สโฟวล์ท เฉลิมฉลองชุดแบตเตอรี่แรกจากสายการผลิตจากโรงงานในประเทศไทย
ถือเป็นการต่อยอดอีกความสำเร็จของ สโฟวล์ท
สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี บริษัทผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบการจัดเก็บพลังงานระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองฉางโจว ประเทศจีน ร่วมกับ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดพิธีเฉลิมฉลองการผลิตแบตเตอรี่ประกอบชุดแรกจากการประกอบจากสายการผลิตของ โรงงาน SVOLT Energy Module Pack ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นการต่อยอดอีกความสำเร็จของ สโฟวล์ท หลังจากที่ได้เข้ามาในประเทศไทยและมีการวางศิลาฤกษ์เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ ตอกย้ำความตั้งใจในการเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจัง
ภายในงานได้รับเกียรติจาก มร. จาง เฟิง รองประธานอาวุโส และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของ สโฟวล์ท นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด มร. เกร็ก ลี รองประธานบริหารฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) มร. เป่า จ้วงเฟย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โฮซอน ออโต้ ไทยแลนด์ เซลส์ และ มร.เฉิง เล่ย ผู้จัดการทั่วไป สโฟวล์ท ประเทศไทย ร่วมเฉลิมฉลองช่วงเวลาของก้าวสำคัญนี้ด้วยกัน
โดยผลิตภัณฑ์แรกที่ออกจากสายการผลิตจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ SVOLT Energy Module Pack คือ ชุดแบตเตอรี่ SVOLT LCPT ซึ่งเป็นชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไออนฟอสเฟตมีความจุพลังงาน 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง ช่วยให้ยานพาหนะสามารถขับเคลื่อนได้มากกว่า 500 กิโลเมตร สำหรับแบตเตอรี่ประกอบนี้ เป็นการนำเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์รุ่นเด่นของสโฟวล์ท อย่างเซลล์แบตเตอรี่ Short Blade L600 และ เทคโนโลยี LCTP (Low-Carbon Transition Plan) เข้ามารวมไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนการผลิตต่ำ แต่มีประสิทธิภาพการใช้งานสูงและให้กำลังไฟฟ้าที่มาก ทำให้แบตเตอรี่ของ สโฟวล์ท ที่ผลิตขึ้นมานั้น ถือเป็นตัวเลือกที่มีความสามารถในการแข่งขันและเป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าไทยในเซ็กเมนต์รถยนต์ส่วนบุคคลขนาดเล็ก หรือ A Segment นอกจากนี้ สโฟวล์ท ยังมีการวางแผนที่จะเริ่มใช้แบตเตอรี่ชุดประกอบในไทยภายในเดือน มีนาคม 2567 กับรถยนต์เจ้าเหมียวไฟฟ้าขวัญใจชาวไทยรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีการเปิดตัวและเริ่มส่งมอบ New GWM ORA Good Cat ที่ออกจากสายการผลิตในประเทศไทยภายในต้นปี 2567 นี้
มร. จาง เฟิง รองประธานอาวุโสและประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ สโฟวล์ท กล่าวว่า “การเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ชุดแรกของโรงงาน สโฟวล์ท ประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา สโฟวล์ท ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลังจากการผลิตชุดแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เราจะยังคงมุ่งเน้นไปที่สายการผลิตระบบการกักเก็บพลังงานแบบครบวงจร และพัฒนาธุรกิจด้านการกักเก็บพลังงานของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่ลิเธียมคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้าทุกท่าน สโฟวล์ท ให้ความสำคัญกับคุณภาพและปริมาณของผลิตภัณฑ์ของเราเสมอมา เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด และสบายใจไร้กังวล จากการการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (Operations and Maintenance) และบริการหลังการขายต่าง ๆ ของเรา”
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกันกับ สโฟวล์ท นับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในความตั้งใจของเราในการจัดตั้งเครือข่ายอุตสาหกรรมของแบตเตอรี่ลิเธียม และชุดแบตเตอรี่นี้เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกของเราหลังจากการเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการ เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจากการร่วมมือกันในครั้งนี้จะนำพาเราไปสู่อีกขั้นของความสำเร็จในการผลิตและจำหน่ายอย่างแน่นอน”
โรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ สโฟวล์ท ก่อตั้งขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) และ บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด บริษัทในเครือบ้านปู ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานระดับนานาชาติ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการใช้แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ที่ขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือรถยนต์ขับเคลื่อน 3 ล้อ รวมไปถึงระบบกักเก็บพลังงานและการรีไซเคิลแบตเตอรี่อีกด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่ได้มีการริเริ่มโครงการผลิตชุดแบตเตอรี่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทุก ๆ ภาคส่วนได้มุ่งมั่นฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายต่าง ๆ ตั้งแต่การปรับปรุงโรงงานจนสามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ได้ภายในระยะเวลาเพียง 5 เดือน เพื่อให้ตอบสนองความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยและทั่วทั้งภูมิภาค ความสำเร็จของการเปิดตัวชุดแบตเตอรี่ชุดแรกนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัท และในอนาคต บริษัทฯ จะเริ่มดำเนินการขยายตลาดทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลักดันการพัฒนาแหล่งพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่และคาร์บอนต่ำที่มีประสิทธิภาพ