อาวดี้ ประเทศไทย ย้ำชัดนโยบายเติบโตอย่างยั่งยืน
เผยศักราชใหม่ รุกกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์เข้ม เน้นพัฒนาและเลือกรถยนต์อาวดี้รุ่นที่เหมาะสมกับประเทศไทยเป็นหัวใจสำคัญ
อาวดี้ ประเทศไทย โดยบริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด เดินหน้ารุกตลาด ปี 2563 เต็มที่ เผยกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ คือกลยุทธ์หลักในการบุกตลาดปีนี้ เน้นให้ความสำคัญกับการคัดเลือกและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับประเทศไทยเป็นหัวใจสำคัญ มั่นใจสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้กับลูกค้า อีกทั้งยังเป็นการขยายโอกาสทางการตลาดได้อย่างยั่งยืน เผยเบื้องหลังการทำงานสุดหิน เข้มข้นทุกกระบวนการ ภายใต้การสนับสนุนของ AUDI AG กว่าจะเลือกรถยนต์แต่ละรุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ส่งผลทำให้ทุกรุ่นตอบสนองลูกค้า และการใช้งานในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าสูงสุด ดังนั้น หากรถยนต์อาวดี้ที่ อาวดี้ ประเทศไทย ไม่ได้เป็นผู้นำเข้าและไม่ใช่เสปคของประเทศไทย จะไม่สามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการอาวดี้อย่างเป็นทางการได้ และไม่เข้าข่ายในการรับประกันสินค้าใดๆทั้งสิ้น
นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการเติบโตของลูกค้าที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นใน ปี 2563 และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า บริษัทฯ ยังเน้นการทำงานเชิงรุก ทั้งด้านการขายและการบริการหลังการขาย ซึ่งในส่วนของการขยายตลาด บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับ กลยุทธ์การคัดเลือกและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้นของทีมคัดเลือกและพัฒนาผลิตภัณฑ์กับทีมงานของ AUDI AG อย่างใกล้ชิด เพื่อให้รถยนต์แต่ละรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายมีสเปคที่เหมาะสม ตอบโจทย์ลูกค้า และสามารถใช้งานในประเทศไทย ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศ, มาตรฐานไอเสียและมาตรฐานน้ำมันที่แตกต่างจากยุโรปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานสากล และข้อกำหนดทางมาตรฐานยานยนต์ มาตรฐานสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของประเทศไทย
“ในการพิจารณาคัดเลือก และกำหนดสเปครถแต่รุ่นที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย นอกจากการพิจารณาเรื่องโอกาสทางการตลาด สิ่งสำคัญ คือ การใช้งานได้จริงในประเทศไทย รวมถึงการรองรับการบริการหลังการขาย ซึ่งมีความสำคัญมาก ก่อนที่เราจะนำรถยนต์อาวดี้แต่ละรุ่นเข้ามา เราทำงานกันอย่างหนัก เดินทางไปประชุมร่วมกับ AUDI AG เพื่อทดสอบทั้งสมรรถนะ และคัดเลือกสเปคที่ตอบโจทย์ความต้องการและความเหมาะสมกับสภาพถนน สภาพภูมิอากาศ ข้อกำหนดสิ่งแวดล้อม รวมถึงมาตรฐานน้ำมันต่างๆ ให้มากที่สุด ในหลายรุ่นที่มีจำหน่ายในยุโรป และอยู่ในความสนใจของลูกค้าประเทศไทย แต่ด้วยข้อกำหนดมาตรฐานไอเสียต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบตามมา รวมถึงสร้างภาระให้ลูกค้าในระยะยาว เช่น ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้ามาเปลี่ยนอะไหล่อย่างต่อเนื่องและไม่สามารถแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนได้ อันมีผลต่อความพึงพอใจในการบริการหลังการขาย เราก็พิจารณาที่จะไม่นำเข้ามาจำหน่าย จนกว่าจะมีการทดสอบและบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ามีความเหมาะสมกับสภาพอากาศและถนนในประเทศไทย”
“ตัวอย่างรายละเอียดการพิจารณา ที่นำไปสู่การทำงาน เพื่อปรับจูนสเปคก่อนนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ อาทิ รุ่น Q5 หรือ Q7 เครื่องยนต์ดีเซล ที่ อาวดี้ ประเทศไทย นำมาจำหน่าย จะถูกปรับจูนอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้ใช้น้ำมันดีเซลพรีเมียม มาตรฐานยูโร 5 ในประเทศไทยได้ โดยรถยนต์รุ่นดังกล่าว ไม่ต้องมีการเติมสาร AdBlue เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 6 อันเข้มงวดของยุโรป นอกจากนี้อุปกรณ์หลายๆชิ้น อาทิเช่น พัดลมไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ หม้อน้ำ อะไหล่ที่ทำจากยาง กล่องสมองเครื่องยนต์ ที่มีความสำคัญจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับภูมิอากาศของประเทศไทยก่อน มิฉะนั้นจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของรถยนต์ รวมถึงความปลอดภัย อีกทั้งยังมีเรื่องความแตกต่างของอะไหล่บางรายการ ที่รถเสปคยุโรป ไม่สามารถใช้ร่วมกันกับรถที่ อาวดี้ ประเทศไทย นำมาจำหน่ายได้อีกด้วย”
จากกระบวนการคัดเลือกและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้มข้น และมีมาตรฐานสูง ทำให้การดำเนินงานตลอด 3 ปี ผ่านมา ลูกค้าทุกรายที่ซื้อรถยนต์จาก อาวดี้ ประเทศไทย มีความพึงพอใจอย่างมาก โดยไม่มีข้อร้องเรียนด้านความเหมาะสมของระบบเครื่องยนต์ในการใช้งานในประเทศไทย ตรงกันข้ามลูกค้ามีความมั่นใจและบอกต่อ รวมถึงมีความพึงพอใจต่อการบริการหลังการขายทั้งการบริการและอะไหล่ ซึ่งอาวดี้ให้ความสำคัญมาก โดยมีโปรแกรมการพัฒนาบุคลากรทั้งวิศวกรและช่างเทคนิค ร่วมกับ Audi AG อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการลงทุนนำเครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยี ที่ทันสมัยมาใช้ในแต่ละศูนย์บริการ รองรับการซ่อมบำรุงรถยนต์อาวดี้แต่ละรุ่นให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
เมื่อปี 2562 อาวดี้ ประเทศไทย ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมบริการหลังการขายและการฝึกอบรมระดับภูมิภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก “Audi Silver Arrows Awards จาก Audi AG ถึง 3 รางวัล และครองตำแหน่งอันดับ 1 ในภูมิภาคอีกครั้ง สะท้อนถึงความเป็นเลิศของคุณภาพบริการหลังการขายและการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบาย Customer Centricity เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สำหรับปีนี้ กรรมการผู้จัดการ อาวดี้ ประเทศไทย ย้ำว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐาน คุณภาพ การบริการหลังการขายซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ
สำหรับการให้บริการลูกค้าอาวดี้ที่ซื้อรถจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั้งในอดีตและปัจจุบัน กรรมการผู้จัดการ อาวดี้ ประเทศไทย กล่าวว่า ลูกค้าสามารถนำรถมาใช้บริการหลังการขายของ อาวดี้ ประเทศไทย ได้ทุกโชว์รูม โดยไม่มีค่าลงทะเบียนแรกเข้า อย่างไรก็ตาม อาวดี้ ประเทศไทย ไม่สามารถให้บริการรถยนต์อาวดี้ ที่นำเข้าโดยผู้จำหน่ายอิสระ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เนื่องจากรถยนต์ที่นำเข้ามาไม่ได้มีการปรับจูนให้เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และยังมีความแตกต่างในรายละเอียดของชนิดน้ำมัน ที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของรถยนต์ รวมถึงความปลอดภัยด้วย หากแต่รถยนต์นำเข้าอิสระที่นำเข้ามาก่อนปี 2561 ยังคงนำเข้ามารับบริการได้ โดยมีค่าลงทะเบียนแรกเข้า ตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น
รถยนต์อาวดี้ที่นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระก่อนหน้าวันที่ 1 มกราคม 2561 ที่ไม่ใช่เครื่องยนต์ดีเซลมาตรฐานยูโร 6 นั้น สามารถมารับบริการได้ โดยมีค่าลงทะเบียนแรกเข้าตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท ตามแต่ละรุ่นโดยมีรายละเอียดดังนี้
- ค่าลงทะเบียน20,000 บาท สำหรับรถรุ่น A1, A2, A3, A4, Q2, Q3 แต่ไม่นับรวมรุ่น S และ RS
- ค่าลงทะเบียน50,000 บาท สำหรับรุ่น A5, A6, A7, Q4, Q5, TT แต่ไม่นับรวมรุ่น S และ RS
- ค่าลงทะเบียน100,000 บาท สำหรับรุ่น Q7, A8, Q8, R8 และรุ่น S และ RS ทุกรุ่น
รถยนต์อาวดี้ทุกรุ่นเป็นรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศ ลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ลูกค้าอาวดี้ทุกท่านสามารถนำรถเข้ารับบริการหลังการขายได้ที่ศูนย์บริการทุกสาขา ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. วันจันทร์ถึงวันเสาร์ (สาขาเชียงใหม่เปิดบริการ 9:00 – 18:00) หรือโทรนัดหมายได้ที่
Audi Centre Thailand 02 765 8888 Audi New Petchburi 02 023 4888