บริดจสโตนเปิดตัว “BATTLECROSS E50”
ยางรถจักรยานยนต์สำหรับการแข่งขันเอ็นดูโร่
บริดจสโตนคอร์ปอเรชั่น (บริดจสโตน) ประกาศเปิดตัวยางรถจักรยานยนต์ “BATTLECROSS E50” สำหรับการแข่งขันเอ็นดูโร่ บริดจสโตนเปิดตัวยางรถจักรยานยนต์ BATTLECROSS E50 ด้วยยางหน้าหนึ่งขนาดและยางหลังสองขนาดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และจะเปิดตัวที่ภูมิภาคอื่น ๆ ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ซึ่งยางรถจักรยานยนต์ BATTLECROSS E50 ได้รับการรับรองมาตรฐาน DOT และเป็นไปตามข้อบังคับของ FIM
ด้วยการยกระดับประสบการณ์และเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่าของการพัฒนายางออฟโรด ยางรถจักรยานยนต์ BATTLECROSS E50 จากบริดจสโตนได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เกิดแรงกรุยสูงและมีสมรรถนะในการเข้าโค้งบนพื้นผิวถนนที่หลากหลายซึ่งจำเป็นสำหรับการแข่งขันเอ็นดูโร่ โดยใช้เทคโนโลยี Castle Block ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของบริดจสโตนเพื่อให้มั่นใจในการยึดเกาะถนนอย่างสูงสุดแม้บนพื้นถนนลื่น ขอบยางพิเศษที่เรียกว่าบังเกอร์ซึ่งอยู่ที่ฐานของบล็อกดอกยางช่วยให้ยางรถจักรยานยนต์ BATTLECROSS E50 เกิดแรงกรุยได้ดีบนสภาพพื้นผิวที่เป็นดินหรืออ่อนนุ่ม บริดจสโตนยังใช้การจำลองสามมิติเพื่อปรับรูปร่างและตำแหน่งของบล็อกดอกยางเพื่อทำให้สมรรถนะในการเข้าโค้งของยางล้อหน้าดีขึ้น และเพิ่มสมรรถนะแรงกรุยในยางล้อหลัง
บริดจสโตนมุ่งมั่นที่จะพัฒนายางรถจักรยานยนต์หลายประเภทรวมถึงยางออฟโรดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
คุณสมบัติของดอกยาง
- Castle Block (บล็อกนูน)
พื้นผิว เช่น หินหรือท่อนไม้ที่ฝังอยู่ในดิน และพื้นผิวที่เปียกฝนอาจมีความลื่นมาก คุณสมบัติของ Castle Block เป็นการรวมเอาดอกยางแบบบล็อกเสริมที่ยื่นออกมาจากดอกยางแบบบล็อกทั่วไป ซึ่งดอกยางแบบบล็อกเสริมนี้จะทำให้มีส่วนที่เป็นขอบเพิ่มขึ้นทั้งหมด และเสริมแรงดันบนพื้นผิวลื่นเพื่อการยึดเกาะที่ดียิ่งขึ้น
- บังเกอร์
บังเกอร์ช่วยให้ขอบที่ฐานของดอกยางแบบบล็อกสามารถออกแรงดึงได้แม้ในขณะที่ตัวบล็อกจมอยู่ใต้พื้นผิว
ประเภทของพื้นผิวถนนที่เหมาะสม
- ยาง BATTLECROSS E50 วางจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน 2560
- ยางที่ผ่านการรับรองจาก DOT (กรมการขนส่ง) สามารถใช้บนถนนสาธารณะได้
- ข้อกำหนดของสมาพันธ์รถจักรยานยนต์นานาชาติ (FIM): ข้อกำหนดเกี่ยวกับความลึกของร่องยาง เพื่อป้องกันตัวยางขุดหน้าดินมากเกินไป ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ (ความลึกของร่องยางล้อหลัง: ต้องไม่เกิน 13 มม.)