อีวี ไพรมัส ปลื้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าซิตี้ อีวี เติบโตรับกระแสคุ้มค่าและรักษ์โลก

สร้างมิติใหม่ในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ย้ำนโยบาลขยายตลาดต่อเนื่องทั้ง VOLT และ WULING

บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของไทย และผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ VOLT CITY EV และ Wuling Air EV แต่ผู้เดียวในประเทศไทย แจงตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กหรือ ซิตี้ อีวี กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพราะรถขนาดดังกล่าวตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายถูกใจลูกค้าที่อยากลองใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ในราคาที่จับต้องได้

นายพิทยา ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีวี ไพรมัส จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบบมัลติแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของไทย และผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ VOLT CITY EV และ Wuling Air EV แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่าภายหลังจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กทั้ง 2 แบรนด์ ปรากฎว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาด โดยล่าสุด ได้ส่งมอบรถ VOLT CITY EV ไปแล้วกว่า 1,000 คัน ในขณะที่ล่าสุดนี้ Wuling Air EV มียอดจองทะลุ 1,000 คันและส่งมอบไปแล้วมากกว่า 800 คัน

“หลังจากเปิดตัวทั้งสองแบรนด์นี้แล้ว เราได้รับการตอบจากตลาดอย่างมาก เพราะรถซิตี้ อีวี ทั้งสองรุ่น ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าในกลุ่มที่แตกต่างกัน โดย VOLT CITY EV เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้งานแบบเอนกประสงค์ ถือเป็นรถคู่บ้าน ในขณะที่ Wuling Air EV จะเป็นกลุ่มที่มีความต้องการใช้รถที่เป็นยานพาหนะรักษาสิ่งแวดล้อมที่สามารถใช้กับชีวิตประจำวันในเมืองทดแทนรถยนต์สันดาปภายโดยมีมีระยะการวิ่งไกลขึ้น ซึ่ง Wuling Air EV จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มนี้โดยตรงเพราะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง” นายพิทยา กล่าว

นายพิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่าจากราคาทั้งสองแบรนด์ อีวี ไพรมัส เชื่อมั่นว่า VOLT For Two จะได้รับการตอบรับจากตลาดมากขึ้นเพราะมีราคาเริ่มต้นเพียง 335,000 บาท จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าแบบเอนกประสงค์ในบ้าน ซึ่งลักษณะการใช้งาน จะมีความหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อจ่ายตลาด ช้อปปิ้ง ใช้รับส่งสมาชิกของบ้าน  โดยเน้นความประหยัด และ วิ่งคล่องตัว และ จอดง่าย ซึ่ง อีวี ไพรมัส จะเริ่มผลักดัน Volt For-Two ให้มากขึ้น หลังจากได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้า และ รถไม่เพียงพอต่อความต้องการ

นายพิทยา กล่าวย้ำว่ารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กทั้ง 2 แบรนด์ ขณะนี้สามารถจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกได้แล้ว และบริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายเตรียมความพร้อมให้เต็ม 100% ในการให้บริการหลังการขายสำหรับรถทั้งสองแบรนด์ โดยบริษัทฯ ได้จัดอบรมทีมช่างบริการหลังการขายให้พร้อมบริการลูกค้าทั้งดีลเลอร์ 32 รายทั่วประเทศ

“ผม อีวี ไพรมัส ให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายอย่างมาก เราจะให้การดูแลลูกค้าของทั้งสอง แบรนด์อย่างดี และทุกวันนี้ดีลเลอร์ทั้ง 32 แห่ง ซึ่งมีการตกแต่งโชว์รูมมาตรฐานมีโลโก้บ่งชี้แบรนด์ VOLT และ WULING อย่างชัดเจน พร้อมศูนย์บริการช่างที่ผ่านการอบรมจากบริษัทฯ เพื่อรองรับลูกค้า ทั้งนี้ดีลเลอร์ทั่วประเทศ มีความพึงพอใจต่อผลการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั้งสองแบรนด์ ขณะเดียวกัน เราได้รับการติดต่อจากผู้สนใจจะเป็นดีลเลอร์เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรากำลังพิจารณาโดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่เรายังขาด ทั้งนี้เพื่อเสริมการให้บริการหลังการขายของเราครอบคลุมทั่วประเทศให้มากที่สุด” นายพิทยา กล่าว

