จาก Dragon Face ด้านหน้าโดดเด่นด้วย Crystal LED Combination Headlight คาดคิ้วโครเมียม โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย สไตล์สปอร์ต กับกรอบร่างเรียบง่ายแฝงไปด้วยความเฉียบคม เสา C วัสดุขึ้นรูปลายคลื่นน้ำ หลังคา Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบ ด้านหลังสโลปลงพร้อมสปอยเลอร์ ไฟท้าย LED คาดยาวซ้าย จรดขวาประดุจปีกนก ไฟเลี้ยว Sequential สะดุดตาไม่เหมือนใคร เปิด-ปิดประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้าแบบ One-Touch ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้วที่ออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ โดยมีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ ขาว Frost เทา Graphite ฟ้า Lagoon เขียว Emerald และ แดง Solar
ภายในได้รับแรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ผู้กล้าที่จะแตกต่าง BYD ATTO 3 ได้ปลุกนิยามใหม่ของการ ออกแบบด้วยภายในห้องโดยสารที่หรูหรา โฉบเฉี่ยว ล้ำสมัยภายใต้แนวคิด Electric Interior ผสาน อย่างลงตัว กับดีไซน์ Music Streamline Design ที่ได้รับแรงบันดาลใจสมเครื่องดนตรีเพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลาย โดดเด่นแปลกตาด้วยสายกั้นสัมภาระสีแดงที่แผงประตู พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับได้ 4 ทิศทางพร้อมสวิตซ์ ควบคุมเครื่องเสียง และสวิตช์ควบคุมหน้าจอ ดีไซน์สปอร์ตแบบ 3 ก้าน สวิตช์เปลี่ยนเกียร์แบบ Finger-touched electronic shift รูปทรงช่องแอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดัมเบลเท่ไม่เหมือนใคร ก้านมือจับประตูล้ำสมัยแบบ Grip Style และที่พักแขนขนาดใหญ่ สไตล์ Treadmill พิเศษด้วยเบาะนั่งคู่หน้าโอบรับสรีระแบบ gaming Seat พิเศษ สำหรับเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับได้ถึง 4 ทิศทาง หน้าจอ กลางขนาด 12.8 นิ้ว สามารถหมุนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทั้งหมดนี้เพื่อประสบการณ์ใหม่ที่ให้สัมผัส ความสะดวกสบายและเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
รถยนต์ BYD ATTO 3 รุ่น Standard Range จะมีอุปกรณ์มาตรฐานรวมไปถึง อุปกรณ์ความปลอดภัย ตลอดจนรายละเอียดทั้งภายนอกและภายในเช่นเดียวกับรุ่น Extend Range สำหรับความแตกต่างกันจะ มีเพียงขนาดของแบตเตอรี่แบบ Blade Battery เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD โดยรุ่น Standard Range มีแบตเตอรี่ขนาด 49.92 kWh และ DC Charging Port CCS 2 รองรับ 70 kW สามารถขับขี่เป็น ระยะทางสูงสุดต่อการชาร์จตามมาตรฐานของ NEDC Mode ได้ 410 กิโลเมตร ในส่วนของสีตัวถัง ภายนอกสำหรับรุ่น Standard Range จะมีให้เลือก 2 สี ประกอบด้วย สีขาว (Frost) และ เทา (Graphite)
BYD ATTO 3 รุ่น Standard Range ใช้แพลตฟอร์มแห่งอนาคต e-Platform 3.0 ยกระดับ ทุกมิติการขับขี่ มีสมรรถนะเหนือชั้นกับพละกำลังสูงสุด 150 kW ทำอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.3 วินาที เพียบพร้อมด้วยผลงานดีไซน์ของนักออกแบบระดับโลกผสานฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัยในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์ BYD ATTO 3 รุ่น Standard Range คือ อีกหนึ่งทางเลือกล่าสุดที่จะมาเติม เต็มช่องว่างในตลาดและ ตอบสนองทุกความต้องการ โดยเฉพาะ กลุ่มลูกค้าผู้สนใจ เปลี่ยนมาใช้ ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วย พลังงานใหม่
