“เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง” เตรียมระเบิดความมันส์ สนามปิดฤดูกาลที่ประเทศไทย
สังเวียนใหญ่ตัดสินเจ้าความเร็วแห่งทวีป 18-20 พ.ย.นี้
สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เตรียมเปิดแทร็กระดับโลกรองรับแม็ตช์ตัดสินแชมป์ รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 สุดสัปดาห์นี้ ขณะทัพนักบิดไทยลุ้นล่าชัยชนะโฮมเรซ พร้อมสร้างโอกาสคว้าแชมป์เอเชียในบ้านเกิดทุกรุ่น ล่าสุดขบวนคอนเทนเนอร์อุปกรณ์การแข่งขันเดินทางถึง บุรีรัมย์ แล้ว ทีมงานเร่งติดตั้งก่อนบู๊เดือดต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 เตรียมระเบิดความมันส์ 2 เรซสุดท้าย เพื่อตัดสินแชมป์ประจำฤดูกาลระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายนนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ล่าสุด ขบวนตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งอุปกรณ์การแข่งขัน และรถแข่งได้เดินทางถึง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่สนามต้อนรับและเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดเผยว่า “ปีนีถือเป็นปีที่วงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งในระดับโลกที่ สนามช้างฯ ก็ได้รองรับการแข่งขัน โมโตจีพี ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมไปทั่วโลก และล่าสุดเราเพิ่งปิดฉากเกมระดับประเทศอย่าง โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ 2022 ด้วยการขับเคี่ยวอย่างเข้มข้น ซึ่งนับเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์การลุ้นแชมป์เลยก็ว่าได้”
“โดยสุดสัปดาห์นี้ เราจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเรซตัดสินแชมป์ของ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้ง แน่นอนว่าบรรยากาศต่างๆ จะเต็มไปด้วยความเข้มข้นและสนุกสุดมันส์เช่นเคยครับ เพราะนักแข่งไทยยังคงมีลุ้นแชมป์เอเชียทุกรุ่น และมีโอกาสอย่างมากที่จะสร้างประวัติศาสตร์ในโฮมเรซ ผมอยากชวนแฟนๆ ชาวไทยให้เดินทางมาให้กำลังใจนักแข่งไทยที่สนามกันครับ” นายตนัยศิริ เผย
สถานการณ์ลุ้นแชมป์เอเชียในฤดูกาลนี้เข้มข้นอย่างมาก โดยในรุ่น เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) นำโดย ฮารูกิ โนงูชิ นักบิดญี่ปุ่นจาก เอสดีจี มอเตอร์สปอร์ต ฮาร์ค-โปร พีเอช. รั้งจ่าฝูง เก็บไปทั้งสิ้น 154 คะแนน ทว่าจากอาการบาดเจ็บทำให้นักบิดจากแดนอาทิตย์อุทัยจะพลาดการลงแข่งขันสนามสุดท้าย ส่งผลให้คู่แข่งชาวมาเลเซียนอย่าง ซัควาน ไซดี้ จาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ ซึ่งตามหลังอยู่ 19 คะแนน มีลุ้นขยับขึ้นคว้าแชมป์ประจำฤดูกาลนี้อย่างมาก
ขณะที่นักบิดไทยอย่าง “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 3 ร่วมกันกับ คาสม่า แดเนียล คาสมายูดิน นักบิดชาวมาเลเซียนจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม วิท เอเชียน ยังคงมีลุ้นเป็นตัวแปรสำคัญเช่นกัน โดยมีคะแนนตามหลังจ่าฝูง 39 คะแนน ส่วน “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ เพื่อนร่วมทีมรั้งอันดับ 5 ตามหลัง 42 คะแนน ยังมีลุ้นเช่นกัน ด้าน “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ นักบิดไทยอีกคนจาก แอสเตโม เอสไอ เรซซิ่ง วิท ไทย ฮอนด้า รั้งอันดับ 10 ตามหลัง 101 คะแนน
การขับเคี่ยวในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี สถานการณ์ของนักบิดไทยยังคงเปิดกว้างอย่างมาก โดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งอันดับ 3 ตามหลังจ่าฝูงอย่าง เฮลมี อัซมาน นักบิดมาเลเซียนจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม 36 คะแนน นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งคนสำคัญอย่าง แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ ชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ที่รั้งรองจ่าฝูง ตามหลัง 32 คะแนน
ด้าน “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ อดีตแชมป์เอเชียจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 10 ตามหลังจ่าฝูง 92 คะแนน ตามด้วยนักบิดไทยอีกคนอย่าง “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในอันดับ 11 ตามหลังหัวแถว 102 คะแนน และอันดับ 12 กรดนัย เกิดแก้ว จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ตามหลัง 107 คะแนน
ส่วนในรุ่นเล็กอย่าง เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี นักบิดไทยหนึ่งเดียวอย่าง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ รั้งอันดับ 7 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 74 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงอย่าง แอสดี้ มูฮัมหมัด ฟัดลี นักบิดอินโดนีเซียจาก โมตุล สไนเปอร์ แมนวล เทค เรซซิ่ง ทีม ถึง 47 คะแนน แต่ในทางทฤษฎีก็ยังคงมีโอกาสพลิกขึ้นมาเป็นแชมป์เอเชียในฤดูกาลนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ นักบิดจอมเก๋าชาวไทยอย่าง “เอ้” วรพงษ์ มาาหวล ก็เตรียมฉลองแชมป์เอเชียในโฮมเรซกับการแข่งขันในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมคเรซ โดยรั้งจ่าฝูงก่อนแข่ง 2 เรซสุดท้าย มีทั้งสิ้น 126 คะแนน เหนือคู่แข่งอันดับ 2 อย่าง เดคกี้ ติอาโม อัลดี้ ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียอยู่ 32 คะแนน ขณะที่ดาวรุ่งชาวไทยอย่าง วัชรินทร์ ทับทิมอ่อน รั้งอันดับ 3 ตามหลังถึง 47 คะแนน
สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2022 สนามสุดท้าย จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมอย่างเป็นทางการ 3 ครั้งในวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจะควอลิฟายในเช้าวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายนนี้ และดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเรซแรกในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน จากนั้นจะแข่งขันเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ แฟนความเร็วชาวไทยสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://www.allticket.com/event/AsiaRoad2022R5
โดยบัตรวีไอพี 1 วัน 1,000 บาทและ 2 วัน 1,500 บาท ส่วนบัตรแกรนด์สแตนด์ 1 วัน 200 บาทและ 2 วัน 300 บาท พิเศษ! รับส่วนลดบัตรแกรนด์สแตนด์ 25% จากผู้สนับสนุนสูงสุด 4 ที่นั่งต่อ 1 ผลิตภัณฑ์ (จำนวนจำกัด) ยกเว้นเครื่องดื่มตราช้างและผลิตภัณฑ์ซีพี รับสิทธิ์สูงสุด 1 ที่นั่งต่อ 1 ผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 พฤศจิกายน 2565 เฉพาะจุดจำหน่ายเท่านั้น
หรือ รับชมออนไลน์ทางเพจ Chang Circuit Buriram เรซที่ 1 วันเสาร์ที่ 19 พ.ย. 2565 ตั้งแต่เวลา 12.35 น. เป็นต้นไป, เรซที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. 2565 ตั้งแต่เวลา 12.35 น. เป็นต้นไป