บุรีรัมย์มาราธอน 2021 เปิดประวัติศาสตร์ใหม่! 

วิ่งไนท์รัน-วิถีใหม่ครั้งแรก  “สัญชัย” ครองถ้วยพระราชทานอีกสมัย

บุรีรัมย์สว่างไสวไปทั้งเมือง นักวิ่งกว่า 2.1 หมื่นคน ร่วมวิ่งไนท์รัน-นิวนอร์มอลครั้งแรกอย่างยิ่งใหญ่  “สัญชัย นามเขต” ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ รักษาแชมป์คนไทยพร้อมคว้าถ้วยพระราชทานไปครอง แม้จะพ่าย คู่แข่งเซอร์เก ซีรียานอฟ จากรัสเซีย ในการวิ่งมาราธอนแบบเฉียดฉิวใน 1 กม.สุดท้าย

การแข่งขันวิ่ง “บุรีรัมย์ มาราธอน พรีเซนเต็ด บาย เครื่องดื่มตราช้าง” ประจำปี 2564 ภายใต้แนวคิด “YOUR ULTIMATE DESTINATION-สวรรค์ของนักวิ่ง” ปีที่ 5 เป็นการแข่งขันวิ่งไนท์รันครั้งแรก ในรูปแบบนิวนอร์มอล ซึ่งออกสตาร์ท ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ และเข้าเส้นชัย ที่สนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ร่วมด้วย นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้บริหารจากภาครัฐและผู้ให้การสนับสนุนมากมาย โดยมีนักวิ่ง เข้าแข่งกว่า 21,000 คน

สำหรับ ผลการแข่งขัน ระยะมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ผู้ที่เข้าเส้นชัยคนแรก ฝ่ายชาย ได้แก่ เซอร์เก ซีรียานอฟ ปอดเหล็กจากรัสเซีย ทำเวลาได้ 2.35.01 ชม.ที่ 2 สัญชัย นามเขต ดีกรีเหรียญเงินซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ทำเวลาได้ 2.36.32 ชม.ได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ส่วนที่ 3 ธนาทิพย์ ดีฉิม ทำเวลาได้ 2.47.47 ชม.

ฝ่ายหญิง แชมป์ ระเบียง รังเพีย ทำเวลาได้ 3.14.57 ชม. ที่ 2 พิณทุอร วีระสมเกียรติ ทำเวลาได้ 3.15.19 ชม. ที่ 3 ลินดา จันทะชิด ทำเวลาได้ 3.26.02 ชม.

 

ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ที่ 1 “บิ๊ก” ณัฐวุฒิ อินนุ่ม คู่แฝดทีมชาติชุดซีเกมส์ ทำเวลาได้ 1.11.48 ชม.ที่ 2 “เฟรม” ชยพล บุญอุปละ 1.12.17 ชม. ที่ 3 ส.ต.ต.ปฏิการ เพชรศรีชา ทีมชาติ 1.18.26 ชม. ฝ่ายหญิง แชมป์ “ฝน” ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์ อดีตทีมชาติไทย ทำเวลาได้ 1.26.55 ชม. ที่ 2 อรอนงค์ วงศ์ศร ทำเวลาได้ 1.27.38 ชม. ที่ 3 อรนุช เอี่ยมเทศ 1.30.11 ชม.

ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร ฝ่ายชาย ที่ 1 “เบล” ณัฐวัฒน์ อินนุ่ม แฝดผู้น้อง ทำเวลาได้ 32.02 น. ที่ 2  จาตุรนต์ เขื่อนแก้ว ทำเวลาได้  33.07 น. ที่ 3 จูเลียส มูไต ทำเวลาได้ 33.38 น. ฝ่ายหญิง ที่ 1 ศรัญญา บัวไพร 38.00 น. ที่ 2 ปารียา สนเส็ม 38.38 น. ที่ 3 อริสรา 38.52 น.

สัญชัย นามเขต เปิดเผยว่า “สำหรับวิ่งบุรีรัมย์ มาราธอน ปีนี้ลงแข่งรายการนี้ รูปแบบไนท์รันครั้งแรก ทำสถิติไม่ดี โดยสถิติวิ่งล่าสุด เคยทำได้ 2.12 ชม. ส่วนการจัดงานรูปแบบไนท์รันเป็นมิติใหม่ แสงสีเสียง เรื่องอากาศร้อน ทางคนจัดการแข่งขันดูแลดีมาก มีการฉีดน้ำ แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องสภาพอากาศ ที่บังคับไม่ได้

สำหรับโปรแกรมทีมชาติช่วงนี้ ยังไม่มีโปรแกรมแข่งขัน เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีเพียงรอแข่งซีเกมส์ปลายปีนี้ ถ้าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สงบ อาจจะไปแข่งวิ่งที่ บอสตันและเบอร์ลิน

ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ถือว่า เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของวิ่งบุรีรัมย์มาราธอน ในการแข่งขันทุกๆ ปี จะวิ่งตอนเช้า แต่ปีนี้เนื่องจากเลื่อนการแข่งขันมาเป็นเดือนมี.ค. ทำให้ปีนี้ จัดวิ่งตอนค่ำ ถือเป็นมิติหนึ่งของวงการมาราธอน เป็นตัวอย่าง สำหรับรายการอื่นๆ ของการแข่งขันวิ่งมาราธอน

“รายการนี้ประชาชนบุรีรัมย์ให้การร่วมมือ ในการจัดการแข่งขันมาราธอนอย่างดี และให้กำลังใจนักกีฬาที่วิ่งในการแข่งขันตามจุดต่างๆ แม้ว่าจะไม่มีนักกีฬาต่างชาติ จะมีแต่นักกีฬาต่างชาติที่อยู่เมืองไทย ความสวยงามของแสง สีเสียง และมีชาวบุรีรัมย์มาเชียร์นักวิ่ง เป็นต้นแบบของการวิ่งมาราธอนแบบนิว นอร์มอล มีการเว้นระยะห่างตอนออกสตาร์ท ชุดละ 2 นาที ของแต่ละรุ่น ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย จัดการแข่งขันอย่างยิ่งใหญ่ในระดับซิลเวอร์ ถ้าในปีต่อไปมีนักกีฬาต่างชาติ มั่นใจว่าบุรีรัมย์จะไปถึงในระดับโกลด์แน่นอน

“รายการนี้ ช่วยให้เศรษฐกิจสะพัด จากนักวิ่งกว่า 21,000 คน ส่วนใหญ่ขับรถพาครอบครัวมาเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ นำร่องเป็นตัวอย่างการจัดการแข่งขันสำหรับจังหวัดอื่น ว่าจะสามารถจัดการแข่งขันแบบนี้ได้หรือไม่ ถ้าจัดในกทม ต้องปิดถนน ทำให้ไม่สะดวก แต่ถ้าแข่งแบบไนท์รัน จะปิดถนนตอนกลางคืน ทำให้สะดวกกว่า จริงๆ ถ้านักวิ่งฉีดวัคซีน เราจะมีนักวิ่งอีลิทมาแข่ง ได้ในการวิ่งรายการต่างๆ พร้อมประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าไทยสามารถจัดการแข่งขันได้ ประมาณปลายปี นี้ จะมีนักวิ่งต่างชาติเดินทางมาแข่งขันได้แน่นอน”