BYD SEAL EV
เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงรุ่นหนึ่งในตลาดโลก มีให้เลือกถึง 4 รุ่น ซึ่งมาพร้อมสมรรถนะ และระยะทางการวิ่งที่แตกต่างกัน จัดอยู่ในกลุ่มสปอร์ตซีดานขนาดกลาง ตัวถังที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่โค้งมนตามหลักแอร์โร่ได-นามิค โดยเฉพาะแนวหลังคาที่โค้งมนในสไตล์รถคูเป้ ไฟหน้าทรงเรียว รับกันช่องดักลมแนวล้ำสมัย ภาพรวมให้เส้นสายของตัวถังที่ดูลื่นไหล นับตั้งแต่จมูกหน้ารถ แนวตัวถังด้านข้าง ต่อเนื่องไปจนถึงโคมไฟท้าย LED ที่วางแบบเต็มความกว้างท้ายรถ และติดตั้งดิฟฟิวเซอร์มาให้พร้อมสรรพ
ห้องโดยสาร SEAL EV คือขีดสุดของความไฮเทค ทั้งเรื่องดีไซน์และความคำคั่งของอุปกรณ์ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน ทรง D Shape พร้อมสันเพิ่มความกระชับให้กับอุ้งมือในตำแหน่ง 2 และ 10 นาฬิกา มองลอดพวงมาลัยเป็นจอ Driver Display แสดงผลในรูปแบบดิจิตอล ถัดไปอีกเล็กน้อย คือ Head-up Display แสดงข้อมูลที่จำเป็น โดยที่ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเบื้องหน้า ส่วนจอแสดงผลในส่วนของระบบ Infotainment ขนาดใหญ่เต็มตาถึง 15.6 นิ้ว
SEAL EV มาพร้อมมิติตัวถัง ความยาว ความกว้าง และความสูง 4,800×1,875×1,460 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร ได้รับการพัฒนามาจากเพลทฟอร์มอัจฉริยะ e-Platform 3.0 และ SEAL EV จะเป็นยานยนต์ไฟฟ้าโมเดลแรกที่มาพร้อมเทคโนโลยี CTB (cell-to-body) ที่ช่วยให้ BYD Blade Battery ผสานการทำงานกับเพลทฟอร์มได้ดียิ่งขึ้น แบ่งออกเป็น 4 รุ่นย่อย ได้แก่
SEAL EV Standard Range, รุ่น RWD Elite และรุ่น RWD Premium: มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 61.4 kWh สามารถวิ่งได้ 550 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC (China Light-Duty Vehicle Test Cycle) มาพร้อมกำลังสูงสุด 150 kW กับแรงบิดสูงสุด 310 Nm สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที รองรับการชาร์จเร็ว (DC fast charging) : 30-80% ภายในเวลา 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จ เร็วสุดสุด 110 kW
SEAL EV Long Range, จะมีระบบขับเคลื่อถึง 2 รูปแบบ ทั้งขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) และ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ(AWD) โดยรุ่น SEAL EV Long Range RWD : มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 82.5 kW สามารถวิ่งได้ 700 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC (China Light-Duty Vehicle Test Cycle) มาพร้อม กำลังสูงสุด 230 kW กับแรงบิดสูงสุด 360 Nm สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.9 วินาที รองรับการชาร์จเร็ว (DC fast charging) : 30-80% ภายในเวลา 30 นาที รองรับกำลังไฟในการชาร์จ เร็วสุดสุด 150 kW
SEAL EV Long Range AWD Performance: มาพร้อม มอเตอร์ 2 ชุด พร้อมระบบ ขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อ นับเป็นรุ่น เพอร์ฟอมานซ์สูงสุด มาพร้อมแบตเตอรี่ ขนาดความจุ 82.5 kW สามารถวิ่งได้ 650 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC (China Light-Duty Vehicle Test Cycle) มาพร้อมกำลังสูงสุด 390 kW กับ แรงบิด สูงสุดระดับ 670 Nm สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 3.8 วินาที รองรับการ ชาร์จเร็ว (DC fast charging): 30-80% ภายในเวลา 30 นาที รองรับกำลัง ไฟ ในการชาร์จเร็วสุดสุด 150 kW
