“ไทยยามาฮ่ามอเตอร์” ฉลองครบรอบ 60 ปี แต่งตั้งทีมผู้บริหารใหม่ พร้อมรุกหนักตลาดรถจักรยานยนต์ปี 2567

ตอกย้ำ Premium Brand มัดใจลูกค้า เปิดตัว 5 รุ่นใหม่ ชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.4%


บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ฉลองครบรอบ 60 ปี แห่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในประเทศไทย เปิดแคมเปญ “ดีใจ…ที่ได้เจอ” สานความสัมพันธ์มัดใจผู้บริโภคด้วยคุณภาพของสินค้า ตอกย้ำ “ยามาฮ่า สินค้าคุณภาพ” พร้อมส่ง YAMAHA FINO Final Edition ดีไซน์พิเศษ จำนวนจำกัด เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปี พร้อมกันนี้ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ประกาศเดินหน้ารุกตลาดรถจักรยานยนต์ไทยในปี 2567 ตั้งเป้าโตขึ้น 4% ชิงตลาดรวม 16.4% จัดเต็มกิจกรรมส่งเสริมการขายครบทุกเซกเมนต์ลุยทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย สร้างความแข็งแกร่งต่อเนื่องสู่ความเป็น Premium Brand เพื่อสร้าง Lifetime Customer มัดใจลูกค้าด้วย Best Customer Experience ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในทุกๆ ช่องทาง


นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงการมุ่งสร้างตราสินค้า YAMAHA สู่สังคมไทยในปี 2567 ว่า “ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณท่านสื่อมวลชน พันธมิตรทางการค้า ร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า และลูกค้ารถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทุกท่าน สำหรับการให้การสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่งในปี 2566 ที่ผ่านมา และในปีนี้เป็นโอกาสอันดีที่ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ของเรายืนหยัดในการผลิตสินค้าคุณภาพ และอยู่คู่กับชาวไทยมา 60 ปี จากจุดเริ่มต้นธุรกิจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในประเทศไทย เริ่มจาก บริษัท สยามยามาฮ่า จำกัด ในปี พ.ศ. 2507 และได้ส่งต่อภาพลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าด้วยสโลแกน “ยามาฮ่าสินค้าคุณภาพ” ที่อยู่คู่สังคมไทยมาจนถึงปัจจุบัน


โดยในปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าต่อยอดความสำเร็จสู่ความเป็นตราสินค้าคู่สังคมไทยในด้านต่างๆ ดังนี้

• นวัตกรรมสินค้า และเทคโนโลยี: ส่งผ่านความสำเร็จสู่ความเป็นผู้นำยอดขายกลุ่มรถสปอร์ตมาอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้นำยอดขายกลุ่มรถออโตเมติกแฟชั่น ซึ่งส่งผลให้ YAMAHA GRAND FILANO HYBRID ได้รับการตอบรับที่ดีจากชาวไทย ด้วยยอดจำหน่ายรวมมากถึง 1 แสนคันในปี 2566
• ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า: ส่งผ่านความประทับใจจากอดีตถึงปัจจุบันกับการริเริ่มเปิดร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่ทันสมัยด้วยรูปแบบโชว์รูมป้ายแดงสู่ YAMAHA SQUARE มาจนถึง NEW YAMAHA SQUARE ในปัจจุบัน ที่มีการปรับปรุงไปแล้วกว่า 179 แห่ง ครอบคลุม 69 จังหวัดทั่วประเทศ โดยในปีนี้มีเป้าหมายในการปรับปรุงโชว์รูม และเพิ่มโชว์รูมใหม่ 80 แห่ง ยกระดับพัฒนาบริการหลังการขายระดับ Pro Care สู่ความเป็น Premium Service และขยายไปถึง NEW YAMAHA SQUARE ที่ยังคงรักษามาตรฐานของการบริการครองใจผู้ใช้รถยามาฮ่า
• พัฒนามอเตอร์สปอร์ตไทยสู่ระดับโลก: ความสำเร็จของการสร้างทีมจากคนไทยไปสู่เวทีระดับโลกกับโปรเจค Road To The World Class โดยในปีที่ผ่านมานักแข่งจากสังกัด YAMAHA THAILAND RACING TEAM ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยจากรายการ R3 bLU cRU European 2023 และนักแข่งดาวรุ่งไทยอย่าง “ไอเดีย กฤตภัทร เขื่อนคำ” ในการลุยศึก Moto3 สนามประเทศไทย พร้อมทำผลงานได้ดีที่สุดในนักแข่งไทยที่ลงทำการแข่งขัน และรายการ World SuperBike Championship 2023 ในรุ่น World SuperSport 600cc กับผลงานของ “ตี อนุภาพ ซามูล” และ “แสตมป์ อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์” 2 นักแข่งไทยที่ออกไปสร้างผลงานในระดับโลก เป็นที่ยอมรับในทวีปยุโรป และความแข็งแกร่งในการแข่งขัน MotoGP กับการเซ็นสัญญาตำนานนักแข่งแชมป์โลก 9 สมัย “วาเลนติโน่ รอสซี่” ในการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และการสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจของ “ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร่” ดาวรุ่งจากฝรั่งเศสเจ้าของแชมป์โลก 1 สมัย
• เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ลูกค้า: ความสำเร็จกับการเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของลูกค้าร่วมกับตราสินค้ายามาฮ่า ในเรื่องการสร้างความสุข การสร้างอาชีพ และการร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกันปลูกป่าเพื่อมุ่งไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ การร่วมทำ CSR ผ่านการผลิต และจำหน่ายเสื้อ YAMAHA Jersey Special Edition พร้อมมอบเงินบริจาคให้กับมูลนิธิศัลย์ฯ สร้างข้อต่อชีวิต การร่วมกับกลุ่มลูกค้ามอบหมวกนิรภัยให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงการร่วมบริจาคเงิน และสิ่งของให้กับมูลนิธิต่างๆ

และนี่คือส่วนผสมของความสำเร็จของยามาฮ่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ยามาฮ่าเป็นตราสินค้าที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนานถึง 60 ปี และในโอกาสครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ เราจึงส่ง YAMAHA FINO Final Edition ดีไซน์พิเศษ จำนวนจำกัด รถออโตเมติกที่อยู่คู่กับชาวไทยมาอย่างยาวนาน เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าว


นอกจากนี้ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ยังมีการสื่อสารแคมเปญครบรอบ 60 ปี ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ผ่านแนวคิด “ดีใจ…ที่ได้เจอ” เพื่อเป็นการขอบคุณความไว้วางใจจากผู้บริโภคชาวไทยตลอด 60 ปี อีกทั้งยังมีกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการรวมตัวของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าในประเทศไทย การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และบริการ ที่ร้านผู้จำหน่ายยามาฮ่าทั่วประเทศ ขอให้ทุกท่านติดตามความยิ่งใหญ่ของกิจกรรมต่างๆ จากไทยยามาฮ่ามอเตอร์ต่อไปในปี 2567 นี้ครับ”

สำหรับปี 2566 ที่ผ่านมา ตลาดรวมยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยทั้งหมดอยู่ที่ 1,877,919 คัน ถือว่าเติบโตขึ้นจากการคาดการณ์ในปี 2565 อยู่เล็กน้อย ส่วนยามาฮ่ามียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 269,682 คัน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 14.4% ของตลาดรวมรถจักรยานยนต์ไทย


ในปี 2567 นี้ แม้การคาดการณ์ตลาดรวมรถจักรยานยนต์ภายในประเทศจะลดลงมาถึง 9% โดยมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ประมาณ 1.71 ล้านคัน ซึ่งมีผลมาจากปัจจัยเสี่ยงของปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ปัญหาหนี้ครัวเรือน และหนี้เสียที่สูงขึ้น รวมถึงกฎหมายควบคุมดอกเบี้ยเช่าซื้อที่จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ส่วนปัจจัยบวกเกิดจากภาพรวมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การลงทุนเพิ่มจากภาครัฐ และนโยบายการควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิง


อย่างไรก็ตาม ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ยังคงมุ่งมั่น เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตราสินค้ายามาฮ่าในประเทศไทย โดยในปีนี้ ยามาฮ่าคาดการณ์ว่าเราจะเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีก 4% และจะครองส่วนแบ่งการตลาดที่ 16.4% ของตลาดรวมในประเทศ โดยมีเป้าหมายการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าที่ 280,000 คัน ผ่านการสานต่อการตลาดแบบเชิงรุกของยามาฮ่า


โดยหลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มร.โยชิฮิโระ ฮิดากะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ได้แต่งตั้ง นายพงศธร เอื้อมงคลชัย ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ทั้งนี้ ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ยังได้เสริมทัพ และแต่งตั้งคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมวางแผนกลยุทธ์ทางด้านการขายและการตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยมากขึ้น ดังนี้

• นายภาณุพล กิตติคำรณ ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า
• นายอุกฤษณ์ ภาควิวรรธ ได้รับการแต่งตั้งเป็น รองผู้จัดการใหญ่ด้านวางแผนการค้า และการตลาด
• นายกัมพล พรสูงส่ง ได้รับการแต่งตั้งเป็น รองผู้จัดการใหญ่ด้านขาย บริการ และอะไหล่

โดยคณะผู้บริหารระดับสูงทั้ง 3 ท่าน จะร่วมเดินหน้าวางแผนการขายและการตลาด เพื่อลุยศึกตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2567 ทั้งในด้านการสื่อสาร และนำเสนอสินค้าให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า พร้อมเน้นย้ำในความสำคัญของการบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความแข็งแกร่งของตราสินค้า สร้างความเป็นสินค้าพรีเมี่ยม และการสร้าง Lifetime Customer


นายภาณุพล กิตติคำรณ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์รูปแบบการตลาดในปี 2567 ว่า “สำหรับแผน และรูปแบบการตลาดเพื่อมัดใจกลุ่มลูกค้าของยามาฮ่าในปีนี้ เรามีแนวทางการเสริมสร้างความแข็งแกร่งสู่ความเป็น Premium Brand กับนโยบายการขาย และการตลาดเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการส่งเสริมการขาย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ประทับใจให้กับลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี 2567

