มาสด้าทรานส์ฟอร์มองค์กร เสริมทัพผู้บริหาร ดันคนเก่งเสริมแกร่ง
เร่งเครื่องสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เน้นสร้างประสบการณ์ลูกค้า
มาสด้าผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมียมสัญชาติญี่ปุ่น ประกาศเสริมทัพครั้งสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต Competitive Advantage ดันผู้นำรุ่นใหม่เสริมความแข็งแกร่งการบริหารงานองค์กรแบบ 360 องศา นำแนวความคิดและเทคนิควิธีการบริหารจัดการสมัยใหม่เชิงสร้างสรรค์ ภายใต้กลยุทธ์ Retention Business Model ให้ความสำคัญด้านการขาย การบริการ การดูแลลูกค้า โดยเฉพาะการสร้างความพึงพอใจสูงสุดกับแฟนมาสด้าในประเทศไทยให้เกิดความประทับใจ ด้วยพันธสัญญาเร่งด่วนคือส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าสัมผัสได้ ยึดมั่นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตอกย้ำแบรนด์คือหัวใจสำคัญ การสร้างแบรนด์คือแนวทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืน สร้างความมั่นใจและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าในทุกมิติ เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเสริพทัพนับจากปีนี้เป็นต้นไป
มร. ทาดาชิ มิอุระ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างใหม่ครั้งนี้ มีภารกิจหลักร่วมกัน คือการสร้างธุรกิจให้ยั่งยืนภายใต้นโยบาย Retention Business Model ผ่านการสร้างประสบการณ์ลูกค้าให้ดีที่สุด ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรด้วยการทำงานเป็นทีม “One Mazda” รองรับ New Business Landscape ในอนาคต ตลอดจนการ Empowerment ดึงคนรุ่นใหม่เข้าร่วมทีม และดันผู้บริหารรุ่นใหม่ขององค์กรร่วมสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบ AGILE ให้เกิดความคล่องตัว เป็นมืออาชีพ และไร้รอยต่อ จากพนักงานภายในองค์กรสู่ผู้แทนจำหน่ายถ่ายทอดถึงลูกค้า ผ่านคุณค่าหลัก 3 แกน คือ ให้ความสำคัญกับมนุษย์อย่างแท้จริง มีสปิริตของนักสู้ แบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น Omotenashi มอบประสบการณ์ความประทับใจด้วยความใส่ใจและเป็นมิตร ตามวิสัยทัศน์การมุ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่จะสร้างความสุขที่มากกว่าแค่ความสุขในการขับรถ สร้างคุณค่าและเติมเต็มชีวิตให้กับผู้คนที่ได้สัมผัสแบรนด์มาสด้าในทุกประสบการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิต
การปรับโครงสร้างการบริหารงานองค์กรใหม่ในครั้งนี้ ครอบคลุมการบริหารงานภายในองค์กรครบทุกฟังก์ชัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567
- สายงานกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจ นำทัพโดย นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส ขยับขึ้นมาดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหาร หรือ Executive Vice President กำกับดูแลการดำเนินธุรกิจมาสด้าแบบครบวงจร ขับเคลื่อนองค์กรและผลักดันความสำเร็จของ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ให้เป็นแบรนด์ที่สร้างความรักความผูกพันอย่างเหนียวแน่นในใจของลูกค้าตลอดไป
- สายงานวางแผนกลยุทธ์และปฏิบัติการ นำโดย มร. ทาเคชิ มิคามิ รองประธานบริหารส่วนวางแผนกลยุทธ์และปฏิบัติการ ขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานบริหาร CFT Operations หรือ Vice President ผ่านวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับระบบปฏิบัติงาน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร รวมถึงทำงานร่วมกันด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นผนวกกับความแข็งแกร่งของบุคลากรคนไทย
- สายงานขาย นำโดย นายพิเชษฐ์ ปุณณารักษ์ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย หรือ General Manager กำกับดูแลส่วนงานขายทั่วประเทศ ประสานงานกับผู้จำหน่ายแบบไร้รอยต่อ เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการดำเนินธุรกิจรถยนต์เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปและมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
- สายงานบริการหลังการขาย ดึง นายศราวุฒิ บรรยงค์กุล เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการหลังการขาย หรือ General Manager กำกับดูแลส่วนงานบริการหลังการขายทั่วประเทศ การวางระบบหลังบ้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลลูกค้า เพราะการบริการคือหัวใจสำคัญของการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
- สายงานการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ นำทีมโดย นายวัชระ เจียรบุญ ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไปแผนกการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กำกับดูแลส่วนงานวางแผนกลยุทธ์การตลาด การสื่อสารแบรนด์ การวางแผนผลิตภัณฑ์ และสร้างสรรค์ประสบการณ์ลูกค้า รวมถึงติดต่อประสานงานกับภาครัฐ
จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้หลายองค์กรต้องปรับตัวให้เหมาะสมกับภาวะตลาดรถยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อพัฒนาธุรกิจให้สามารถเดินหน้าและเติบโตมั่นคงได้นั้น การเตรียมพร้อมตั้งแต่กระบวนการในการจัดการบริหารองค์กร และการพัฒนาองค์กรยุคใหม่ให้เหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่หลาย ๆ องค์กรหันมาใส่ใจกันมากขึ้น การปรับทัพผู้บริหารมาสด้าในจังหวะที่ตลาดรถยนต์มีการแข่งขันที่รุนแรงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายมากที่สุดที่มาสด้ากำลังก้าวข้ามไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในอนาคต โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่และรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจ่อคิวลงตลาดในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกระตุ้นตลาดรถยนต์ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งผู้บริหารทั้งหมดจะนำเอาความรู้ความเชี่ยวชาญ ความสามารถอันเต็มเปี่ยม และประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมายาวนานมาบริหารองค์กรเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จของบริษัทร่วมกัน โดยเฉพาะการส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่เป็นเลิศให้ลูกค้า นำพาให้มาสด้าก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงยั่งยืน