BYD HAN EV
BYD HAN EV เป็นสปอร์ตซาลูน 5 ที่นั่ง เจ้าของรางวัล iF Design Award ประจำปี 2021 นับเป็นรถสัญชาติจีนรุ่นแรกที่ได้รางวัลกลับบ้าน จากการตัดสินของคณะกรรมการจากทั่วโลกจำนวน 98 คน คณะกรรมการ กล่าวถึง HAN EV อย่างชื่นชม “BYD HAN EV นอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังเป็นรถที่ความสบายในการเดินทาง พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด”
HAN ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม HAN หมายถึง ความกล้าหาญ ใช้ดีไซน์ตัวถังที่ดุดัน ห้องโดยสารที่หรูหรา สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นจีน เป็นรถระดับเรือธงจาก BYD Dynasty ใช้ภาษาการออกแบบ EV Dragon Face ของ BYD และสืบสานวัฒนธรรมจีนสู่การออกแบบรถยนต์แบบครบวงจร
รายละเอียดของการตกแต่งภายใน HAN EV ซึมซับแนวคิดของสุนทรียภาพแบบจีน และแก่นแท้ของการออกแบบที่หรูหรา คลาสสิก โดยใช้หนัง Nappa, ไม้แท้ และอะลูมิเนียม พร้อมด้วยวัสดุล้ำสมัยอื่น ๆ สะท้อนถึงการแสวงหาความสมดุล ธรรมชาติ และความสมบูรณ์แบบ
HAN EV จับคู่การออกแบบที่ยอดเยี่ยม กับฟังก์ชันที่ล้ำสมัย HAN EV รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นรถสมรรถนะสูง ในแง่ของความปลอดภัย แบตเตอรี่ Blade มีความปลอดภัยเป็นพิเศษ ผ่านการทดสอบที่เข้มข้นที่สุดของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ในด้านระบบอัจฉริยะของรถยนต์ HAN EV มาพร้อมกับระบบที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย DiLink 3.0 และระบบผู้ช่วยขับขี่อัจฉริยะ DiPilot และสามารถอัปเดตผ่านทางเทคโนโลยีผ่านอากาศ (OTA)
HAN EV ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดจีน มียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัว ในเดือนกรกฎาคม 2020 โดยสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 10,000 คันต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือนติดต่อกัน และยอดขายสะสมมีมากกว่า 60,000 คัน ทั้งหมดนี้เป็นการยืนยันว่า HAN EV ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากหน่วยงานต่าง ๆ และตลาด ทั้งในด้านการออกแบบภายในและระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง โดยเน้นย้ำถึงตำแหน่งผู้นำตลาดในฐานะรถยนต์พลังงานสะอาด มีความปลอดภัย สมรรถนะสูง และความหรูหรา
HAN EV มีมิติตัวถัง ความยาว ความกว้าง และความสูง 4,995×1,910×1,495 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,920 มิลลิเมตร ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสารโดยตรง ขับเคลื่อนด้วย Dual Motor ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าขนาด 180 kW แรงบิด 350 Nm และขนาด 200 kW แรงบิด 350 Nm สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง (กำลังรวม 380 kW/509 PS) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาเพียง 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. มาพร้อม BYD Blade Battery ความจุ 85.4 kWh วิ่งได้ไกล 610 กิโลเมตร/ชาร์จ (CLTC)
BYD TANG EV
นอร์เวย์เป็นประเทศแห่งยานยนต์ไฟฟ้า และ BYD ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัว TANG EV การส่งมอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลครั้งแรกของ BYD ในนอร์เวย์ ส่งสัญญาณถึงการเริ่มต้นของ ‘ความฝันแบบยุโรป’ กับช่วงเวลาสำคัญในการสร้างยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs: New Energy Vehicles) โดยเฉพาะ ตลาดสำคัญ ๆ ทั่วยุโรป BYD มุ่งมั่นที่จะส่งมอบรถ 1,500 คัน ไปยังนอร์เวย์ก่อนสิ้นปี 2564 โดยการมาถึงของ TANG EV บนแผ่นดินยุโรป ถือเป็นก้าวแรกในการเดินทางที่น่าตื่นเต้น