พร้อมกันนี้เรายังมีการสร้างแบรนด์ให้เป็นจุดแข็ง ด้วยปรัชญา KANDO เพื่อมุ่งสู่ความเป็น Lifetime Customer With YAMAHA as The “PREMIUM BRAND” พร้อมด้วย 6 นโยบายการตลาดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดดังนี้


1. ONE TEAM: สร้างทีมที่แข็งแกร่งระหว่าง ยามาฮ่า ร้านผู้จำหน่าย และบริษัทเช่าซื้อ
2. เสริมสร้างการตลาดทั้ง Online และ On Ground: มุ่งเน้นเข้าหาพื้นที่ต่างๆ ที่มีศักยภาพใหม่ๆ ทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาร้านผู้จำหน่ายในการทำการตลาดในรูปแบบ Online เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
3. เพิ่มความแข็งแกร่งในเครือข่ายร้านผู้จำหน่าย: พัฒนา NEW YAMAHA SQUARE และยกระดับมาตรฐาน และบริการเพิ่มขึ้นอีก 80 แห่ง
4. ส่งมอบประสบการณ์ PREMIUM EXPERIENCE ให้ลูกค้า: อัดแน่นด้วยหลักสูตรพัฒนา และอบรมแก่พนักงานร้านผู้จำหน่าย YAMAHA SQUARE และร้านสาขา ด้วย 4 หลักสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญจากยามาฮ่า เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การขาย และการบริการระดับพรีเมี่ยมให้มัดใจลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่า
5. อัดแน่นด้วยการตลาดเฉพาะกลุ่ม Personalize Marketing: อัดแน่นด้วยกิจกรรมทางการตลาดโดยเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารถออโตเมติก กลุ่มลูกค้ารถครอบครัว และกลุ่มลูกค้ารถสปอร์ต ให้เหมาะกับภาพลักษณ์ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
6. เปิดตัวรถรุ่นใหม่ 5 รุ่น ครบทุกเซกเม้นต์: เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สามารถติดตามความเคลื่อนไหวผ่านสื่อของยามาฮ่าทุกช่องทาง และร้านผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั่วประเทศ

พร้อมด้วยการมุ่งเน้นพัฒนาเครือข่ายร้านผู้จำหน่ายด้วยความทันสมัย ด้วยการเพิ่มระบบต่างๆ ดังนี้

1. LEAD Management: พัฒนาระบบ Y-LEAD มัดใจลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์เพื่อการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
2. TYM Sales Consultant: ระบบช่วยเหลือผู้จำหน่ายในการส่งข้อมูล รวมถึงการเสริมสร้างในความเข้าใจกลไกตลาดรถจักรยานยนต์ด้วย Sales Application พร้อมสร้างทีมอบรมให้ความรู้แก่พนักงานของร้านผู้จำหน่าย เพื่อให้ลูกค้าได้รับ “Premium Experience”
3. สร้างความสะดวกให้กับลูกค้าในด้าน Service และ Spare Part ด้วย Service Booking: เพิ่มช่องทางในการเลือกช่วงเวลาในการเข้ารับบริการผ่าน YAMAHA Call Center / Fast Track เพิ่มปริมาณแท่นซ่อมสำหรับงานซ่อมที่ใช้เวลาน้อยเพื่อการบริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้น / Service Status Monitor อุ่นใจทุกครั้งที่เข้ารับบริการกับจอแสดงผลการซ่อม และสามารถประเมินเวลาในการซ่อมบำรุงได้อย่างแม่นยำ / Parts Pro Care อุ่นใจกับความพร้อมของอะไหล่เคลื่อนไหวเร็วกว่า 100 รายการ ที่มีการเติมอะไหล่ให้ผู้จำหน่ายอัตโนมัติเมื่อของหมด (Auto Fill Fast Moving Parts) ทำให้ร้านผู้จำหน่ายมีอะไหล่พร้อมบริการลูกค้าได้ตลอดเวลา โดยทั้งหมดเพื่อรองรับลูกค้าให้กลับเข้ามารับบริการที่ศูนย์บริการมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ ยามาฮ่ายังคงมอบความมั่นใจในสินค้าด้วยการกล้ารับประกันสินค้า 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ให้กับลูกค้า และสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในการรับประกันสินค้ามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ด้วยระยะเวลาการรับประกัน ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และสำหรับในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์ เรากล้าให้การรับประกัน 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง เพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินใจซื้อสินค้าเพื่อที่จะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม

ทั้งนี้ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ขอขอบพระคุณท่านสื่อมวลชนทุกๆ ท่านที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา โดยบริษัทฯ จะยังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และบริการที่ดี สร้างความมั่นใจสู่ความเป็น Premium Brand รวมทั้งเสริมสร้างกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการ และความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าทั่วประเทศ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านเป็นอย่างดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา