เอเชียนทัวร์ จับมือ กรังด์ปรีซ์ แข่งขันวงสวิงรายการยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน
เล็งสนาม กรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ เป็นสังเวียนหวด ช่วงต้นปีหน้านี้
ห้องประชุม บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) มร.โช มินน์ ตันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เอเชียนทัวร์ ได้ร่วมลงนามเอ็มโอยู (MOU) กับ ดร.ปราจิน เอี่ยมลําเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) เพื่อร่วมจัดศึกกอล์ฟรายการยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน ณ สนาม กรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ ในช่วงต้นปีหน้านี้ โดยมี นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการด้านการตลาดและการขาย, นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการด้านพัฒนาธุรกิจ, นายพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา กรรมการบริหาร/ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านผลิตสื่อ และ นายจิตติศักดิ์ แต้มประเสริฐ กรรมการกฎและกติกา เอเชียนทัวร์ ร่วมเป็นสักขีพยาน
มร.โช มินน์ ตันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เอเชียนทัวร์ กล่าวว่า ทัวร์นาเมนท์นี้นับเป็น รายการใหม่เอี่ยมของเอเชี่ยนทัวร์ โดยจะเป็น 1 ใน 3 รายการของ เอเชียนทัวร์ ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ด้วยการที่ เอเชียนทัวร์ นับเป็น 1 ใน 6 ของทัวร์ ที่ได้รับการยอมรับในระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้สามารถเก็บคะแนน เวิร์ล แรงกิ้ง ได้ ดังนั้นจะสังเกตได้ว่า มีหลายๆ ประเทศ ที่ต้องการเอาทัวร์นาเมนต์ของเอเชียนทัวร์เข้าไปแข่งขัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักกอล์ฟในประเทศของตัวเอง มีโอกาสเก็บคะแนนสะสมได้มากขึ้น เพื่อใช้ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆ รวมถึง โอลิมปิก เกมส์ อีกด้วย ดังนั้นการที่ บมจ.กรังด์ปรีซ์ ให้ความสนใจในการจัดแข่งขันกอล์ฟในครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสที่สำคัญของนักกอล์ฟไทย จะได้ลงเล่นกอล์ฟในรายการใหญ่ๆ และมีโอกาสคว้าทัวร์คาร์ดสำหรับเอเชียนทัวร์ในปีหน้าอีกด้วย โดยการแข่งขันกอล์ฟรายการนี้ นอกจากจะเป็นเวทีประลองของโปรกอล์ฟชั้นแนวหน้าจากประเทศไทยแล้ว ยังมีโปรกอล์ฟชั้นนำจากเอเชียมาร่วมการแข่งขันอีกมากมายด้วย
ด้าน ดร.ปราจิน เอี่ยมลําเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรังด์ปรีซ์ ได้จัดงานมอเตอร์โชว์มาอย่างยาวนานถึง 40 ปีแล้ว ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นงานที่ได้มาตรฐานชั้นนำในระดับโลก ซึ่งในเอเชียนั้น เราถือเป็นอันดับที่ 1 จะเป็นรองก็เพียงแค่ประเทศจีนเท่านั้น และในโอกาสที่ปีหน้าจะก้าวสู่ปีที่ 50 ของบริษัทฯ เราจึงอยากที่จะทำให้คนทั่วโลก ได้รู้จักบริษัทฯ ของเรา รู้จักสนามกอล์ฟของเรา เพื่อเป็นการยกระดับในการก้าวต่อไปข้างหน้าอีกขั้นหนึ่ง เราจึงตัดสินใจที่จะจัดการแข่งขันรายการใหญ่ๆ ขึ้นมารายการหนึ่ง ที่นอกจากจะได้โปรโมทประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศให้ยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งเสริมกีฬากอล์ฟนี้ จะแสดงถึงศักยภาพของ จ.กาญจนบุรี ที่สามารถรองรับความต้องการของคนรักกอล์ฟ ที่แสวงหาสนามกอล์ฟที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งคาดว่า การแข่งขันรายการนี้ จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวของ จ.กาญจนบุรี ให้คึกคักได้มากยิ่งขึ้น โดยกอล์ฟรายการนี้ จะมีการแถลงข่าวถึงรายละเอียดของการแข่งขันอย่างเป็นทางการต่อไปเร็วๆ นี้