BYD มีประสบการณ์ 26 ปี ในฐานะผู้บุกเบิกและผู้เชี่ยวชาญในการวิจัย พัฒนา และผลิตแบตเตอรี่ ด้วยเทคโนโลยีการใช้พลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เป็นหัวใจของธุรกิจ BYD จึงเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพียงรายเดียวในโลก ที่ผลิตระบบส่งกำลัง แบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน และระบบควบคุมมอเตอร์ของตนเอง ข้อมูลเฉพาะเหล่านี้ จะช่วยให้ BYD สามารถแสดงความสามารถด้านโซลูชันโดยรวมในตลาด EV ที่กำลังเติบโตในยุโรป
TANG EV ขับเคลื่อนในรูปแบบ all-wheel-drive ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า นั่นคือศูนย์รวมของความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ของ BYD มาพร้อม Blade Battery ขนาด 86.4 kWh นับเป็นเทคโนโลยีระดับปฏิวัติวงการจาก BYD มีความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่เหนือชั้น Blade Battery จาก BYD ชาร์จจาก 30-80% ด้วยเวลาเพียง 30 นาที จากไฟ DC, 110 kW
ความลงตัวในสไตล์ SUV ของ TANG EV เป็นผลงานจาก BYD’s international design team โดยมี Wolfgang Egger ดีไซน์เนอร์ชื่อดังเป็นหัวหน้าทีมออกแบบ ผลลัพธ์คือ การผสมผสานสไตล์การออกแบบของยุโรป เข้ากับมรดกจากฝั่งตะวันออกได้อย่างลงตัว TANG EV นับเป็นตัวแทนการออกแบบยุคใหม่จาก BYD ที่ผนวกรวมความงาม อารมณ์ และ แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ขณะที่ห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง ของ TANG EV สวยงาม ใช้งานได้จริง และมีสไตล์ มีความจุรวมถึง 1,655 ลิตร
BYD TANG EV มีความสูงจากใต้พื้นรถ 178 มิลลิเมตร ให้ความคล่องตัวในการเดินทางทุกสถานการณ์ ขับเคลื่อนผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ด้วยระบบขับเคลื่อน Electric AWD มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 180 kW แรงบิด 350 Nm และด้านหลัง 200 kW แรงบิด 350 Nm (กำลังรวม 380 kW/509 PS) มาพร้อม BYD Blade Battery ความจุสูงถึง 108.8 kWh รองรับการเดินทางได้ไกล 635 กิโลเมตร/ชาร์จ (CLTC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. และใช้ระยะเบรกจาก 100-0 กม./ชม. เพียง 36 เมตร
BYD Dolphin EV
Dolphin EV เป็นยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้น ที่ได้รับการพัฒนาจาก e-Platform 3.0 ไม่ต่างจาก BEV รุ่นใหญ่ของ BYD มิติตัวถังกะทัดรัด ตอบโจทย์การใช้งานของคนเมือง ให้ความคล่องตัวในการขับขี่สูงสุดจากระยะโอเวอร์แฮงค์หน้าและหลังที่สั้น ใช้ระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร ส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างขวางเกินตัว
ตัวถังของ Dolphin EV ออกแบบในสไตล์แฮทช์แบค ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความปราดเปรียวของโลมา ตามชื่อรุ่น โคมไฟหน้าใช้ LED มาพร้อม Daytime Running Light เสน่ห์ของ Dolphin EV คือเส้นสายบนตัวถัง ที่สื่อสารถึงอารมณ์ที่พร้อมจะเคลื่อนไหวตลอดเวลา
ห้องโดยสารใช้สีทูโทน เช่นเดียวกับตัวถังภายนอก เป็นดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย มาพร้อม Bucket Seat ทรงสปอร์ต พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 3 ก้าน มือจับเปิดประตูออกแบบคล้ายครีบของโลมา จอในส่วนของอุปกรณ์ Infotainment ใหญ่เต็มตาด้วยขนาด 12.8 นิ้ว สำหรับหลังคาแบบ Panoramic Roof จัดมาให้ในรุ่นท็อป
