เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยสถิติผลประกอบการปี 2564
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศสถิติผลประกอบการปี 2564 อ้างอิงจากสถิติยอดขายสูงสุดในช่วง 12 เดือน โดยสามารถสร้างผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจถึง 389 ล้านยูโร มากกว่าปี 2563 กว่า 369 ล้านยูโร
โดยมียอดขายในปีที่แล้วซึ่งสูงถึง 2.845 พันล้านยูโรจากความต้องการด้านการออกแบบเฉพาะตัวและโมเดลที่หลากหลาย อาทิ รุ่น Speed, Mulliner และ Hybrid ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อรถยนต์หรูหนึ่งคันเพิ่มขึ้นกว่า 8% ในปี 2020 และส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 13.7%
เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศยอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกกว่า 14,659 คัน ในปี 2564 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 31% จากสถิติปี 2563 มากไปกว่านั้น ลูกค้ายังคงให้ความสนใจในรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอดสั่งซื้อสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงต้นปี 2565
ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสนใจของลูกค้าที่มีต่อรถยนต์หรูรุ่นใหม่ล่าสุดและกลยุทธ์ Beyond100 ของเบนท์ลีย์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ความคิดริเริ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการด้านลงทุนระยะยาวกว่า 10 ปี ณ โรงงาน เมืองครูว์ มูลค่ากว่า 3 พันล้านยูโร ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ โดยบริษัทฯ วางแผนที่จะเปิดตัวอัครยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นใหม่ทุกปีเป็นเวลาห้าปีนับตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไปเพื่อตอบรับกระแสความต้องการของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
Adrian Hallmark ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวถึงผลประกอบการที่น่าประทับใจนี้ว่า “ผลลัพธ์เหล่านี้ถือเป็นความสำเร็จท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ในขณะที่เรากำลังผลักดันกลยุทธ์ Beyond100 เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573”
Jan-Henrik Lafrentz คณะกรรมการฝ่ายการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวเสริมว่า “ความแข็งแกร่งของแบรนด์เป็นกุญแจสำคัญสำหรับผลประกอบการของเบนท์ลีย์ในปี 2564 ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่อย่าง Bentayga Hybrid ซึ่งช่วยเพิ่มผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 389 ล้านยูโร และความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับรถยนต์รุ่นไฮบริดจากการสนับสนุนด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนกว่า 3 พันล้านยูโร ณ โรงงาน เมืองครูว์ ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะยังคงเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูที่ยั่งยืนชั้นแนวหน้า”
ผลประกอบการช่วง 10 ปี:
ปี | ยอดส่งมอบรถยนต์ | รายได้ (ยูโร) | ผลกำไร (ยูโร) |
2564 | 14,659 | 2,845 ล้าน | 389 ล้าน |
2563 | 11,206 | 2,049 ล้าน | 20 ล้าน |
2562 | 11,006 | 2,092 ล้าน | 65 ล้าน |
2561 | 10,494 | 1,548 ล้าน | -288 ล้าน |
2560 | 11,089 | 1,843 ล้าน | 55 ล้าน |
2559 | 11,023 | 2,031.1 ล้าน | 112.1 ล้าน |
2558 | 10,100 | 1,935.9 ล้าน | 110.4 ล้าน |
2557 | 11,020 | 1,746.4 ล้าน | 170 ล้าน* |
2556 | 10,120 | 1,678.7 ล้าน | 167.7 ล้าน |
2555 | 8,510 | 1,453.2 ล้าน | 100.5 ล้าน |
*สถิติผลกำไรที่ผ่านมา
เอเอเอสฯ มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดในการครอบครอง เบนท์ลีย์ เบนเทก้า ไฮบริด ใหม่ (New Bentayga Hybrid) กับราคาเริ่มต้นที่ 13.2 ล้านบาท และ เบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด (Flying Spur Hybrid) กับราคาเริ่มต้นที่ 14.2 ล้านบาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันจากโรงงานผู้ผลิตฯ พร้อมตัวเลือกสำหรับแผนต่อระยะเวลาการรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี และผู้ช่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม