สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกับ 12 ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั่วไทยรณรงค์ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าวางเเผนการเดินทาง
เเละเเบ่งปันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าช่วงเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2566
วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ณ สถานีบริการ PT บรมราชชนนี 2 จุดชาร์จ EleX By EGAT สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย นำโดย คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) พร้อมด้วย คุณจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (MEA) , คุณพิชิต พงษ์ประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจใหม่-ยานยนต์ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT), คุณพูนพัฒน์ โลหารชุน ซีอีโอ บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จำกัด พร้อมด้วยดร.ชนะ เยี่ยงกมลสิงห์ กรรมการ กิจกรรมนักศึกษา, คุณอัษฏายุทธ รุธิรโก กรรมการ เลขาธิการ WG3 คุณสุโรจน์ แสงสนิท อุปนายกฯ ฝ่ายอุตสาหกรรม และคุณฉันทกร เดวิชญ์ กริดวิชญยาการ กรรมการสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย และประธานคณะทำงาน Charging Consortium ร่วมกันรณรงค์ ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า วางเเผนการเดินทางเเละเเบ่งปันการชาร์จ ในช่วงการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2566
สืบเนื่องจากช่วงเดินทางเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางท่องเที่ยว ในช่วงดังกล่าวด้วยรถยนต์ส่วนตัว ในส่วนนี้มีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ารวมอยู่ด้วย สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกับ 12 ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าในกลุ่ม Charging Consortium ได้แก่ 1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2. การไฟฟ้านครหลวง 3. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 4. บริษัท อรุณพลัส จำกัด 5. โครงการ Orion บริษัท ปตท. นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) 6. บริษัท กริดวิซ (ประเทศไทย) จํากัด 7. บริษัท อีโวลท์ เทคโนโลยี จํากัด 8. บริษัท ชาร์จแมเนจเม้นท์ จำกัด 9. บริษัท โชเซ่น เทคโนโลยี จํากัด 10. บริษัท พลังงานมหานคร จํากัด 11. บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด และ 12. บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันรณรงค์ให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า วางเเผนการเดินทาง โดยการจองจุดชาร์จไฟฟ้าล่วงหน้า เเละเข้าจอดชาร์จให้ตรงตามเวลาที่จองไว้
รวมไปถึงเมื่อการชาร์จนั้นๆเสร็จสิ้นลงเเล้วในเเต่ละครั้ง ขอให้งดการจอดรถทิ้งไว้ เมื่อการชาร์จไฟฟ้าเเต่ละครั้งเสร็จสิ้น ควรเเบ่งปันช่องจอดให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นๆด้วย นอกจากนี้พบปัญหาผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าบางรายนำรถมาจอดในจุดชาร์จ เเละนำสายชาร์จมาติดไว้ กับรถยนต์ไฟฟ้าของตนเอง เเต่ไม่ได้ทำการชาร์จไฟเเต่อย่างใด จุดประสงค์เพียงเพื่อต้องการ ที่จอดในบริเวณนั้นๆเพื่อทำธุระส่วนตัว ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นๆ ที่ต้องการชาร์จไฟ เสียโอกาสในการชาร์จไฟฟ้าไป เเละเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำ
นอกจากนี้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ไม่ต้องใช้ระบบการชาร์จไฟฟ้าก็ไม่เข้าข่ายสำหรับการจอดในช่องจอดชาร์จไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เหมาะสมเเละไม่ควรกระทำ โดยเฉพาะในช่วงการเดินทางเทศกาลวันหยุดยาวที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า จำเป็นต้องใช้ สถานีอัดประจุไฟฟ้าเพื่อจอดชาร์จไฟ เพื่อการเดินทางให้ถึงจุดหมายปลายทางต่อไป
ในขณะที่คุณพิชิต พงษ์ประเสริฐ หัวหน้าทีมพัฒนาธุรกิจใหม่-ยานยนต์ไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า “ในช่วงเทศกาลปีใหม่ กฟผ. ได้เตรียมความพร้อมของสถานี EleX by EGAT เพื่อรองรับการให้บริการกับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่จะเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับต่างจังหวัด ซึ่งมีสถานีรองรับในทุกเส้นทางหลัก สามารถค้นหา วางแผนการเดินทางและจุดชาร์จไฟระหว่างทางได้ โดยจองล่วงหน้าได้ 20 นาที ภายในรัศมี 30 กิโลเมตร แอปพลิเคชัน EleXA นอกจากนี้สามารถตรวจสอบสถานะหัวชาร์จได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจว่าเข้าไปแล้วสามารถชาร์จได้อย่างแน่นอน”
ด้านนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ เผยว่า “ทางสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ร่วมกับ 12 ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ในกลุ่ม Charging Consortium ของสมาคมฯ ริเริ่มเเคมเปญนี้ ในโอกาสช่วงปีใหม่และในโอกาสต่อๆไปตลอดระยะเวลาที่สังคมผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เริ่มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เพราะเล็งเห็นถึง ปัญหาของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มักพบเจอตามจุดชาร์จไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งเทศกาลปีใหม่นี้เป็นเทศกาลเเห่งความสุข ประชาชนหลายคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อการเดินทางไกล ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าควรวางเเผน การเดินทางก่อนทุกครั้ง โดยสามารถเช็คข้อมูลสถานีอัดประจุไฟฟ้าบนเว็บไซต์สมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทยได้เเละควรละเว้นพฤติกรรมการจอดรถยนต์ไว้ โดยไม่เคลื่อนย้ายออกจากจุดชาร์จ เมื่อการชาร์จไฟเสร็จสิ้น แต่ควรเเบ่งปันช่องจอดให้ผู้อื่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ที่มีความต้องการในการแบ่งปันการชาร์จไฟฟ้าตามจุดต่างๆมากขึ้น”
ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเช็คข้อมูล สถานีอัดประจุไฟฟ้าต่างๆทั่วไทย ได้ที่ http://www.evat.or.th/ ที่รวบรวมโดยสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
ทั้งนี้สถิติยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ประจำปี 2565 วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ยอดรวมทั้งสิ้น 8,342 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วถึง 360% ส่วนยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ยอดรวมทั้งสิ้น 8,828 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว 154% ส่งผลให้สถิติยอดจดทะเบียนสะสมกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 อยู่ที่ 12,314 คัน และยอดจดทะเบียนสะสมกลุ่มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้อยู่ที่ 15,387 คัน