Dolphin EV ขับเคลื่อนในรูปแบบ FWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ขนาด 130 kW (177 PS) แรงบิดสูงสุด 290 Nm ใช้ BYD Blade Battery ขนาด 44.9 kWh การชาร์จผ่านไฟ AC, 7 kW จาก 0-100% ใช้เวลา 6 ชั่วโมง 25 นาที ส่วนการชาร์จผ่านไฟ DC, 60 kW ในรูปแบบ Fast Charging ชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที แบตเต็มวิ่งได้ไกล 401 กิโลเมตร (CLTC) ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
BYD QIN PLUS DMi
BYD QIN PLUS DMi เป็นรถซีดาน 4 ประตู 5 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยระบบ PHEV การออกแบบได้รับอิทธิพลมาจาก HAN กระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ถูกเรียกว่า ‘Dragon Mouth’ ไฟหน้า Bi-LED ดีไซน์ประดุจตามังกร ขณะที่ไฟท้ายออกแบบเต็มพื้นที่ความกว้างท้ายรถ ให้ความรู้สึกเหมือนเล็บมังกร ห้องโดยสารโดดเด่นด้วยสีทูโทน เบาะนั่งคู่หน้าเป็นแบบ Bucket Seat ขณะที่เบาะนั่งแถวหลังก็ใช้ทรงสปอร์ตไม่แตกต่างกัน
BYD QIN PLUS DMi มีมิติตัวถัง ความยาว ความกว้าง และความสูง 4,765×1,837×1,495 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,718 มิลลิเมตร ขุมพลัง DM-i Super Hybrid ใช้เครื่องยนต์ Atkinson Cycle แบบ 4 สูบ แถวเรียง DOHC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 81 kW (110 PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 Nm ที่ 4,500 รอบ/นาที
เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 145 kW (194 PS) พร้อมแรงบิด 325 Nm ติดตั้งแบตเตอรี่ BYD Blade ขนาด 18.32 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนรถได้ไกลถึง 120 กิโลเมตร (CLTC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. พร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 3.8 ลิตร/100 กิโลเมตร
BYD SONG PLUS DMi
BYD SONG PLUS DMi เป็นรถ PHEV พิกัด C-SUV ที่ขายดีที่สุดในจีน ออกแบบภายใต้แนวคิด Dragon Face 3.0 Design ใช้กระจังหน้าขนาดใหญ่ ขนาบด้วยไฟหน้า LED ในโคมคริสตัล พร้อม Daytime Running Light และไฟท้าย LED วางเต็มพื้นที่ความกว้าง ตัวรถเน้นความอเนกประสงค์ พร้อมความคล่องตัวในการใช้งาน จากมิติตัวถัง ความยาว ความกว้าง และความสูง 4,705×1,890×1,670 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,765 มิลลิเมตร
ห้องโดยสารเน้นความล้ำสมัย จอกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย DiLink รองรับการอัพเดทในรูปแบบ OTA เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งแถวหลังแบ่งพับ 60:40 เพื่อขยายพื้นที่ในการขนสัมภาระ มาพร้อมแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และระบบกุญแจ NFC
ขุมพลัง DM-i Super Hybrid ใช้เครื่องยนต์ 1.5-Turbo แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ให้พละกำลัง 102 kW (136 PS) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 231 Nm ที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ด้านหน้าขนาด 145 kW แรงบิด 316 Nm และด้านหลังขนาด 120 kW แรงบิด 280 Nm ติดตั้งแบตเตอรี่ BYD Blade ขนาด 18.3 kWh รองรับการเดินทางแบบไร้มลพิษได้ไกล 100 กิโลเมตร (CLTC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.9 ลิตร/100 กิโลเมตร