VOLT CITY EV เป็น รถยนต์ไฟฟ้า 100% สำหรับใช้ในเมือง ยี่ห้อแรกของไทย มีขนาดตัวถังยาว 3.38 เมตร ขนาดใกล้เคียงกับ Kei-Car ญี่ปุ่น หรือ อีโค่คาร์ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี มีกำลังขับเคลี่อนด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnetic Synchronous Motor (PMSM) ให้กำลัง 34 kw หรือ 46 แรงม้า และมีค่าแรงบิดกว่า 100 นิวตันเมตร ซึ่งมากกว่ารถอีโคคาร์น้ำมันทั่วไป ทำให้การขับเคลื่อนคล่องตัว และ วิ่งความเร็วสูงสุดได้ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีขนาดแบตเตอรี่ 16.5 kwh ในรุ่น For-Four รองรับการขับได้ไกลถึง 200 กิโลเมตร และ 11.8 kwh ในรุ่น For-Two รองรับการขับได้ไกลถึง 165 กิโลเมตร โดยแบตเตอรี่ทั้งสองรุ่น ผ่านการทดสอบมาตรฐานสูงสุดในระดับสากล คือ ECE R100 ที่สถาบันยานยนต์ของไทย และมีการรับประกันถึง 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร ออฟชั่นในตัวรถ มีกระจกไฟฟ้า ระบบหน้าจอสัมผัสแบบ Dual-Screen รองรับการ Mirror มือถือทั้ง Android และ Apple แอร์ปรับ 4 ระดับ มีระบบเก็บพลังงาน Regenerative Braking พร้อม ระบบวัดลมยางอัตโนมัติ ระบบป้องกันเบรกลื่นไถล แบะ ระบบถุงลมนิรภัย เสริมความปลอดภัยตลอดการขับขี่ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 335,000 บาทจนถึง 415,000 บาท

WULING AIR EV ปัจจุบันมี 2 รุ่น คือ Standard Range และ Long Range เป็นรถซิตี้ อีวี 4 ที่นั่ง 3 ประตู ซึ่งบริษัท อีวี ไพรมัส จะเปิดตัวรถทั้ง 2 รุ่น โดยตัวรถมีขนาดความยาว 2,974 มม. ความกว้าง 1,505 มม. และความสูง 1,631 มม. ความจุของแบตเตอรี่สำหรับรุ่น Standard Range 17.3 kWh สามารถวิ่งได้ 200 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 8 ชั่วโมง และรุ่น Long Range ความจุของแบตเตอรี่ 26.7 kWh สามารถวิ่งได้ 300 กม. ต่อการชาร์จแบบ AC 6.6 kw 1 ครั้ง 4 ชั่วโมง ในรุ่น Long Range มีแอพพลิเคชั่นควบคุมการทำงานของรถได้จากระยะไกล อาทิ ล็อค-ปลดล็อครถ ปรับกระจก ขึ้น-ลง เปิด-ปิดแอร์ เช็คสถานะแบตเตอรี่ ระยะทางที่วิ่งได้ และ ตำแหน่งรถ

สำหรับราคาเริ่มต้นของรุ่น Standard Range 415,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถและแบตเตอรี่ 2 ปีหรือ 50,000 กิโลเมตร อัตราดอกเบี้ย 3.49% และรุ่น Standard Range Extended ราคา 425,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.69% บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 2 ปี กรมธรรมชั้นหนึ่งของวิริยะ ประกันภัย แถมฟรีกระจกแบบ Tinted Privacy Glass จากโรงงาน ฟรี Charging Socket พร้อมเบรกเกอร์และชุดซ่อมยางอัตโนมัติ

ส่วนรุ่น Long Range ราคาเริ่มต้นที่ 475,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถและแบตเตอรี่ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3.49% และรุ่น Long Range Extended ราคา 495,000 บาท ด้วยเงื่อนไขการรับประกันตัวรถ 3 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตรและการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปีหรือ 120,000 กิโลเมตร อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.69% บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 2 ปีและกรมธรรมชั้นหนึ่งของวิริยะ ประกันภัย แถมฟรีกระจกแบบ Tinted Privacy Glass จากโรงงาน ฟรี Charging Socket พร้อมเบรกเกอร์และชุดซ่อมยางอัตโนมัติ และฟรีค่าบริการรายเดือนเชื่อมต่อ Wuling IoV Application เป็นระยะเวลา 3 ปี