ลามินาฟิล์มสานต่อแนวคิด CARING4 ลามิน่าห่วงใยคุณยกกำลัง 4
ตอกย้ำภาพลักษณ์ฟิล์มกรองแสงคุณภาพอันดับ 1 ด้วยการผสานนวัตกรรม การให้บริการ และข้อเสนอพิเศษ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ส่งผลดีต่อการเติบโตของตลาดฟิล์มและบริษัทในปีนี้
นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” ฟิล์มกลุ่มพิเศษ “ลูมาร์” ผลิตโดยซีพีฟิล์มอิงค์ มาตรฐานไอเอสโอ 9001 ในเครือบริษัท อีสต์แมน เคมิคัล จากสหรัฐอเมริกา และอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระธูเล่ จากประเทศสวีเดน
รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ครบวงจร “แอลลักซ์” คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทยปีนี้ จะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอนตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ตลอดทั้งปี 2563 ที่ผ่านมา รวมถึงการแพร่ระบาดใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยในระดับที่แตกต่างกันไป ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวและทำการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการทำงานแบบ 360 องศา
“ในส่วนของลามิน่าฟิล์มก็เช่นกัน เราเองก็มีการปรับเปลี่ยนวิธีการคิดและการปฏิบัติงานของเราไปอย่างมาก โดยเราได้เร่งพัฒนาสินค้าและบริการ ต่อยอดและสานต่อแนวคิดใหม่ ภายใต้ CARING4 ลามิน่าห่วงใยคุณยกกำลัง 4 ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้บริโภค ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด”
แนวคิด CARING4 ลามิน่าห่วงใยคุณยกกำลัง 4 จะประกอบไปด้วย หนึ่ง Caring Innovation ซึ่งลามิน่าฟิล์มนั้นได้จับมือกับโรงงานผู้ผลิตฟิล์มกรองแสงชั้นนำอันดับ 1 ของโลกจากสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมกันพัฒนาฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพสูงที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความพึงพอใจและความต้องการใช้งานสูงสุดสำหรับลูกค้าชาวไทย
ผลที่ได้ก็คือการเปิดตัวสินค้าคุณภาพสูงในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ที่สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างและหลากหลายสำหรับลูกค้าในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ลามิน่า เซราแมทริกซ์ (Lamina Ceramatrix) ฟิล์มเซรามิคแท้ตัวจริงอันดับ 1 และฟิล์มดิจิทัลน้องใหม่ ลามิน่า ซีเอ็ม ซีรีส์ (Lamina CM Series) พร้อมฟิล์มคุณภาพสูงอีกกว่า 50 รุ่นที่ทำตลาดในประเทศ
สอง Caring Services ที่ทำให้ลูกค้าลามิน่าทุกคนได้รับบริการหลังการขายที่ดีที่สุด ด้วยความมั่นคงที่คุณมั่นใจได้ ยาวนานมากกว่า 25 ปี พร้อมศูนย์ตัวแทนอีกกว่า 770 แห่งทั่วประเทศ ที่พร้อมใส่ใจดูแลคุณด้วยการรับประกันตลอด 7 ปีเต็ม พร้อมการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การจอง การติดตั้ง จนถึงการรับประกันและโปรโมชั่นพิเศษ ผ่านระบบออนไลน์ที่ www.laminafilms.com
สาม Caring Society ทุกครั้งที่ท่านติดตั้งฟิล์มลามิน่า เท่ากับได้ช่วยบริจาค 200 บาทร่วมกับลามิน่า เพื่อสมทบทุนสานต่ออนาคตที่ดีให้เด็กๆ ภายใต้โครงการลามิน่าสานฝันเด็กไทยได้เล่าเรียน และร่วมปลูกป่าติดฟิล์มให้โลกผ่านโครงการรักษ์โลกกับลามิน่า ซึ่งบริษัทเดินหน้าโครงการเพื่อตอบแทนสังคมมายาวนานกว่า 25 ปี จนถึงปัจจุบันนี้
และ สี่ Caring Promotion ด้วยการทำตลาดในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ลามิน่าฟิล์มเข้าใจและห่วงใยในสถานการณ์การใช้จ่ายของผู้บริโภค ที่ต้องการฟิล์มคุณภาพสูง ทนทานและคุ้มค่า บริษัทจึงขอมอบโปรโมชั่นออนท็อป “4 สิทธิ์ 4 รอบทุกวัน” แก่ลูกค้าและผู้เข้าชมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้
ลูกค้าและผู้เข้าชมงานมอเตอร์โชว์ทุกท่าน จะได้ลุ้นรับสิทธิ์พิเศษดับเบิ้ลโปรโมชั่นเพิ่มในงาน เมื่อเจาะจงติดฟิล์มเซรามิคแท้ตัวจริง ลามิน่า เซราแมทริกซ์ หรือ ลามิน่า ซีเอ็ม ซีรีส์ รับบัตรน้ำมันเพิ่มสูงสุดถึง 1,000 บาท ตลอดช่วงระยะเวลาของการจัดงาน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 4 เมษายน พ.ศ. 2564 เท่านั้น ที่บูธลามิน่า รหัสบี4 อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวต่อว่า แม้ภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มที่จะขยายตัว ด้วยปัจจัยบวกไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเข้าถึงวัคซีนของผู้บริโภค ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับตลาดรถยนต์ ทำให้มีการประเมินว่าตลาดรถยนต์ในปี 2564 น่าจะขยายตัวที่ระดับ 8% หรือมียอดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 8.5 – 9 แสนคัน จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ
ตลาดฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียมเองก็น่าจะมีการเติบโตเช่นเดียวกัน โดยลามิน่าคาดการณ์ว่าตลาดฟิล์มกรองแสงในปีนี้ น่าจะมีตลาดรวมที่ประมาณ 1,300 – 1,400 ล้านบาท โดยบริษัท ตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 10% เหนือตลาด โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรวมในปีนี้ที่ 770 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากยอดขายรวม 700 ล้านบาทที่ทำได้ในปี 2563 ที่ผ่านมา
“โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อว่าด้วยศักยภาพของประเทศ เราน่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ค่อนข้างเร็วและแข็งแรง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมหลักทั้งยานยนต์ ท่องเที่ยว และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแนวโน้มที่น่าสนใจในปีนี้ ก็คือการที่ตลาดสินค้าระดับพรีเมียมเริ่มเติบโตและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศไทยยังคงมีอยู่”
สำหรับตัวเลขรายได้ 700 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา แบ่งออกเป็นรายได้จากฟิล์มกรองแสง 90% และสินค้าอื่นๆ ในเครือ 10% ซึ่งในปีนี้ บริษัทจะเดินหน้ากิจกรรมการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมงานอีเวนต์ การให้ข้อเท็จจริงและให้ความรู้เกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงดิจิทัล ร่วมกับศูนย์ตัวแทนจำหน่ายกว่า 770 แห่ง และศูนย์บริการรถยนต์มากกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง