“กรุงศรี ออโต้” ประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

พร้อมเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าในเชิงรุกต่อเนื่อง

“กรุงศรี ออโต้” ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจร เครือธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ พร้อมเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าในเชิงรุกต่อเนื่อง และเปิดช่องทางยื่นความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือผ่านทางเว็บไซต์เพื่อความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรี ออโต้ ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อยานยนต์ทุกประเภทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ตามมาตรการระยะที่หนึ่ง ระยะที่สอง และเมื่อสิ้นสุดโครงการพักชำระหนี้ ยังคงให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องตามสภาพการณ์และความจำเป็นเป็นรายกรณีหลังจากเห็นแนวโน้มผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และการระบาดระลอกใหม่เริ่มส่งผลกระทบในวงกว้าง เราได้ดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าในเชิงรุกเพื่อให้พักชำระหนี้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่เสี่ยงทันที”

“ล่าสุด หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศขยายเวลามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ กรุงศรี ออโต้ ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยการปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการลดค่างวดผ่อนชำระ สูงสุด 30% ของค่างวดเดิม และให้การช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐบาล ด้วยการให้พักชำระค่างวดสูงสุด 3 เดือน ครอบคลุมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย) และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (พักชำระเฉพาะเงินต้น)” นางกฤติยา กล่าวเสริม

นอกจากนี้ กรุงศรี ออโต้ ยังได้เตรียมความพร้อมด้านระบบให้รองรับการช่วยเหลือลูกค้าอย่างทันท่วงที โดยเปิดให้ลูกค้าสามารถยื่นความประสงค์ผ่านทางเว็บไซต์  https://service.krungsriauto.com:8443/eform/kapakpon-cv19/  และยังคงสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Krungsri Auto Call Center 02-740-7400 กด 3 หรือ กด 5 และสาขากรุงศรี ออโต้ ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

“สำหรับลูกค้ารายอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน กรุงศรี ออโต้ พร้อมให้ความช่วยเหลือตามสภาพการณ์และความจำเป็นเป็นรายกรณี ตามแนวทางการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) ที่เรายึดถือมาโดยตลอด” นางกฤติยา กล่าวปิดท้าย